RSS
Showing posts with label leverage. Show all posts
Showing posts with label leverage. Show all posts

คำศัพท์ประจำวงการ forex

รู้จักศัพท์ ที่ใช้ใน ฟอร์เร็กซ์
หลังจากได้เรียนทักษะ ใหม่ ๆ ก็ควรต้องเรียนศัพท์ ที่ใช้ในวงการฟอร์เร็กซ์ด้วยม รู้จัก ส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่จะ เริ่มเทรด บางคำนี้ อาจจะรู้อยู่แล้ว ไม่้เป็นการเสียหลาย ในการทบทวนสิ่งที่รู้มา

ค่าเงินหลัก ค่าเงินรอง
ค่าเงินหลัก ที่มีการเทรดมากที่สุด (USD, EUR, JPY, GBP, CHF, CAD, NZD, AUD) เรียกว่า major currencies
ค่า เงินอื่น ๆ เรียกว่า minor currencies ไม่ต้องสนใจ minor currencies มาก ส่วนใหญ่จะเฉพาะคนที่เล่นมานาน แล้วเท่านั้น ในที่นี้ส่วนใหญ่ จะพูดถึง Fab Five (USD, EUR, JPY, GBP, CHF) ค่าเงินเหล่านี้ มีสภาพคล่องสูง และน่าดึงดูดให้เทรดมากที่สุด


Base Currency
base currency คือ ค่าเงินตัวแรก หรือตัวหน้าของคู่เงินแต่ละคู่ แสดงมูลค่าเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ second currency ตัวอย่างเช่น ถ้า USD/CHF เรท เท่ากับ 1.6350 หมายความว่า 1 ดอลล่าร์ มีมูลค่าเท่ากับ 1.6350 สวิสฟรังค์ ในตลาดฟอร์เร็กซ์ดอลล่าร์ส่วนใหญ่จะถูกใช้เป็น ค่าเงินพื้นฐาน (base currency) ในการคำนวณ คือ เราใช้เงิน 1 USD เทียบกับค่าเงินอื่นในคู่อื่น ๆ นั้น แต่ยกเว้นค่าเงินเหล่านี้ เงินปอนด์ เงินยูโร เงินดอลล่าร์ออส เตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะใช้ค่าเงินตัวเองเป็น ค่าเงินพื้นฐานในการคำนวณ


Quote Currency
quote currency หรือค่าเงินอ้างอิง เป็นค่าเงินตัวที่สองของคู่เงิน ที่มีในตลาดฟอร์เร็กซ์ ซึ่งบางครั้งอาจจะ เรียกว่า pip currency และกำไรที่เรายังไม่รับรู้ (คือยังไม่ได้ปิด position) ก็จะถูกอธิบายมาเป็นค่าเงินนี้


Pip
pip คือหน่วย ที่เล็กที่สุดของราคาในแต่ละค่าเงิน แทบทุกค่าเงินจะมีทศนิยมอยู่ข้างหลังตัวเลขอยู่เสมอ ตัวอย่าง EUR/USD อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 1.2538. ในที่นี้ 1 pip เป็นการเปลี่ยนแปลงในสี่จุดทศนิยม นั่นก็คือ 0.0001 ดังนั้น ถ้าค่าเงินอ้างอิงในคู่เงินใด ๆ คือ USD 1 จะเท่ากับ 1/100 ของ 1 cent. USD/JPY มีข้อยกเว้น เพราะว่า 1 pip = $0.01.


Bid Price
Bid เป็นราคาตลาด ที่ใช้ในการซื้อค่าเงินในตลาดฟอร์เร็กซ์ ณ ราคานี้ เทรดเดอร์ใช้ในการ sell base currency. จะแสดงอยู่ทางด้านซ้ายของราคาค่าเงิน ตัวอย่าง ในคู่ GBP/USD 1.8812/15, bid Price คือ 1.8812. หมายถึง เรา sell 1 ปอนด์ แล้วเราจะได้เงิน 1.8812 ดอลล่าร์


Ask Price
Ask เป็นราคาที่ใช้ในการขายค่าเงินใด ๆ ในตลาดฟอร์เร็กซ์ ที่ราคานี้ เทรดเดอร์ จะ buy base currency และ อยู่ด้านขวา ของราคาค่าเงิน ตัวอย่าง EUR/USD 1.2812/15 ask price คือ 1.2815 หมายถึง เราสามารถ buy 1 ยูโร โดยใช้เงิน 1.2815 ดอลล่าร์ และราคานี้เรียกว่า offer price.


Bid/Ask Spread
Spread เป็นความแตกต่างระหว่างราคา bid กับ ask "big figure quote" เป็นคำพูดที่โบรคเกอร์ใช้ในการอธิบาย ค่าเงิน ที่มีทศนิยมน้อย โบรคเกอร์จะไม่พูดตัวเลขค่าเงินหลักข้างหน้า ตัวอย่างเช่น USD/JPY มีอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 118.30/118.34 แต่ว่าพวกเขาจะเรียกสั้น ๆ ว่า 30/34


ที่มาของอัตราแลกเปลี่ยน
อัตราเปลี่ยนในตลาดฟอร์เร็กซ์ อธิบายได้ง่าย ๆ ดังนี้ Base currency / Quote currency , Bid / Ask


Transaction Cost
ค่า bid/ask หรือ spread นั้นก็คือ transaction cost เป็นค่าใช้จ่ายในการเทรดต่อครั้งนั่นเอง หนึ่งรอบ จึง หมายถึง การซื้อ (หรือขาย) และการปิดบัญชีที่เราซื้อ(หรือขาย) ในขนาดของออร์เดอร์ที่เท่ากัน และค่าเงิน เดียวกัน ตัวอย่างเช่น ในกรณีของ EUR/USD อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1.2812/15, transaction cost เท่ากับ 3 จุดนั่นเอง สูตรในการคำนวณ Transaction Cost คือ Transaction cost = Ask Price – Bid Price


Cross Currency
cross currency คือคู่เงินใด ๆ ที่ไม่มีค่าเงินดอลล่าร์อยู่ในคู่เงินนั้น ๆ ซึ่งคู่เหล่านี้จะเอาแน่เอานอนไม่ได้ (ผันผวน) เพราะต้องใช้คู่เงินที่มีดอลล่าร์สองคู่มาเทียบข้ามคู่กัน ตัวอย่าง ในการ buy EUR/GBP หมายความว่า เรากำลัง buy คู่ EUR/USD และกำลัง sell คู่ GBP/USD อยู่ การเล่นคู่ที่เป็น Cross currency จะทำให้มีค่า transaction cost สูงขึ้นด้วย


Margin
เมื่อเปิดบัญชีแบบ มาร์จิ้นใหม่กับฟอร์เร็กซ์โบรคเกอร์ เราต้องฝากเงินไว้กับโบรคเกอร์ด้วย ซึ่งก็จะมีขั้นต่ำ แล้วแต่ว่า โบรคเกอร์จะให้ฝากเท่าไหร่ บางโบรคเกอร์อาจจะให้ฝากแค่ 100 เหรียญ และบางโบรคเกอร์อาจจะให้ฝากถึง 100,000 เหรียญ (บางโบรคเกอร์ มีเงินจริงเล็กน้อย ให้เล่นในบัญชี ซึ่งจะถูกหักกลับเมื่อจะมีการโอนออกครั้งแรก) ในแต่ละครั้ง ที่คุณเทรด จะคิดเเป็นเปอร์เซ็นต์ของของเงินทั้งหมดของบัญชีมาร์จิ้น จะเรียกว่า initial margin requirement ซึ่งขึ้นอยู่กับค่าเงินและราคา รวมทั้งขนาดของลอทของคู่เงินนั้น ๆ ที่เราเทรด ซึ่งขนาดของลอทคือ ขนาดของ base currency. ตัวอย่าง หากเราเปิดบัญชี mini ซึ่งสามารถใช้ Leverage ได้ที่ 200:1 หรือ 0.5 % ของมาร์จิ้น บัญชีแบบ Mini สามารถเทรด mini lot ได้ ถ้าให้ 1 mini lot เท่ากับ 10,000 เหรียญ เราจะต้องใช้ มาจิ้นเท่ากับ 50 เหรียญ ($10,000 x 0.5% = $50).


Leverage
Leverage คือ อัตราส่วนของทุนที่ใช้เป็นต้นทุนในการส่งออร์เดอร์ ซึ่งจะต้องใช้มาร์จิ้น Leverage เป็นสิ่งที่สามารถ ใช้เงินจำนวนหนึ่งในการถือครอง Position ที่ใหญ่กว่าจำนวนเงินทุนของเรา Leverage จะแตกต่างกันไป ตามแต่ละ โบรคเกอร์ ซึ่งอาจจะเริ่มตั้งแต่ 2:1 ไปจนถึง 400:1


Margin + Leverage = ความสามารถในการพิฆาตบัญชีของคุณในพริบตา
การ เทรดค่าเงินที่ใช้มาร์จิ้นนี้ เราสามารถเพิ่มพลังในการซื้อได้ คือถ้าเรามีเงินอยู่ 5,000 เหรียญ ในบัญชีมาร์จิ้น และใช้อัตรา leverage ที่ 1:100 ก็จะสามารถซื้อค่าเงินได้มูลค่าถึง 500,000 เหรียญ เพราะเราแค่ใช้มาร์จิ้นแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าที่จะซื้อได้ หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า เรามีกำลังซื้อถึง 500,000 เหรียญ ด้วยกำลังซื้อที่สูงนี้ สามารถให้ผลตอบแทนต่อส่วนทุนมีสูงขึ้น แต่ก็ต้องระวังไว้เช่นกัน เพราะการใช้มาร์จิ้น ทำให้มี โอกาส ได้กำไรสูง และขาดทุนสูงเท่า ๆ กัน


Margin Call
เทรด เดอร์ส่วนใหญ่จะกลัวกับคำว่า margin call เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อโบรคเกอร์ บอกว่า ตอนนี้ มาร์จิ้นของคุณ น้อยกว่าเกณฑ์ที่ต้องใช้ในการถือครอง position เพราะ ค่าเงินนั้น เคลื่อนไหวในทางตรงข้ามกับ Position ที่ถืออยู่ ขณะที่กำลังเทรดโดยใช้มาร์จิ้นนั้น เราอาจจะมีกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้ แต่ว่ามันสำคัญที่ต้องเข้าใจความเสี่ยงด้วย ต้องเข้าใจ เกี่ยวกับบัญชีมาร์จิ้นอย่างละเอียด และต้องอ่านข้อตกลง ตอนเปิดบัญชีระหว่างเรากับโบรคเกอร์ อย่างถี่ ถ้วน ให้ถามโบรคเกอร์ ถ้าไม่เข้าใจข้อตกลงข้อไหน Position จะต้องถูกปิด แต่ราคามันอาจจะวิ่งไปต่ำกว่า มาร์จิ้น ที่มีในบัญชี เมื่อราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ดังนั้น คุณอาจจะไม่ได้รับการเตือน margin call เพราะ ออร์เดอร์ของคุณจะโดนปิดไปซะก่อน(เรื่องที่ไม่คาดฝัน) Margin calls สามารถเลี่ยงได้โดยการดูหน้าจอเทรด ให้บ่อยขึ้น หรือ โดยการใช้ stop-loss order เพื่อจำกัดความเสี่ยง


หมายเหตุผู้แปล :
margin call ตามความรู้ของผู้แปลคือ การที่บัญชีถึงจุดต่ำกว่ามาร์จิ้นที่ต้องใช้ในการถือครอง position ปกติ จะใช้ใน ตลาด future ซึ่งถ้ายอดขาดทุนต่ำกว่า ทางโบรคเกอร์จะเรียกให้ฝากมาร์จิ้นเพิ่ม ไม่เช่นนั้น โบรคเกอร์ ก็จะปิด position ของเราเพื่อมิให้เกิดการขาดทุนกับโบรคเกอร์ เพราะตลาดฟิวเจอร์มีการใช้ Leverage เหมือนกับ ตลาดค่าเงิน แต่อาจจะ ต่ำกว่ามาก

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-634/?/

margin call คืออะไร?

 ในเหตุการณ์ที่เงินในบัญชีของคุณลดลง จนเหลือน้อยกว่า มาร์จิ้นขั้นต่ำ (มาร์จิ้นที่คุณต้องใช้ในการถือ position) โบรคเกอร์จะทยอยปิด ออร์เดอร์ที่คุณเปิดอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีคุณขาดทุนจนติดลบ โดยเฉพาะ เวลาที่ตลาด มีความผันผวนสูง คือราคามีการเคลื่อนไหวกว้าง

ตัวอย่างที่ 1
คุณ เปิดบัญชีฟอร์เร็กซ์ ด้วยเงิน 2,000 เหรียญ(ไม่ใช่ความคิดที่ดี) คุณเปิดบัญชี 1 สแตนดาร์ด ลอท( 100,000 unit) ของค่าเงิน EUR/USD ซึ่งต้องใช้มาร์จิ้น 1,000 เหรียญ มาร์จิ้นที่เหลืออยู่ คุณสามารถเปิดออร์เดอร์เพิ่ม หรือ สามารถ รองรับการขาดทุนของออร์เดอร์ที่เปิดอยู่ ตั้งแต่แรกที่เปิดบัญชี 2,000 เหรียญ คุณมีมาร์จิ้น ที่สามารถ ใช้เทรดได้ 2,000 เหรียญ แต่เมื่อเทรด 1 สแตนดาร์ดลอท ซึ่งจะใช้มาร์จิ้น 1,000 เหรียญ และมาร์จิ้นที่จะเหลืออยู่ คือ 1,000 ถ้าคุณเสียมากกว่ามาร์จิ้นที่เหลืออยู่ คือ 1,000 เหรียญ คุณจะโดน margin call

ตัวอย่างที่ 2
คุณเปิดบัญชี ด้วยเงิน 10,000 เหรียญ แล้วเปิดบัญชี 1 สแตนดาร์ดลอท ของค่าเงิน EUR/USD จะต้องใช้ margin 1,000 เหรียญ มาร์จิ้นที่เหลือเป็นเงินที่สามารถใช้ในการเปิดออร์เดอร์ หรือ เอาไว้รองรับการขาดทุนจากออร์เดอร์ ที่เปิดอยู่ ดังนั้ถ้าเปิดที่ 1 standard lot ด้วยมาร์จิ้น 10,000 เหรียญ หลังจากเปิดออร์เดอร์ จะมีมาร์จิ้นเหลืออยู่ 9,000 เหรียญ เพราะ 1,000 เป็นมาร์จิ้นที่ถูกใช้ไปแล้ว ถ้าคุณเสียมากกว่ามาร์จิ้นที่เหลือ 9,000 เหรียญ คุณก็จะถูก margin call ต้องทำความเข้าใจกับความแตกต่างของ

มาร์จิ้นที่ถูกใช้ไป (used margin) กับ มาร์จิ้นที่เหลืออยู่ (usable margin) คืออะไร
ถ้า มูลค่ารวมของบัญชีคุณ มีน้อยกว่า มาร์จิ้นที่เหลือ เนื่องมาจากผลขาดทุนของการเทรด คุณจะต้องฝากเงินเพิ่ม หรือ ไม่เช่นนั้นโบรคเกอร์จะปิดออร์เดอร์ของคุณ เพื่อจำกัดความเสี่ยงของคุณ และความเสี่ยงของโบรคเกอร์เอง เพื่อไม่ให้ คุณเสียมากกว่าที่คุณเทรด

ถ้า เทรดโดยใช้บัญชีแบบมาร์จิ้น (ยืมเงินโบรคเกอร์เล่น แบบตลาดหุ้น) มันสำคัญมากที่จะต้องเข้าใจนโยบาย เกี่ยวกับ บัญชีมาร์จิ้นให้ละเอียด

ควร จะรู้ว่าโบรคเกอร์ส่วนใหญ่ จะเรียกมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ ครั้งแรกพวกเขาอาจจะให้ใช้มาร์จิ้นที่ 1 % ช่วงกลางสัปดาห์ ถ้าคุณถือ position ข้ามสัปดาห์ อาจจะต้องใช้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้นจาก 1 % เป็น 2% หรืออาจจะ สูงกว่านั้น

เรื่องของมาร์จิ้น เป็นเรื่องที่น่ารำคาญใจ และบางคนบอกว่า การใช้มาร์จิ้นเยอะเกินไปเป็นเรื่องอันตราย ขึ้นอยู่กับ ความเข้าใจของแต่ละบุคคล แต่สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือ คุณควรจะเข้าใจเงื่อนไข หรือนโยบายเกี่ยวกับมาร์จิ้น ของ โบรคเกอร์ จะได้เข้าใจถึงความเสี่ยงที่มีอยู่ด้วยนั่นเอง

บางโบรคเกอร์ได้อธิบายเกี่ยวกับการใช้ leverage ในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น โดยใช้หลักการธรรมดา ๆ ระหว่าง 2 แบบ คือ

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/margin-call/?/

leverage คืออะไร?

คุณอาจจะเคยคิดว่า นักลงทุนเล็ก ๆ อย่างคุณ จะสามารถเทรดค่าเงินมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร ลองคิดเปรียบว่า โบรคเกอร์ ก็คือธนาคาร ซึ่งเขาอยากให้คุณซื้อค่าเงินมูลค่า 100,000 เหรียญ โดยที่เขาต้องการเงินจากคุณเพียง แค่ 1,000 เหรียญ เพื่อค้ำประกัน ฟังดูง่ายเกินไปในโลกของความจริงใช่ไหม? แต่ว่า นี่แหละคือฟอร์เร็กซ์ และ นี่ก็คือ Leverage ที่เราใช้

จำนวน leverage ที่คุณใช้ ขึ้นอยู่กับโบรคเกอร์ และขึ้นอยู่กับตัวคุณว่า ต้องการใช้เท่าไหร่

โบ รคเกอร์จะให้คุณฝากเงินเข้า ที่เราเรียกกันว่า margin หรือ initial margin เมื่อฝากเงินเข้าบัญชี คุณจะสามารถ เทรดได้ทันที และโบรกเกอร์ก็จะบอกว่า คุณต้องใช้เงินเท่าไหร่ ในการเทรดจำนวน ลอทนั้น ๆ

เช่น ถ้า leverage ที่เราใช้เท่ากับ 100:1 (หรือ 1 เปอร์เซ็นต์ ของ position ต้องใช้) และคุณต้องการเทรดมูลค่า 100,000 เหรียญ โบรคเกอร์จะเรียกมาร์จิ้น 1,000 เหรียญ ดังนั้นถ้ามีเงิน 5,000 เหรียญ จะเทรดได้มากสุดถึง 500,000 เหรียญ

มาร์ จิ้นอย่างต่ำต่อลอท จะแตกต่างกันออกไป ตามแต่ละโบรคเกอร์ จากตัวอย่างข้างบน โบรกเกอร์จะต้องใช้ มาร์จิ้น 1% ซึ่งหมายความว่า ออร์เดอร์มูลค่า 100,000 ซึ่งคุณจะต้องฝากเงินเข้าไป 1,000 เหรียญ เพื่อที่จะฝาก เป็นมาร์จิ้น นั่นเอง

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/leverage-631/?/

ทำไมต้องลงทุนในตลาด Forex

ข้อดีของ Forex
ตลาด Forex นั้นมีข้อดีมากมาย ซึ่งทำให้คนจำนวนมากเลือกที่จะลงทุนในตลาดนี้ เราจะยกตัวอย่างมาบ้างข้อ เช่น
1.ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
ไม่ มีการหักค่าธรรมเนียมจากบัญชีของเรา ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมจากการซื้อขาย หรือค่าธรรมเนียมจากโบรคเกอร์ โบรคเกอร์ต่างๆจะได้ค่าตอบแทนในบริการของพวกเขาจากสิ่งที่เรียกว่า Spread
2.ไม่พ่อค้าคนกลาง
ตลาด Forex ไม่มีพ่อค้าคนกลาง คุณสามารถซื้อขายสกุลเงินต่างๆจากตลาดได้โดยตรง ทำให้ราคาที่คุณซื้อขาย คือราคาจริงๆของแต่ละสกุลเงินในตลาด
3.ไม่มีการกำหนดขนาดการซื้อขาย
ใน ตลาดฟิวเจอร์หรือตลาดหุ้นจะมีการกำหนดขนาดการซื้อขายต่อ 1 หน่วยไว้ เช่น Silver futures กำหนดขนาดมาตรฐานไว้ 5,000 ออนซ์ต่อ 1 หน่วย แต่ในตลาด Forex คุณสามารถเลือกขนาดการลงทุนได้ ซึ่งเราเรียกว่า Lot ทำให้คุณสามารถเริ่มต้นลงทุนในตลาด Forex ด้วยเงินที่น้อยมากได้เช่น 25 ดอลลาร์ (ขึ้นอยู่กับแต่ละโบรคเกอร์จะอนุญาติให้คุณเปิดบัญชีขั้นต่ำเท่าไร)
4.เป็นตลาดที่เปิดทำการ 24 ชั่วโมง
เวลา ในประเทศไทย ตลาดจะเปิดตั้งแต่ 5.00 AM ในเช้าวันจันทร์ ถีง 3.00 AM ช่วงเช้าวันเสาร์ โดยจะเปิด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่มีหยุดพัก(รวม 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) เป็นข้อดีทำให้คนที่ต้องการลงทุนแบบ part-time สามารถเลือกลงทุนเวลาไหนก็ได้
5.ไม่มีใครสามารถควบคุมตลาดได้
เพราะ ขนาดของตลาดที่ใหญ่มากและมีผู้คนและองค์กรมากมายมาลงทุน ทำให้ไม่มีใครที่สามารถจะควบคุมราคาของสกุลเงินในตลาดได้ (ไม่มีใครสามารถปั่นราคาสกุลเงินในตลาด Forex ได้ แตกต่างจากตลาดหุ้นซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายน้อย ราคาสามารถถูกปั่นจากกลุ่มทุนได้ง่าย)
6.มี Leverage
ในการซืื้อขาย สกุลเงินในตลาด Forex คุณสามารถซื้อขายสกุลเงินที่มีมูลค่ามากได้ ถึงแม้คุณจะมีเงินลงทุนไม่มากก็ตาม การมี Leverage จะเปิดโอกาสให้คุณสามารถทำกำไรได้มากและขณะเดียวกันก็เป็นการลดความเสี่ยง ของเงินทุนเราด้วย
ตัวอย่างเช่น โบรคเกอร์ Forex แห่งหนึ่งเสนอให้ Leverage 1:1000 นั่นหมายความว่าถ้าคุณฝากเงินในบัญชีการลงทุน 1000 ดอลลาร์ คุณจะสามารถซื้อขายสกุลเงิน ทีมีมูลค่ารวมกันได้ถึง 1,000,000 ดอลลาร์ แม้ว่าการมี Leverage จะทำให้นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้มากแต่นั่นก็หมายความว่าเขาก็สามารถจะขาด ทุนได้มากด้วยเช่นกัน ถ้าไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี
7.มีสภาพคล่องสูง
เพราะ ว่าตลาด Forex มีขนาดที่ใหญ่มากและปริมาณการซื้อขายก็มากด้วย จึงทำให้ทุกครั้งที่คุณต้องการส่งคำสั่งซื้อหรือขายสกุลเงิน คุณจะสามารถซื้อขายได้ทันที เนื่องจากจะมีคนคอยซื้อและขายสกุลเงินนั้นๆอยู่ตลอดเวลา
8.เริ่มต้นลงทุนง่าย
เนื่อง จากคุณสามารถเปิดบัญชีการลงทุนกับโบรคเกอร์ต่างๆได้ด้วยเงินลงทุนที่ต่ำมาก เช่น 5$ หรือ 25$ และทุกคนสามารถเปิดบัญชีและลงทุนได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เนต ทำให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคนที่จะเข้ามาเริ่มลงทุนในตลาด Forex (เราไม่แนะนำให้คุณเปิดบัญชีด้วยเงินที่น้อยเกินไป เนื่องจากจะทำให้มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนสูง)

นี่คือสาเหตุที่คนทั่วโลกเขาหลงไหลในตลาด Forex
ผมจะขอยกตัวอย่าง บุคคลที่ประสบความสำเร็จในการเทรด Forex นะคัฟ
Rodrigo Villela เทรดเดอร์ค่าเงินชาวเม็กซิโก
Rudy Leder เทรดเดอร์ค่าเงินชาวอเมริกัน
Nial Fuller เทรดเดอร์ค่าเงินสไตล์ Price action
แม่บ้านญี่ปุ่นกับการเป็นเทรดเดอร์ค่าเงิน
Joe Chalhoub Forex trader ผู้ไม่ยอมแพ้

 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-620/?/

วิธีสมัครเปิดบัญชี

แนะนำโบรกเกอร์ forex ที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพให้แก่ผู้ที่เริ่มต้นใหม่

EXNESS เป็นโบรกเกอร์ที่สามารถฝากและถอนได้ สะดวกและง่ายดาย ยังสามารถ ตั้ง Leverage ได้มากถึง 1:1000 นอกจากเทรด ฟอเร็กซ์ แล้วยังเทรด Set Index เช่นหุ้นไทย หุ้นอเมริกา หุ้นฮ่องกง หุ้นญี่ปุ่น หุ้นอังกฤษ รวมถึง ตลาด Future เช่นทองคำ, น้ำมันดิบได้อย่างดี โดยมีหลาย Platform ให้เลือกและที่ง่ายและสะดวกที่สุดคือ MT4,  MT5 เป็นโปรแกรมเทรดสำเร็จรูป โดยทั่วไปนิยมใช้ฏปรแกรม MT4 เพราะใช้ง่าย


สำหรับ การถอนเงินจาก Portfolio ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (เสาร์ อาทิตย์ ก็ถอนได้) การฝากเงินเข้าทุกครั้งได้รับเวลคัมโบนัส 15% ของเงินฝากเช่นฝากเข้า 10,000 USD. จะมีเงินในพอร์ท 11,500 USD. ทันที

ปี 2009 EXNESS เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดรัสเซีย และเปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่มีความก้าวหน้าสำหรับเทรดเดอร์บริษัทขยายกิจการ เข้าสู่ CIS และประเทศในแถบเอเชีย รวมถึง จีน อิหร่าน มาเลเซียและอินโดนีเซียเมษายน – EXNESS ได้รับใบรับรอง SSL สำหรับเว็บไซต์บริษัทกันยายน – EXNESS ได้รับอนุญาตเชิงการค้าจากคณะกรรมการ FFMS สำหรับธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายล่วงหน้าโภคภัณฑ์และตัวเลือก บริษัทใช้ใบอนุญาตเพื่อการทำธุรกรรมสำหรับลูกค้าบนตลาดหุ้นเซนต์ ปีเตอร์เบิร์กผ่านระบบ FX+กันยายน – บริษัทเริ่มเสนออัตราความสามารถในการเทรดระดับ 1:1000 ให้กับลูกค้ากันยายน – ลูกค้าสามารถถอนเงินออกจากบัญชีการซื้อขายได้โดยอัตโนมัติตุลาคม – การเลือกเครื่องมือทางการเงินขยายครอบคลุมมากขึ้น และบัญชีโลหะสกุลเงินมีให้เลือกใช้เปิดบัญชี EXPERT จำนวน 5 บัญชีแรกโดยอิงอยู่กับผลประกอบการ ณ สิ้นปี

บริษัทขยายกิจการเข้าสู่ CIS และประเทศในแถบเอเชีย รวมถึง จีน อิหร่าน มาเลเซียและอินโดนีเซียเมษายน – EXNESS ได้รับใบรับรอง SSL สำหรับเว็บไซต์บริษัท

ปี 2009 EXNESS เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดรัสเซีย และเปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่มีความก้าวหน้าสำหรับเทรดเดอร์

กันยายน – EXNESS ได้รับอนุญาตเชิงการค้าจากคณะกรรมการ FFMS สำหรับธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายล่วงหน้าโภคภัณฑ์และตัวเลือก บริษัทใช้ใบอนุญาตเพื่อการทำธุรกรรมสำหรับลูกค้าบนตลาดหุ้นเซนต์ ปีเตอร์เบิร์กผ่านระบบ FX+
กันยายน – บริษัทเริ่มเสนออัตราความสามารถในการเทรดระดับ 1:1000 ให้กับลูกค้า
กันยายน – ลูกค้าสามารถถอนเงินออกจากบัญชีการซื้อขายได้โดยอัตโนมัติ
ตุลาคม – การเลือกเครื่องมือทางการเงินขยายครอบคลุมมากขึ้น และบัญชีโลหะสกุลเงินมีให้เลือกใช้
เปิดบัญชี EXPERT จำนวน 5 บัญชีแรกโดยอิงอยู่กับผลประกอบการ ณ สิ้นปี
ปี 2008 EXNESS ได้รับการก่อตั้งขึ้น ในเมืองเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก โดยกลุ่มคนที่มีความคิดเหมือนๆ กัน ที่ต่างมีความรู้ในด้านตลาดการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ EXNESS ได้รับใบอนุญาตให้ใช้สิทธิ์สำหรับ MetaTrader 4 จาก MetaQuotes Software Corp บริษัทเริ่มต้นทำการซื้อขาย Forex และลงนามในสัญญากับลูกค้าและหุ้นส่วนรายแรก
รางวัลปัจจุบันของ Exness อ่านรายละเอียดคลิ๊ก


ความน่าเชื่อถือของ Exness อ่านรายละเอียดคลิ๊ก

Address:  309, 55 lit.A Nevsky prospect, Regus Nevsky Plaza, 191025, St. Petersburg, Russia


ขั้นตอนการเปิดบัญชีเทรดกับ Exness

 
. .
- เลือกภาษาที่เราต้องการ (ภาษาไทย)
- เลือกบัญชีการซื้อขาย


- แนะนำเลือกเปิดบัญชี MINI


- กรอกข้อมูล อีเมลล์ เบอร์โทร


- กรอกชื่อ-สกุล (ภาษาอังกฤษ)
- เลือก leverage และสกุลเงิน
- กรอกรหัสที่ได้รับทาง SMS และอีเมลล์


- แนะนำเลือกประเภทรักษาความปลอดภัยเป็นแบบ โทรศัพท์เคลื่อนที่
- สร้างรหัสผ่าน


- เลือกโบนัสที่ต้องการ


- ข้อมูลบัญชีที่เราเปิด


- จะมีอีเมลล์ 3 ฉบับ ส่งเข้าอีเมลล์ของเราเป็นข้อมูลทางบัญชีต่างๆ โปรดอ่านและเก็บไว้ดีดีครับ





แนะ นำนะครับ ให้เปิดบัญชีจริงก่อน แล้ว เปิดบัญชีทดลองเล่นอีกทีนะครับเพื่อจะได้ฝึกฝนการเทรดจากบัญชีทดลองก่อน พอเราพร้อมแล้วค่อยฝากเงินเข้าบัญชีซื้อ - ขายจริง เพื่อเทรดนะครับ

ขั้นตอนต่อไป คือ วิธีการยืนยันตัวกับทางโบรกเกอร์ exness      คลิ๊กที่นี่


เพิ่มเติม
- สงสัยใหม?ครับว่าทำถึงมีบัญชีหลายแบบหลายประเภทในโบรกเกอร์ EXNESS นี้ คลิ๊กเพื่ออ่าน

- การเลือกโบรกเกอร์? คลิ๊กเพื่ออ่าน
- ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ Exness คลิ๊กเพื่ออ่าน
- Forex กับกฏหมายไทย  คลิ๊กเพื่ออ่าน
- เปิดเสรีไทยเกี่ยวกับ Forex  คลิ๊กเพื่ออ่าน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่   http://www.thaibestforex.com/forex/t613/?/

เล่นหุ้นออนไลน์ มือใหม่โปรดคลิ๊ก

คุณพร้อมหรือยัง?

"การ สร้างรายได้จากโลกออนไลน์ในปัจจุบันนี้ มีมากมายหลายรูปแบบ ผ่านธุรกิจต่างๆรวมไปถึงการลงทุนในตลาด Forex หรือตลาดซื้อขายสกุลเงินระหว่างประเทศซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้าง รายได้ให้คุณได้อย่างมหาศาล"

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะเล่นหุ้นแต่ มีทุนไม่เพียงพอหรือมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการเล่นหุ้นอยู่แล้วก็ลองอ่านราย ละเอียดเกี่ยวกับการเทรด Forex ดูครับ เพราะเป็นการลงทุนที่น่าสนใจการเทรด Forex จะคล้าย ๆ กับการเล่นหุ้นแต่ Forex จะมีสะภาพคล่องสูงกว่ามาก กร๊าฟวิ่งขึ้น-ลงเร็วและยังสามารถเล่นได้ทั้งกร๊าฟขาขึ้นและขาลง จากสภาพคล่องสูงนี่เองที่ทำให้เทรดได้หรือเสียเร็ว เงินลงทุนก็เริ่มต้นเพียง $1 เท่านั้น

Forex คืออะไร?


Forex (FOReign Exchange market) คือ ตลาดทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งที่ซื้อ-ขายกันในตลาดนี้คือเงินตราสกุลต่างๆ (การเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน) ในการซื้อ-ขายเงินตราเหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบการจับคู่แลกเปลี่ยน ตัวอย่างเช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, USD/CHF, USD/CAD, GBP/JPY เป็นต้น

ตลาด Forex มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงถึง 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าทุกตลาดทางการเงินในโลกนี้รวมกัน โดยก่อนที่จะมีอินเตอร์เน็ตแพร่หลายนั้น ตลาด Forex จะมีผู้เล่นเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ธนาคาร กองทุน ผู้นำเข้า และส่งออก แต่เมื่อมีอินเตอร์เน็ตก็เริ่มมีการพัฒนาระบบเทรดบนอินเตอร์เน็ต และเริ่มมีโบรกเกอร์ที่ให้บริการสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่สนใจให้สามารถ เริ่มต้นเทรดได้ด้วยทุนเพียง $1 เท่านั้น จึงทำให้การลงทุนในตลาดแห่งนี้แพร่หลายไปทั่วโลก


(FOREIGN EXCHANGE MARKET)


ตลาด Forex คือ ตลาดกลางสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่าง ๆ ทั่วโลก ที่รู้จักในชื่อของ FOREX , Forex , Retail Forex , FX , Spot FX หรือ Spot
ตลาด Forex นั้นเป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก และกระจายอยู่ทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ค ลอนดอน ญี่ปุ่น ยุโรป และ ออสเตรเลีย การที่มีตลาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยแต่ละพื้นที่มีเวลาเหลื่อมกัน ทำให้เสมือนว่าตลาด Forex นั้นเปิด และมีการซื้อขายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในประเทศไทยแล้ว ตลาด Forex เปิดทำการตั้งแต่ตี 4 ของเช้าวันจันทร์ จนถึง ตี 4 เช้าวันเสาร์ หรือก็คือ 24 ชม ยกเว้นวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ นั้นเอง ปัจจุบันตลาด Forex นั้นมีมูลค่าการซื้อขายต่อวัน สูงถึง 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าทุกตลาดทางการเงินในโลกนี้รวมกัน


ผลตอบแทนกับการลงทุนในตลาด FOREX

ผล ตอบแทนจากการลงทุนในตลาด Forex นั้นสูงมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้น หรือการลงทุนในกองทุน สำหรับผู้ติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อาจสงสัยว่าการลงทุนในตลาด Forex ซึ่งซื้อขายเงินตราสกุลเงินต่าง ๆ จะให้ผลตอบแทนสูงได้อย่างไร ในเมื่อแต่ละวันอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาของสกุลเงินต่าง ๆ นั้นเปลี่ยนแปลงน้อยมาก (ไม่ถึง 1%)


สิ่งที่ทำให้ตลาด Forex ให้ผลตอบแทนสูง นั่นคือ "ระบบ Leverage" ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุน สามารถลงทุนและทำกำไรได้เหมือนมีทุนเป็นร้อยเท่าจากทุนจริงที่มีอยู่ และสามารถเลือกทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลง ซึ่งทั้งหมดนี้เหมือนกับการลงทุนใน Gold Future, TFEX หรือ SET50 Future เพียงแต่ว่า สัดส่วน Leverage นั้นสูงกว่ามาก


หลายคนอาจสงสัย ว่า.. "ผลตอบแทนสูง นั้นสูงขนาดไหน ?" เปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น การลงทุนซื้อหุ้นในตลาดทุนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดได้บ่อย
แต่สำหรับตลาด Forex การทำกำไรนั้น เป็นเรื่องปกติ และธรรมดามาก จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนนั้นสูงมาก แต่ในทางกลับกันก็เป็นการลงทุนที่มีอัตราเสี่ยงสูงมาก (High Risk = High Return)
มี 100 ก็หมด 100 ได้ไม่ยาก ในเวลาอันสั้นเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่สนใจ และอยากลองลงทุนในตลาด Forex ควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุน

    เพิ่มเติมรายละเอียด Forex คือ อะไร? คลิ๊ก
    เพิ่มเติมรายละเอียด เกี่ยวกับ Forex คลิ๊ก


ความน่าสนใจของตลาด Forex
- เงินลงทุนต่ำเริ่มต้นเพียง $1
- ตลาด online ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต 24 ชั่วโมง
- สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
- ค่าดำเนินการต่ำโบรกเกอร์เก็บค่า spreed เริ่มต้นเพียง 2 pips ต่อเทรดเท่านั้น (คู่ EUR/USD)
- สามารถทดลองเทรดได้เสมือนจริงโดยใช้ virtual money (เงินปลอม) บนระบบจริง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- หากคุณศึกษาหาความรู้จนเกิดความชำนาญก็สามารถเทรด Forex เป็นอาชีพได้
- เป็นงานออนไลน์แห่งทุกปีและทุกยุคสมัยตลอดไป ใช้เวลาอยู่กับคอมพร้อมสนุกไปกับมัน
- ต่างจากงานออนไลน์ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องโปรโมทสื่อ หรือชวนคนใดๆ เพราะนี้ไม่ใช่ธุรกิจ MLM เพราะเราเทรด Forex มันได้มากกว่าธุรกิจชวนคนที่ไ้ด้ค่าคอม วันๆหนึ่งเราเทรด 3 ชั่วโมงกำไร 100 ดอล(3พันบาท) มันเป็นอะไรที่ได้เงินง่ายมากๆ แค่ไม่กี่นาทีเราก็สร้างรายได้แล้ว เพราะตลาดนี้มันทำกำไรได้เร็วที่สุดในโลก


ลงทุนใน Forex ได้เงินจริงหรือเปล่า?
เล่น Forex แล้วได้เงินจริงหรือเปล่า ผมขอตอบว่า...ได้จริงและเสียจริงครับ อยู่ที่ว่าคุณทำได้หรือเปล่า คุณต้องขยันศึกษาหาความรู้ หาเทคนิคในการทำกำไร มีหลายคนฝึกฝนจนสามารถยึดการเทรด Forex เป็นอาชีพหลักได้ ความสำเร็จดังกล่าวอยู่ที่การฝึกฝนครับ ก็เหมือนกับอาชีพอื่นๆ การที่จะเก่งได้นั้นก็ต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝน การเล่น Forex จะคล้ายๆ การเล่นหุ้น แต่เป็นการซื้อขายค่าเงินระหว่างคู่เงินแทน เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงิน ตลาดเงินจะคล่องตัวกว่าตลาดหุ้นมาก ส่วนตลาดหุ้นเค้าจะเน้นกิจการดี ปันผลเยี่ยม แต่ยังไงๆก็สู้ตลาดเงินไม่ได้อยู่ดีเพราะวันๆหนึ่งเราสามารถสร้างผลกำไรได้ มากกว่า 10% - 100%++ ต่อวันได้เลย แต่หุ้นไม่สามารถทำได้ ถึงทำได้ก็น้อย ถ้าเล่นแบบปั่นผล ก็จะมีไตรมาสล่ะ 20% 3 เดือนจ่ายที ซึ่งเป็นไรที่ช้ามาก สมมุติคุณลงไป 1 แสน บาทในการเล่นหุ้นหรือถือหุ้นบริษัทหนึ้งที่ให้ปั่นผล 20%ต่อไตรมาส พอ 3 เดือนปุ๊ป คุณก็จะได้ 2 หมื่น เทียบกับการเล่นค่าเงิน วันหนึ้งคุณทำกำไรจาก 1 แสน เป็น 1แสน 2 หมื่นบาท นั้นหมายถึงคุณทำกำไร 20% ต่อวันแล้ว ถ้าคิดเป็น 3 เดือนล่ะจะซักเท่าไหร่?เดือนหนึ่งเทรดได้ 20 วัน ก็เอา 20 วัน*3 เดือน = 60 วัน คุณเทรดได้กำไร 20%ต่อวันลองคูณดูมันจะซักเท่าไหร่ 20,000 * 60 = 1,200,000 บาท ภายใน 3 เดือน ซึ้งเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆกับการเล่น Forex โบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรด Forex ส่วนใหญ่แล้วจะมีเงินปลอมให้ทดลองเทรด (Demo Account) จึงควรศึกษาให้เข้าใจก่อนแล้วค่อยเล่นด้วยเงินจริง การตั้งใจศึกษาและฝึกฝนจนเกิดความชำนาญจะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด Forex ได้

เวลาทำการของตลาด
ตลาด Forex นั้นมีหลายแห่งในโลก มีเวลาการเปิดปิดที่คาบเกี่ยวกัน ทำให้สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ตั้งแต่เช้าวันจันทร์เวลาตี 4 จนถึงเช้าวันเสาร์เวลาตี 4 (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งตลาดต่างๆ มีเวลาเปิด-ปิดดังนี้

      ตลาด                             ประเทศ                เวลาทำการ
ชื่อย่อ   ชื่อเต็ม                                               เวลาเปิด     เวลาปิด

AUD   Australian Dollar       Australia               5.00       13.00
JPY   Japanese Yen             Japan                   7.00       14.00
CHF   Swiss Franc              Switzerland          13.00      21.00
EUR   Euro   European        Monetary Unio       13.00      21.00
GBP   British Pound            Great Britain        14.00      22.00
USD   US Dollar                 United States        19.00      3.00

เริ่มต้น forex อย่างไร
ก่อนอื่นก็ต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการเทรดก่อนนะครับ
- คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง จะเป็น PC หรือ Notebook ก็แล้วแต่สะดวกครับ
- อินเตอร์เน็ต ควรเป็นแบบไฮสปีดหรือหากต่อผ่านมือถือก็ได้เช่นกันครับ
เมื่ออุปกรณ์ในการเทรดพร้อมก็มาเตรียมตัวเพื่อเทรดกันครับ (ไม่มีคอมPCก็ร้านเน็ตครับ...จบเลย...ง่ายดี)
- ศึกษาและฝึกฝน ผมแนะนำให้เล่นด้วย Demo Account(คือบัญชีทดลองเล่น โดยมีเงินจำลอง 1 แสนดอลล่า) จนกว่าคุณจะสามารถทำกำไรได้มากกว่าเสีย จากนั้นค่อยเริ่มเล่นด้วยเงินจริง การเล่นด้วย Demo Account นี้ทุกอย่างคือของจริง ยกเว้นการเล่นได้หรือเสีย จะไม่ได้และไม่เสียจริง เพราะเป็นเงินที่ใช้ทดลองเล่น มือใหม่ควรศึกษาการเทรด ก่อนเทรดด้วยเงินจริง อย่างน้อยก็ควรมองเทรนของตลาดให้ออกก่อน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/t612/?/

ทำความรู้จัก Leverage

Leverage คือ พลัง,อำนาจ(ตัวทำให้เรามีอำนาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น)

สมมุติว่า 1lot มีมูลค่าเท่ากับ 100,000$
แสดงว่า เราต้องใช้เงินถึง 100,000$ จึงสามารถที่จะเปิดออร์เดอร์ 1lot ได้

คำถาม แล้ว Leverage จะช่วยอะไรเราได้บ้าง?
คำ ตอบ Leverage จะทำให้เรามีอำนาจการซื้อมายิ่งขึ้น ถ้า Leverage เช่น ถ้าเลือก Leverage 1:1,000 แสดงว่าเรามีอำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้น 1,000 เท่าของทุนจริง เป็นต้น
แสดงว่า... ถ้าเราเลือก Leverage 1:1,000 เรามีทุนเพียงแค่ 100$ ก็สามารถเทรด 1lotได้
(ทุน 150$ คูณด้วย Leverage 1,000 มีค่าเท่ากับ 100*1,000 = 100,000)

เห็นไหมครับว่า Leverage จะช่วยทำให้เรามีอำนาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น
แต่ต้องคำนึงด้วยนะครับว่า "มีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย"

Leverage ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม มีทั้งดีบ้างละไม่ดีบ้าง ลองดูตัวอย่างตามนี้เลยครับ

สมมุติว่า วิลลี่ มีเงินในบัญชี 100$ เขาได้ใช้ Leverage 0 เขาได้ซื้อหุ้นไป ราคา 10$
คือเขาต้องจ่ายเงินไป 10$ คือจ่ายเต็มราคาเพราะเขาเลือก Leverage 0 เพื่อที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมา
แสดงว่าเงินที่เหลือในบัญชีของ วิลลี่ คือ 90$ ถ้าหากกราฟเคลื่อนที่จุดละ 1$ วิลลี่จะขาดทุนได้มากที่สุด 90 จุด
หาก วันหนึ่งกราฟลงมามากกว่า 90 จุด ทำให้วิลลี่ขาดทุนอย่างหนักจนโดน Margin call (ระบบจะทำการปิดออร์ให้เองอัตโนมัติ) แล้ววิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ประกันไว้คืน (Used Margin) 10$ ทำเขายังเหลือเงินอยู่ 10$ ที่จะสามารถเทรดต่อไปได้

มาดูอีกตัวอย่างหนึ่งนะครับ

สมมุติว่า วิลลี่ มีเงินในบัญชี 100$ เขาได้ใช้ Leverage 1:10 เขาได้ซื้อหุ้นไป ราคา 10$
เขาต้องจ่ายเงินไปเพียงแค่ 1$ เพราะเขาเลือก Leverage 1:10 เพื่อที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นมา
แสดงว่าเงินที่เหลือในบัญชีของ วิลลี่ คือ 99$ ถ้าหากกราฟเคลื่อนที่จุดละ 1$ วิลลี่จะขาดทุนได้มากที่สุด 99 จุด
หาก วันหนึ่งกราฟลงมามากกว่า 99 จุด ทำให้วิลลี่ขาดทุนอย่างหนัก จนโดน Margin call (ระบบจะทำการปิดออร์ให้เองอัตโนมัติ) แล้ววิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ประกันไว้คืน(Used Margin)วิลลี่ ก็จะได้รับเงินส่วนที่ซื้อไปคืน 0.1$ ทำเขายังเหลือเงินอยู่ 0.1$ คือ แทบจะหมดตูดและไม่สามารถเทรดต่อไปได้อีกเลย

เห็นไหมครับว่า Leverage เปรียบเสมือนดาบสองคมถึงแม้การใช้ Leverage จะทำให้เราซื้อหุ้นมาในราคาต่ำกว่าที่เป็นจริง แต่ถ้าเราไม่รู้จักการตัดขาดทุนหรือไม่มีการวางแผนที่ดีแล้วล่ะก็ มาเลือกLeverage สูงๆ

ศึกษาข้อมูลได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/leverage/?/

forex คือ

Forex คือตลาดทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยสิ่งที่ซื้อ-ขายกันในตลาดนี้คือเงินตราสกุลต่างๆ ครับ โดยตลาด Forex มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงถึง 3.6 ล้านล้าน เหรียญสหรัฐ มากกว่าทุกตลาดทางการเงินในโลกนี้รวมกัน!

ประวัติ Forex กับ กฎหมายไทย Forex เป็น เรื่องทั่วไปเป็นปกติของตลาดโลก (แต่ลองถาม ชาวบ้านทั่วๆ ไป เค้าจะเข้าใจว่าเป็นสิ่งหลอกลวงแทน) ตอนนี้ใครจะเล่นก็ได้ครับ เพราะเล่นกับผู้ให้บริการที่ถูกกฏหมาย(ของต่างประเทศ) แทนแล้ว ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ก็คือ คุณเล่นการพนันผิดกฏหมายในไทย แต่ถ้าคุณไปเล่นลาสเวกัสมันก็ไม่ผิดอะไร แน่นอนปัจจุบันรัฐก็พยายามเต็มที่อย่างไม่ลืมหูลืมตาจับคนให้บริการ Forex หรือ คนเล่นมาลงโทษไม่ได้ ผมเลยอยากจะเตือนใจคนเล่น Forex จุดนี้ไว้ 

Forex ถือ มีความจำเป็นยิ่งในประเทศไทย มีผู้ที่ให้บริการและที่ใช้บริการได้แบบไม่ผิดกฏหมายอยู่ ก็คือ พวกสถาบันการเงิน ธนาคารต่างๆ นั่นเอง ทำไมถึงจำกัดวงแคบ แค่นี้ ทั้งๆ ที่หากคุณศึกษาดูจะเห็นว่า ธนาคารต่างๆ ได้กำไรจาก Forex มากมายจริงๆ แต่ไม่อนุญาติให้บุคคลธรรมดา ทำการแลกเปลี่ยนแบบนี้  นายแบงค์ระดับสูงบางคน Trade Forex เพื่อธนาคารของตนเองอย่างถูกกฏหมาย แม้กระทั่งผู้ว่าการธนาคารบางคน ยังเป็นประธานชมรม Forex แห่งประเทศไทยได้เลย (อย่างถูกต้องตามกฏหมาย) แต่ใครจะรู้ว่าบุคคลเหล่านี้อาจจะมีผลประโยชน์ทางอ้อม หรือ ทางตรง เค้าได้ Trade เองด้วยหรือไม่ Forex อนุญาติให้แค่คนกลุ่มเล็กๆ ในไทยเท่านั้นที่ทำได้!

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.forexbuddytrader.com

การลงทุนในตลาด Forex

การลงทุนในตลาด Forex นั้น คล้ายกับการเก็งกำไร ลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในบ้านเรา นั้นคือ ซื้อมา แล้วก็ขายไป กำไรที่ได้มาจากผลต่างของราคาซื้อ และราคาขาย แค่เปลี่ยนจากการซื้อหุ้น เป็นการซื้อเงินตราสกุลต่าง ๆ นั้นเอง

ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาด Forex นั้นสูงมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้น หรือการลงทุนในกองทุน สำหรับผู้ที่พอรู้ หรือติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อาจสงสัยว่าการลงทุนในตลาด Forex ซึ่งซื้อขายเงินตราสกุลเงินต่าง ๆ จะให้ผลตอบแทนสูงได้อย่างไร ในเมื่อแต่ละวันอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาของสกุลเงินต่าง ๆ นั้นเปลี่ยนแปลงน้อยมาก (ไม่ถึง 1%) คำตอบอยู่ตรงนี้ครับ สิ่งที่ทำให้ตลาด Forex ให้ผลตอบแทนสูงนั้นคือ ระบบ Leverage ซึ่งเปิดโอกาสผู้ลงทุน สามารถลงทุนและทำกำไรได้เหมือนมีทุน เป็นร้อยเท่าจากทุนจริงที่มีอยู่ และสามารถเลือกทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลง ซึ่งทั้งหมดนี้เหมือนกับการลงทุนใน Gold Future, TFEX หรือ SET50 Future ในบ้านเรานั้นเอง เพียงแต่ว่า สัดส่วน Leverage นั้นสูงกว่ามาก

หลาย คนอาจจะสงสัยกับคำว่าผลตอบแทนสูงนั้น สูงขนาดไหน?? เปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น การลงทุนซื้อหุ้นในตลาดทุนเพื่อเกงกำไรระยะสั้น โอกาสที่จะได้กำไร 10-20% ใน 1 วันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดได้บ่อย แต่สำหรับตลาด Forex กำไร 10-20% ต่อ 1 วันนั้นเป็นเรื่องปกติ และธรรมดามาก (บางจังหวะ เพียงแค่ 5-10 นาที ก็สามารถทำกำไร 10-20% ก็เป็นไปได้) จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนนั้นสูงมาก และยั่วยวนกิเลสดีจริง ๆ แต่ ในทางกลับกันก็เป็นการลงทุนที่มีอัตราเสี่ยงสูงมาก (มี 100 ก็หมด 100 ได้ไม่ยาก ในเวลาอันสั้นเช่นกัน) ดังนั้นผู้ที่สนใจ และอยากลองลงทุนในตลาด Forex ก่อนลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนนะครับ

ศึกษาข้อมูลได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-25/?/

มีทุนน้อยจะลงทุนใน Forex อย่างไรดี?

- จากที่เราสั่งซื้อด้วยเงินเพียง $1 ของเราเอง กำไรมันน้อยนิดมาก ขนาด +50 จุดยังทำเงินได้ 17 สตางค์เอง หากเราอยากทำกำไรเยอะๆ เช่น pip ละ $1 (50 pip ก็คือ $50) เราต้องสั่งเทรดถึง $10,000 เลยทีเดียว มีทุนไม่พอแน่ ทำไงดี ตรงนี้แหล่ะคjtที่ Leverage เข้ามามีผล Leverage มีผลกับการ เทรด Forex อย่างไร เรามาดูกัน

มารู้จัก Leverage กันค่ะ
- Leverage 1:100 แปลว่า เราใช้ทุนของเราเองเพียง 1 เพื่อสั่งซื้อ-ขาย 100 เช่น เราจะสั่งซื้อ EUR มาถือไว้ โดยจะซื้อที่ราคา 1.3502 จำนวน 100 USD (คือได้มา 74.0631 EUR) เราไม่ต้องใช้ 100 USD ค่ะ เราจะใช้เพียง 1 USD เพื่อแลก 74.0631 EUR มาถือไว้ ซึ่งเมื่อเราขายคืนไปที่ 1.3552 หรือกำไรมา 0.0050 แทนที่เราจะกำไรแค่ นั้น จะกลายเป็นว่าเราจะทำกำไรได้ 0.50 usd แปลว่าเราสามารถทำกำไรได้ 50% จากเงินที่เราลง (เราลงเพียง $1 เพื่อทำกำไร $0.50)

- แต่ไม่ต้องห่วงนะค่ะ ว่าเราจะมีเงินพอรึเปล่า เวลามี Leverage แบบนี้ เพราะเวลาเทรดเราจะสั่งเทรดอย่างมาก ไม่เกิน 40% ของทุน (แต่แนะนำที่ 10% ค่ะ จะได้มีเหลือไว้แก้ตัว) เช่นถ้าเรามีทุน $100 เราก็สั่งเทรดเพียง $10 หรือ 10% (แต่เวลาสั่ง $10 คือ 1,000 unit นะค่ะ ที่ Leverage 1:100) 10% ที่ใช้ เราจะเรียกว่า used margin เวลาราคาวิ่งขึ้นหรือลง มันจะมาบวก หรือ ลบ ที่ 90% ที่เหลือ หรือที่เรียกว่า available margin หากเราติดลบไปเรื่อยๆ จน available หมด ระบบจะทำการตัดขาดทุน โดยการปิด order นี้ โดยอัตโนมัติ นั่นคือ โบรกเกอร์จะไม่ยอมขาดทุนแทนเราหรอกค่ะ

- คิดคร่าวๆ คือ เราจะทำกำไร (ขาดทุน) ได้ ประมาณ 1% ต่อ pip จากเงินทุนของเรา (คู่อื่นอาจจะไม่ถึง 1% บางคู่ก็มากกว่า เช่น EUR/GBP ตกประมาณ 2% ค่ะ) นั่น หมายความว่า ด้วยทุนเพียง $100 (3,400 บาท) คุณจะสามารถทำกำไรได้ถึงจุดละ $1 (สั่งเทรด 10,000 unit) หากทำได้ 10 จุดต่อวัน ก็วันละ $10 หรือ 340 บาท (โดยประมาณ) หรือวันละ 10% และด้วยทุนเพียง $1,000 (34,000 บาท) เราจะสามารถทำกำไรได้ถึงจุดละ $10 (สั่งเทรด 100,000 unit) หากทำได้ 10 จุดต่อวัน ก็วันละ $100 หรือ 3,400 บาท หรืออาจจะเริ่มเพียง $1 (34 บาท) โดยจะได้จุดละประมาณ 1 เซ็นต์

- ค่อยๆ สะสมไปก็ได้ค่ะ เพราะมีแล้วคนที่ปั้น $5 จากทุนฟรีที่ Marketiva (โบรกเกอร์) มีให้ ไปเป็น $1,000 ใน 3 เดือน ลอง คิดดูเล่นๆู ล่ะกันค่ะ ถ้าเพียงคุณสามารถทำกำไรได้ 10% ของทุนต่อวัน เพิ่มไปเรื่อยๆ 6 เดือน (120 วันเทรด) จะเป็นเงินเท่าไหร่ จากทุนเพียง $5 เป็น $463,545.34 หรือ 15,765,541.60 บาท ครับ โอ้ววววว พระเจ้าช่วย (ทำได้แค่ 5% ของไอเดียนี้ก็สุดยอดแล้วค่ะ)

- ปกติ EUR/USD จะไม่แรงมาก ทำวันละ 20-30 จุดได้ หากเป็นบางคู่ เช่น GBP/JYP (ทุกวันนี้ผมเล่น GBP/JYP เป็นหลัก เพราะแรง เร้าใจ) ดิฉันเคยทำได้มากสุด +250 จุด เพียงช่วงเวลาที่หลับ (เที่ยงคืน) จนมาถึงเวลาที่ตื่น (7 โมงครึ่ง) หรือ 250% ของเงินทุนที่เทรด

- ที่ FxOpen (โบรกเกอร์) ให้เราสามารถ up Leverage ได้สูงสุดถึง 1:500 นั่นแปลว่า เราใช้ทุนตัวเองเพียง $200 ในการเทรด 100,000 unit (หรือ 1 lot จะได้จุดละ $10) เอง

- แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Leverage ก็เป็นดาบ 2 คม ที่ทั้งทำให้ รวย-จน ได้ในพริบตา Leverage และการที่มันวิ่งขึ้นลงทั้งวัน นี่แหล่ะค่ะ ที่ทำให้ Forex สนุก และเร้าใจ

คุณสามารถลงทุนใน Forex แทนได้ โดยใช้ทุนเริ่มต้นเพียงน้อยนิด มาเริ่มเรียนรู้การลงทุนและทำเงินจาก Forex Trading ได้ที่นี่ และจงจำไว้เสมอว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง"

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-592/?/

Leverage คืออะไร

ความหมายง่ายๆของ เลเวอเรจ (Leverage) คือ จำนวนเปอร์เซนที่ได้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อทำการเปิดออเดอร์เทรด ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณซื้อ 100 หุ้นในตลาดหุ้นโดยที่ราคาหุ้นละ 10 $ ต่อหุ้น คุณต้องใช้เงิน 1000$ เพื่อเปิดการเทรด บางโบรกเกอร์ให้คุณยืมเงินเพื่อเทรดสูงถึง 50-80% ของมูลค่าหุ้นทั้งหมด แทนที่คุณจะใช้เงิน 1000$ แต่คุณกลับใช้แค่ 500 $ เท่านั้น เพื่อทำการเทรด สิ่งนี้แหระที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถซื้อหุ้นได้มาก โดยใช้เงินเท่าเดิม อย่างไรก็ตามทางโบรกเกอร์ก็จะชาร์จกำไรจากการยืมของคุณ หลักการณ์นี้ก็น้ำมาใช้กับตลาดForex

แต่โบรกเกอร์ฟอเร็กให้ คุณยืมถึง 99 % ของทั้งหมดเพื่อให้คุณเปิดการเทรดและคุณก็ใช้มันเพียงแค่ 1 % เท่านั้น ถ้าคุณต้องการเทรด 1000$ คุณใช้มันเพียงแค่ 10 $ นี่แหระครับ คือความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์ และตลาดฟอเร็กไม่ชาร์จกำไรจากการยืมของคุณด้วย

เอาล่ะครับ หลายๆคนอาจจะงง เรามาดูกันเลยครับ ว่า Leverage ที่โบรกเกอร์ฟอเร็กได้กำหนดไว้มีเท่าไรบ้าง
โดยส่วนมากโบรกเกอร์จะกำหนด Leverage ตั้งแต่
Leverage         
1:1
1:2
1:10
1:100
1:200
1:400
1:500
1:1000 เฉพาะบางโบรกเกอร์ เท่านั้นเช่นโบรก Exness และ Instaforex

ผมจะยกตัวอย่างการเทรดที่ Leverage 1:100
สมมติ ว่าผมต้องการซื้อ EUR ที่ 100 units ผมจะใช้เงินของผม 1  units เท่านั้นเพื่อซื้อ EUR 100 units  ถ้าซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.2750  เมื่อราคาขึ้นไปถึง 1.2800 ผลต่างของราคาเท่ากับ 50 pips  ผมพอใจแล้ว ก็ทำการขาย ผมได้กำไร 50 pips

มาดูตัวอย่างการคำนวณครับ จากหัวข้อ เรื่อง Pips และ Lot  ใครยังไม่ได้อ่านกลับไปอ่านนะครับ
(pip value / ราคาที่คุณปิด ) คูณด้วย Unit ที่คุณทำการ Buy Sell
=(0.001/1.2800)*100=0.39 $
หรือ ผมอาจจะคิดแบบนี้ สมมติว่า ผมต้องการซื้อ EUR ที่อัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน EUR/USD =1.2750 เป็นจำนวน 100 $ ผมจึงใช้เงินของผม 1 $ บัญชีของผมเป็น Leverage 1:100 ดังนั้นผมต้องยืมโบรกเกอร์อีก 99$  เมื่อผมซื้อแล้ว ผมจะได้ EUR มา 78.43 Euro และเมื่อราคาขึ้นไป 1.2800 ผมได้ กำไร 50 pips ผมตัดสินใจขายยูโร ที่ผมซื้อมา จะได้ 78.43*1.2800=100.39 $  นี่คือกำไรของผม 100.39 $ แต่ผมได้ยืมโบรกเกอร์มา 99 $ ทางโบรกเกอร์จะหักเงินอัตโนมัติ แล้วที่เหลือก็คือ 1.39 $ สรุปคือ ถ้าได้กำไรมา 0.39 $ จากการเทรดเงิน 1 $ เมื่อราคาเคลื่อนที่ 50 pips

แต่ ปัจจุบันนี้ ทางโบรกเกอร์กำหนดให้เราแล้วว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ไป 1 pip ถ้าเราซื้อ 1 $ เราจะได้ 0.01 $ ดังนั้นจากตัวอย่างข้างบน ได้มา 50 pips ผมจะได้เงิน 0.50$

Use Margin คือ จำนวนเงินที่เราใช้เทรดในแต่ละครั้ง
ความสัมพันธ์ระหว่าง Lot , Leverage  และ Use Margin
ประเภทของบัญชีในการเทรด Forex จะมีอยู่หลายประเภท แต่ที่หลักๆ ที่ใช้กันคือมีสามประเภทคือ
1.Standard Account
2.Mini Account
3.Micro Account
ผมจะเทียบความสัมพันธ์ระหว่าง Lot , Leverage และ Use Margin ของ บัญชี Standard นะครับ

                                                                                                                                                             
            Leverage       ความต้องการเทรด              Use Margin
            1:100                1 lot(100,000$)                1000$
            1:200                1 lot(100,000$)                500$
            1:400                1 lot(100,000$)                250$

การเทรด 1 Lot คือ การใช้ Use Margin 1000 ดอลล่า เพื่อที่จะเทรดฟอเร็กซ์ โดยใช้
Leverage 1:100
  หมาย ความว่า คุณต้องมีเงินในบัญชีเทรดฟอเร็กซ์มากกว่า 1000 $ คุณจึงจะเทรดที่ 1 Lot ได้ และการเปลี่ยนแปลงต่อจุด ถ้าราคาเคลื่อนที่ไป 1 pips จะเท่ากับ 10 $  เพราะฉะนั้น ถ้าคุณมีเงินแค่ 1000 $ แล้วคุณปล่อยให้ลบ 100 pips บัญชีของคุณก็จะโดน Margin Call ทันที ถ้าคุณไม่มี Margin โบรกเกอร์ก็จะตัดทันที
Leverage 1 :200 สิ่งที่แตกต่างของ Leverage 1:200 คือ จำนวนเงินที่ใช้เทรด Use Margin จะน้อยกว่า 1:100 แต่ การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pip เท่ากับ 10 $ เหมือนกัน

ไม่ว่าคุณจะเล่นที่ Leverage เท่าไร การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pips ก็ยังคงเท่าเดิม ซึ่งตอนนี้บางโบรกเกอร์ สร้าง Leverage  สูงๆ ขึ้นมาเพื่อให้พวก Scalper ที่เล่นสั้นๆ ลงเงินเยอะๆ อย่างเช่น  Loeverage 1:1000 ถ้าคุณมีเงิน 1000 $ ในบัญชี คุณสามารถเทรด 5 Lot ได้ ซึ่งก็หมายความว่า คุณต้องการให้ได้กำไร 50 $ ต่อ pips แต่ถ้าราคาไม่เป็นดังที่คุณต้องการ ราคาลบไป 20 pips
พอร์ตของคุณก็จะเกลี้ยงทันที

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/leverage-580/?/

ประเภทของคำสั่งเทรด (Type of Order)

Type Of Order
ประเภทของคำสั่งรายการเทรด
โดยทั่วไปแล้วโบรกเกอร์จะมีคำสั่งรายการพวกนี้จัดเตรียมไว้ให้คุณอยู่แล้ว แต่มีบางโบรกเกอร์ที่ออเดอร์แปลกประหลาดต่างจากที่อื่น

พื้นฐานของออเดอร์ที่โบรกเกอร์ทั้งหมดต้องมี

1. Market Order

มา เก็ตออเดอร์คือออเดอร์ที่  buy หรือ Sell ในราคาของตลาดปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น EUR/USD ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.2800ถ้าคุณต้องการ Buy ที่ราคานี้ คุณก็คลิก Buy  แล้วคุณก็จะได้ราคานี้ทันที

2.Limit order

ลิ มิตออเดอร์คือ ออเดอร์ที่ถูกแทนที่ด้วย Buy หรือ Sell ในราคาล่วงหน้า (ตั้งสวนนั่นเอง ) ตัวอย่างเช่น ถ้าตอนนี้ราคาของ EUR/USD อยู่ที่ 1.2800 คุณต้องการตั้งสวน Buy ที่ 1.2780 คุณต้องใช้ คำสั่ง Buy Limit เมื่อราคาลงไปถึง 1.2780 ไปชนออเดอร์ของคุณ คุณก็จะได้ราคานี้ทันที

3.Stop order
สต๊ อบออเดอร์ คือออเดอร์ที่ถูกแทนที่ด้วย Buy หรือ Sell ในราคาล่วงหน้าเช่นกัน แต่ไม่ได้ตั้งสวนนะ แต่เป็นการตั้งตามแนวโน้มมากกว่า ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.2800 แล้วคุณต้องการ Buy เมื่อราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ 1.2820 คุณก็อาจจะไปตั้ง Buy Stop ที่ราคา 1.2820 ถ้าราคาผ่าน 1.2820 ได้ ราคาก็จะไปชน Limit order ของคุณ

4. Stop -Loss
จุดหยุดการขาดทุน
เมื่อ คุณได้ทำการเข้าออเดอร์ไว้แล้ว แล้วไม่มีเวลาอยู่หน้าจอ ต้องออกไปข้างนอก Stop loss สามารถช่วยคุณได้  ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณBuy EUR/USD ที่ 1.2820 คุณต้องการที่จะหยุดขาดทุนที่ 20 pips คุณก็สามารถตั้ง Stop loss ได้ที่ราคา 1.2800  เมื่อราคาลงมาถึง 1.2800 ออเดอร์ของคุณก็จะหยุดทันที สต๊อบลอสสามารถช่วยให้หยุดการขาดทุนของคุณได้ ช่วยให้เงินของคุณไม่หมดพอร์ต

5. Target
ทา เก็ตคือ ราคาเป้าหมาย หรือกำไรที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการกำไรจาก Order Buy ที่ราคา 1.2820  โดยหวังกำไรจากรายการนี้ 20 pips คุณก็ตั้ง Target ไว้ที่ 1.2840
การตั้ง Stop loss และ Target ช่วยให้คุณมีวินัยในการเทรดมากขึ้น


ประเภทออเดอร์แบบอื่นๆ

1.GTC(Good'til canceled)

คำ สั่งแบบ GTC เป็นคำสั่งที่ยังคงแอคทิฟจนกระทั่งคุณได้ตัดสินใจยกเลิกมัน โบรกเกอร์ของคุณจะไม่ยกเลิกให้คุณ ดังนั้น นี่เป็นความรับผิดชอบของคุณที่คุณได้กำหนดชนิดไว้แล้ว

2.GFD(Good for the day)
คำ สั่งแบบ GFD จะยังคงแอคทิฟจนกระทั่งตลาดปิด วันต่อวันเท่านั้น ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ของคุณว่ากำหนด ราคาของวันนั้นๆ จะสิ้นสุดกี่โมง เพื่อเริ่มวันใหม่ ต้องตรวจสอบกับทางโบรกเกอร์ของคุณด้วย

3.OCO (Order cancels other)
คำสั่งแบบ OCO จะรวมระหว่าง Limit และ Stop โดยตั้งไว้ที่ด้านบนและด้านล่างของราคาปัจจุบัน

คำสั่งเหล่านี้จะมีเฉพาะบางโบรกเกอร์เท่านั่น  เพราะฉะนั้นคุณควรจะรู้คำสั่งพื้นฐานเอาไว้

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.forexbuddytrader.com

ที่มา:thaiforexschool.com/index.php?topic=8.0