RSS
Showing posts with label โบรกเกอร์. Show all posts
Showing posts with label โบรกเกอร์. Show all posts

Custom Indicators

Custom Indicators


Custom Indicators คือ อินดิเคเตอร์ประยุกต์ที่มีใช้สำหรับโปรแกรม Metatrader 4 (คนที่ใช้ Platform อย่างอื่นจะไม่สามารถใช้ได้นะครับ) ที่ผู้เทรดสามารถหาได้
จาก Webboard Thaiforexschool ของเราหรือสามารถหาได้จากเว็ปไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ Forex ยกตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์บางคนนำเอา RSI กับ Stochastic ไป
รวมกันและปรับเป็นค่าที่ตัว เค้ามองว่าใช้ได้สำหรับเค้าซึ่งถ้าตัวเค้าอนุญาตให้ทำการ download ไปใช้ ผู้ที่สนใจก็สามารถ Download ไปใช้ได้เลย ตัวไฟล์จะมีนามสกุล
เป็น(ex.4) หรือถ้าเป็น Template ก็จะเป็นไฟล์นามสกุล (tpl) หากผู้เทรดที่สนใจใน download มาเป็น template ผู้เทรดต้องไม่ลืมที่จะ download indicators
ที่ตัวเจ้าของระบบใช้มาด้วยนะครับ ไม่งั้นจะเปิดไม่ออก

หลัง จากได้ไฟล์ของ Indicators มาแล้วหากจะนำมาใส่โปรแกรมเทรด MT4 สามารถทำได้โดยการนำไฟล์ ex.4 ไปไว้ใน folder ที่อยู่ในโปรแกรมของโบรกเกอร์
โบรกนั้นให้ผู้เทรดไปที่

Drive C>Program Files>Metatrader 4 – (โบรกเกอร์ที่คุณเทรด) > Experts > Indicators

แล้ว ก็วางไฟล์ของอินดิเคเตอร์ที่ต้องการไว้ใน Folder นี้ ทุกครั้งที่วางไฟล์ Indicators ใหม่ผู้เทรดจะต้องปิดโปรแกรมเทรดก่อน พอวางเสร็จแล้วเปิดขึ้นมาก็จะสามารถ
ใช้ได้ โดยผู้เทรดสามารถหา Custom Indicators ที่ตนเอง Download มาได้โดยการเปิดโปรแกรม MT4 ขึ้นมาจากนั้นไปที่

Insert > Indicators > Customs > หาชื่อ Indicators ของตนเอง

ทาง Thaiforexschool ก็มี Custom Indicators แนะนำอยู่ครับนั่นก็คือ Candle Time อินดิเคเตอร์ตัวนี้จะช่วยบอกผู้เทรดให้รู้ว่าอีกกี่นาทีแท่งเทียนแท่งนี้
จะปิดแท่ง


สำหรับผู้ที่สนใจ Custom Indicators ตัวอื่น ๆ สามารถหา Download มาใช้ได้ที่

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/custom-indicators/?/

เล่นหุ้นไทยผ่านโบรกเกอร์ EXNESS

 วิธีเลือกเล่นหุ้นไทยผ่านโบรกเกอร์EXNESS


1.ใน ช่องMarket Watchหุ้นไทยจะลงท้ายด้วยคำว่า SET เช่น #PTT-SET #DTAC-SET #KBANK-SET #KTB-SET #BANPU-SET จากภาพด้านล่าง คลิ๊กขวาเพื่อเรียกดูกราฟ#DTAC-SET


2.หากในช่องMarket Watchของท่านไม่ปรากฎหุ้นใดๆให้ท่านเลือกคลิ๊กขวาจากนั้นเลือกSymbols


3.เลือกSET จากนั้นคลิ๊กคำว่า Show

4.หุ้นไทยจะปรากฎในช่องMarket Watch คลิ๊กขวาบริเวณหุ้นที่ต้องการเทรด เลือกNew Orderเพื่อส่งคำสั่งซื้อหุ้นดังกล่าว


5.หุ้นไทยที่ท่านสามารถเทรดผ่านโบรกเกอร์EXNESSได้มีดังนี้


หุ้นไทยสามารถเข้าเทรดได้เฉพาะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทยเปิดทำการเท่านั้น

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/exness-627/?/

กฎการฝากเงินและถอนเงิน

กฎการฝากเงินและถอนเงิน
ข้อตกลงและเงื่อนไขทั่วไปสำหรับการฝากและการถอนเงิน

 การฝากเงินนั้นมีอยู่หลายวิธีในโบรกเกอร์ exness ดูรูปนะครับ(รูปปัจจุบัน 2013)


 โดยส่วนใหญ่แล้ว คนไทยชอบฝากเงินผ่านทาง
- การชำระเงินผ่านทางธนาคารออนไลน์ในประเทศไทย วิธีนี้ก็คือ ผ่านทาง ibangking ของแต่ล่ะธนาคารที่เราใช้ ปัจจุบันที่มีการดิวของ exness และ ธนาคารไทยในประเทศไทย ก็มี ธนาคารกรุงเทพ,ธนาคารกรุงศรี,ธนาคารกรุงไทย,และธนาคารไทยพาณิชย์ ใครที่มี ibangking ดังกล่าวก็สามารถทำการฝากเงินได้เลยนะครับ

ถ้า ฝากเงินผ่าน Ibanking นี้ปัจจุบันมันจะได้ 5 ธนาคาร ก็จะมี ธนาคารกรุงเทพ,ธนาคารกรุงศรี,ธนาคารกรุงไทย,ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกสิกร

แต่อนาคตนี้ไม่แน่อาจมีเพิ่ม แต่ถ้าถอนเงินนี่ ได้เกือบทุกธนาคารคัฟ(มีภาพตัวอย่างการถอน เข้าธนาคารคัฟ ตรงหัวข้อการถอนเงินด้านล่าง)

- อีกวิธีที่สะดวก สำหรับคนไม่มี I-banking ก็ ฝากเงินผ่าน 7-11 ได้คัฟ

- ส่วนใครที่มีบัญชีธนาคารออนไลน์ Ecurrency ต่างๆอยู่แล้ว ก็ฝากเงินได้เลยนะครับ เช่น

    Skrill (Moneybookers)
    Webmoney
    Ukash
    Payweb
    Neteller
    Filspay
    CashU
    Perfect Money
    C-Gold

ก็ทำการฝากได้เลยนะครับ


เพิ่มเติมเรื่องการฝากเงิน:
เพิ่มเติมการฝากเงินผ่าน 7 - 11 Click รานล่ะเอียด
ขั้นตอนการฝากเงินผ่านธนาคาร SCB Ibanking คลิ๊ก

การถอนเงิน
หากเราเทรด forex แล้วได้กำไรแล้วก็สามารถถอนเงินออกจากโบรกเกอร์ได้  การถอนเงิน ก็ทำลักษณะเหมือนการฝากเงินเลยนะครับ ไม่ยุ่งยาก

ผม มีวิธีโอตัวอย่างการถอนเงิน จาก Exness มายังบัญชีธนาคารไทยของเรา นี่คือตัวอย่างนะครับ ถอนมายังแบงค์ในไทยได้ทุกแบงค์เลยนะครับ(ไม่แน่ใจว่าทุกแบงค์มั้ย?)ต้องลอง ไปดูที่เมนูอีกทีว่ามีกี่แบงค์

ภาพตัวอย่าง   การถอนเงินเข้าธนาคารที่ดิวกับ Exness นะครับ

สามารถถอนเข้าธนาคารได้ดังกล่าวตามรูปภาพนี้ครับ

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/t616/?/

ขั้นตอนการยืนยันเอกสาร Exness

ขั้นตอนการยืนยันเอกสาร Exness
การยืนยันเอกสารเป็น สิ่งจำเป็นสำหรับการเปิดบัญชี Forex เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรม การถอนเงิน ก่อนทำการยืนยันเอกสารให้เตรียมเอกสารสำหรับยืนยันตนดังนี้ - Passport หรือบัตรประจำตัวประชาชน (ถ้ามีภาษาอังกฤษด้วยจะผ่านง่าย หรือถ้าไม่มีควรแปลให้เป็นภาษาอังกฤษ) อย่างใด อย่างหนึ่ง ควรแสกนเป็นภาพสี และแสกนให้ชัด และลดขนาดไฟล์ แล้วเก็บลงในเครื่องคอมให้เรียบร้อย- บิลเอกสาร ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าบัตรเครดิต หรือบิลโลตัส บิลแม็คโคร หรือบิลอื่น ๆ ที่มีที่อยู่ตรงกับใบสมัคร สแกนเก็บไว้ในเครื่องและใช้บิลที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน


เริ่มทำการ Verify โดยการเข้าระบบบัญชีก่อน


หลังจากนั้นเลือก Verify เพื่อทำการยืนยัน













หลังจากนั้น รอ 24 ชม. เอกสารจะได้รับการอนุมัติ ถ้าเอกสารนั้น ไม่ผิดเงื่อนไขข้อกำหนดของโบรก



**หมาย เหตุ** บิล นั้นให้เราซื้อของอะไรก็ได้ครับซัก 20 -50 บาท ใน เซเว่น หรือ tesco lotus ก็ได้ครับแล้วบอกพนักงานว่าขอใบกำกับภาษีหน่อย(ถ้าเขาถามว่าเอาไปทำอะไร บอกเขาว่าเอาไปเบิกจ่ายแค่นั้นครับ ขืนบอกว่าเอาไปยื่นเอกสารของโบรกเกอร์ forex มีหวังได้คุยยาวแน่ๆเลย 55+ เพราะว่าเขาไม่รู้จัก forex ไงล่ะครับ เดี๋ยวจะโดนถามว่า มันคือ อะไร เป็นอย่างไร แล้ว ทำแบบไหน?) ส่วนตัวผมไม่เคยโดนสอบถามครับ เพราะทำตัวแบบเนียนๆ เฉยๆเอื่อยๆ ขอบิลได้แล้ว ก็ไปร้านถ่ายเอกสารหรือ ร้านที่เขารับสแกนเอกสารครับ ให้สแกนบิลไปไฟลื jpeg หน่อย จากนั้นก็เสร็จแล้ว รอ อัปไฟล์ขึ้น exness เลยครับ ***

ใครที่ยังไม่พร้อมเรื่องของเอกสาร ก็ยังไม่ต้องยืนยันตัว เปิดบัญชีทิ้งไว้เฉยๆก็ได้ครับ แต่เขาจะจำกัดวงเงินการถอนที่ 15,000 บาท ประมาณ 500 ดอลถ้าเี่ราทำกำไรได้ แต่ถ้ายืนยันแล้วก็จะถอนได้ไม่จำกัดครับ ขั้นตอนต่อไปคือ การนำเงินฝากเข้าโบรกเกอร์เพื่อทำการซื้อ - ขาย   คลิ๊กที่นี่

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/exness-615/?/

วิธีสมัครเปิดบัญชี

แนะนำโบรกเกอร์ forex ที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพให้แก่ผู้ที่เริ่มต้นใหม่

EXNESS เป็นโบรกเกอร์ที่สามารถฝากและถอนได้ สะดวกและง่ายดาย ยังสามารถ ตั้ง Leverage ได้มากถึง 1:1000 นอกจากเทรด ฟอเร็กซ์ แล้วยังเทรด Set Index เช่นหุ้นไทย หุ้นอเมริกา หุ้นฮ่องกง หุ้นญี่ปุ่น หุ้นอังกฤษ รวมถึง ตลาด Future เช่นทองคำ, น้ำมันดิบได้อย่างดี โดยมีหลาย Platform ให้เลือกและที่ง่ายและสะดวกที่สุดคือ MT4,  MT5 เป็นโปรแกรมเทรดสำเร็จรูป โดยทั่วไปนิยมใช้ฏปรแกรม MT4 เพราะใช้ง่าย


สำหรับ การถอนเงินจาก Portfolio ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (เสาร์ อาทิตย์ ก็ถอนได้) การฝากเงินเข้าทุกครั้งได้รับเวลคัมโบนัส 15% ของเงินฝากเช่นฝากเข้า 10,000 USD. จะมีเงินในพอร์ท 11,500 USD. ทันที

ปี 2009 EXNESS เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดรัสเซีย และเปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่มีความก้าวหน้าสำหรับเทรดเดอร์บริษัทขยายกิจการ เข้าสู่ CIS และประเทศในแถบเอเชีย รวมถึง จีน อิหร่าน มาเลเซียและอินโดนีเซียเมษายน – EXNESS ได้รับใบรับรอง SSL สำหรับเว็บไซต์บริษัทกันยายน – EXNESS ได้รับอนุญาตเชิงการค้าจากคณะกรรมการ FFMS สำหรับธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายล่วงหน้าโภคภัณฑ์และตัวเลือก บริษัทใช้ใบอนุญาตเพื่อการทำธุรกรรมสำหรับลูกค้าบนตลาดหุ้นเซนต์ ปีเตอร์เบิร์กผ่านระบบ FX+กันยายน – บริษัทเริ่มเสนออัตราความสามารถในการเทรดระดับ 1:1000 ให้กับลูกค้ากันยายน – ลูกค้าสามารถถอนเงินออกจากบัญชีการซื้อขายได้โดยอัตโนมัติตุลาคม – การเลือกเครื่องมือทางการเงินขยายครอบคลุมมากขึ้น และบัญชีโลหะสกุลเงินมีให้เลือกใช้เปิดบัญชี EXPERT จำนวน 5 บัญชีแรกโดยอิงอยู่กับผลประกอบการ ณ สิ้นปี

บริษัทขยายกิจการเข้าสู่ CIS และประเทศในแถบเอเชีย รวมถึง จีน อิหร่าน มาเลเซียและอินโดนีเซียเมษายน – EXNESS ได้รับใบรับรอง SSL สำหรับเว็บไซต์บริษัท

ปี 2009 EXNESS เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดรัสเซีย และเปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่มีความก้าวหน้าสำหรับเทรดเดอร์

กันยายน – EXNESS ได้รับอนุญาตเชิงการค้าจากคณะกรรมการ FFMS สำหรับธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายล่วงหน้าโภคภัณฑ์และตัวเลือก บริษัทใช้ใบอนุญาตเพื่อการทำธุรกรรมสำหรับลูกค้าบนตลาดหุ้นเซนต์ ปีเตอร์เบิร์กผ่านระบบ FX+
กันยายน – บริษัทเริ่มเสนออัตราความสามารถในการเทรดระดับ 1:1000 ให้กับลูกค้า
กันยายน – ลูกค้าสามารถถอนเงินออกจากบัญชีการซื้อขายได้โดยอัตโนมัติ
ตุลาคม – การเลือกเครื่องมือทางการเงินขยายครอบคลุมมากขึ้น และบัญชีโลหะสกุลเงินมีให้เลือกใช้
เปิดบัญชี EXPERT จำนวน 5 บัญชีแรกโดยอิงอยู่กับผลประกอบการ ณ สิ้นปี
ปี 2008 EXNESS ได้รับการก่อตั้งขึ้น ในเมืองเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก โดยกลุ่มคนที่มีความคิดเหมือนๆ กัน ที่ต่างมีความรู้ในด้านตลาดการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ EXNESS ได้รับใบอนุญาตให้ใช้สิทธิ์สำหรับ MetaTrader 4 จาก MetaQuotes Software Corp บริษัทเริ่มต้นทำการซื้อขาย Forex และลงนามในสัญญากับลูกค้าและหุ้นส่วนรายแรก
รางวัลปัจจุบันของ Exness อ่านรายละเอียดคลิ๊ก


ความน่าเชื่อถือของ Exness อ่านรายละเอียดคลิ๊ก

Address:  309, 55 lit.A Nevsky prospect, Regus Nevsky Plaza, 191025, St. Petersburg, Russia


ขั้นตอนการเปิดบัญชีเทรดกับ Exness

 
. .
- เลือกภาษาที่เราต้องการ (ภาษาไทย)
- เลือกบัญชีการซื้อขาย


- แนะนำเลือกเปิดบัญชี MINI


- กรอกข้อมูล อีเมลล์ เบอร์โทร


- กรอกชื่อ-สกุล (ภาษาอังกฤษ)
- เลือก leverage และสกุลเงิน
- กรอกรหัสที่ได้รับทาง SMS และอีเมลล์


- แนะนำเลือกประเภทรักษาความปลอดภัยเป็นแบบ โทรศัพท์เคลื่อนที่
- สร้างรหัสผ่าน


- เลือกโบนัสที่ต้องการ


- ข้อมูลบัญชีที่เราเปิด


- จะมีอีเมลล์ 3 ฉบับ ส่งเข้าอีเมลล์ของเราเป็นข้อมูลทางบัญชีต่างๆ โปรดอ่านและเก็บไว้ดีดีครับ





แนะ นำนะครับ ให้เปิดบัญชีจริงก่อน แล้ว เปิดบัญชีทดลองเล่นอีกทีนะครับเพื่อจะได้ฝึกฝนการเทรดจากบัญชีทดลองก่อน พอเราพร้อมแล้วค่อยฝากเงินเข้าบัญชีซื้อ - ขายจริง เพื่อเทรดนะครับ

ขั้นตอนต่อไป คือ วิธีการยืนยันตัวกับทางโบรกเกอร์ exness      คลิ๊กที่นี่


เพิ่มเติม
- สงสัยใหม?ครับว่าทำถึงมีบัญชีหลายแบบหลายประเภทในโบรกเกอร์ EXNESS นี้ คลิ๊กเพื่ออ่าน

- การเลือกโบรกเกอร์? คลิ๊กเพื่ออ่าน
- ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ Exness คลิ๊กเพื่ออ่าน
- Forex กับกฏหมายไทย  คลิ๊กเพื่ออ่าน
- เปิดเสรีไทยเกี่ยวกับ Forex  คลิ๊กเพื่ออ่าน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่   http://www.thaibestforex.com/forex/t613/?/

เล่นหุ้นออนไลน์ มือใหม่โปรดคลิ๊ก

คุณพร้อมหรือยัง?

"การ สร้างรายได้จากโลกออนไลน์ในปัจจุบันนี้ มีมากมายหลายรูปแบบ ผ่านธุรกิจต่างๆรวมไปถึงการลงทุนในตลาด Forex หรือตลาดซื้อขายสกุลเงินระหว่างประเทศซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้าง รายได้ให้คุณได้อย่างมหาศาล"

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะเล่นหุ้นแต่ มีทุนไม่เพียงพอหรือมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการเล่นหุ้นอยู่แล้วก็ลองอ่านราย ละเอียดเกี่ยวกับการเทรด Forex ดูครับ เพราะเป็นการลงทุนที่น่าสนใจการเทรด Forex จะคล้าย ๆ กับการเล่นหุ้นแต่ Forex จะมีสะภาพคล่องสูงกว่ามาก กร๊าฟวิ่งขึ้น-ลงเร็วและยังสามารถเล่นได้ทั้งกร๊าฟขาขึ้นและขาลง จากสภาพคล่องสูงนี่เองที่ทำให้เทรดได้หรือเสียเร็ว เงินลงทุนก็เริ่มต้นเพียง $1 เท่านั้น

Forex คืออะไร?


Forex (FOReign Exchange market) คือ ตลาดทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งที่ซื้อ-ขายกันในตลาดนี้คือเงินตราสกุลต่างๆ (การเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน) ในการซื้อ-ขายเงินตราเหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบการจับคู่แลกเปลี่ยน ตัวอย่างเช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, USD/CHF, USD/CAD, GBP/JPY เป็นต้น

ตลาด Forex มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงถึง 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าทุกตลาดทางการเงินในโลกนี้รวมกัน โดยก่อนที่จะมีอินเตอร์เน็ตแพร่หลายนั้น ตลาด Forex จะมีผู้เล่นเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ธนาคาร กองทุน ผู้นำเข้า และส่งออก แต่เมื่อมีอินเตอร์เน็ตก็เริ่มมีการพัฒนาระบบเทรดบนอินเตอร์เน็ต และเริ่มมีโบรกเกอร์ที่ให้บริการสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่สนใจให้สามารถ เริ่มต้นเทรดได้ด้วยทุนเพียง $1 เท่านั้น จึงทำให้การลงทุนในตลาดแห่งนี้แพร่หลายไปทั่วโลก


(FOREIGN EXCHANGE MARKET)


ตลาด Forex คือ ตลาดกลางสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่าง ๆ ทั่วโลก ที่รู้จักในชื่อของ FOREX , Forex , Retail Forex , FX , Spot FX หรือ Spot
ตลาด Forex นั้นเป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก และกระจายอยู่ทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ค ลอนดอน ญี่ปุ่น ยุโรป และ ออสเตรเลีย การที่มีตลาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยแต่ละพื้นที่มีเวลาเหลื่อมกัน ทำให้เสมือนว่าตลาด Forex นั้นเปิด และมีการซื้อขายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในประเทศไทยแล้ว ตลาด Forex เปิดทำการตั้งแต่ตี 4 ของเช้าวันจันทร์ จนถึง ตี 4 เช้าวันเสาร์ หรือก็คือ 24 ชม ยกเว้นวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ นั้นเอง ปัจจุบันตลาด Forex นั้นมีมูลค่าการซื้อขายต่อวัน สูงถึง 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าทุกตลาดทางการเงินในโลกนี้รวมกัน


ผลตอบแทนกับการลงทุนในตลาด FOREX

ผล ตอบแทนจากการลงทุนในตลาด Forex นั้นสูงมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้น หรือการลงทุนในกองทุน สำหรับผู้ติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน อาจสงสัยว่าการลงทุนในตลาด Forex ซึ่งซื้อขายเงินตราสกุลเงินต่าง ๆ จะให้ผลตอบแทนสูงได้อย่างไร ในเมื่อแต่ละวันอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาของสกุลเงินต่าง ๆ นั้นเปลี่ยนแปลงน้อยมาก (ไม่ถึง 1%)


สิ่งที่ทำให้ตลาด Forex ให้ผลตอบแทนสูง นั่นคือ "ระบบ Leverage" ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุน สามารถลงทุนและทำกำไรได้เหมือนมีทุนเป็นร้อยเท่าจากทุนจริงที่มีอยู่ และสามารถเลือกทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลง ซึ่งทั้งหมดนี้เหมือนกับการลงทุนใน Gold Future, TFEX หรือ SET50 Future เพียงแต่ว่า สัดส่วน Leverage นั้นสูงกว่ามาก


หลายคนอาจสงสัย ว่า.. "ผลตอบแทนสูง นั้นสูงขนาดไหน ?" เปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น การลงทุนซื้อหุ้นในตลาดทุนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดได้บ่อย
แต่สำหรับตลาด Forex การทำกำไรนั้น เป็นเรื่องปกติ และธรรมดามาก จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนนั้นสูงมาก แต่ในทางกลับกันก็เป็นการลงทุนที่มีอัตราเสี่ยงสูงมาก (High Risk = High Return)
มี 100 ก็หมด 100 ได้ไม่ยาก ในเวลาอันสั้นเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่สนใจ และอยากลองลงทุนในตลาด Forex ควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุน

    เพิ่มเติมรายละเอียด Forex คือ อะไร? คลิ๊ก
    เพิ่มเติมรายละเอียด เกี่ยวกับ Forex คลิ๊ก


ความน่าสนใจของตลาด Forex
- เงินลงทุนต่ำเริ่มต้นเพียง $1
- ตลาด online ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต 24 ชั่วโมง
- สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
- ค่าดำเนินการต่ำโบรกเกอร์เก็บค่า spreed เริ่มต้นเพียง 2 pips ต่อเทรดเท่านั้น (คู่ EUR/USD)
- สามารถทดลองเทรดได้เสมือนจริงโดยใช้ virtual money (เงินปลอม) บนระบบจริง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- หากคุณศึกษาหาความรู้จนเกิดความชำนาญก็สามารถเทรด Forex เป็นอาชีพได้
- เป็นงานออนไลน์แห่งทุกปีและทุกยุคสมัยตลอดไป ใช้เวลาอยู่กับคอมพร้อมสนุกไปกับมัน
- ต่างจากงานออนไลน์ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องโปรโมทสื่อ หรือชวนคนใดๆ เพราะนี้ไม่ใช่ธุรกิจ MLM เพราะเราเทรด Forex มันได้มากกว่าธุรกิจชวนคนที่ไ้ด้ค่าคอม วันๆหนึ่งเราเทรด 3 ชั่วโมงกำไร 100 ดอล(3พันบาท) มันเป็นอะไรที่ได้เงินง่ายมากๆ แค่ไม่กี่นาทีเราก็สร้างรายได้แล้ว เพราะตลาดนี้มันทำกำไรได้เร็วที่สุดในโลก


ลงทุนใน Forex ได้เงินจริงหรือเปล่า?
เล่น Forex แล้วได้เงินจริงหรือเปล่า ผมขอตอบว่า...ได้จริงและเสียจริงครับ อยู่ที่ว่าคุณทำได้หรือเปล่า คุณต้องขยันศึกษาหาความรู้ หาเทคนิคในการทำกำไร มีหลายคนฝึกฝนจนสามารถยึดการเทรด Forex เป็นอาชีพหลักได้ ความสำเร็จดังกล่าวอยู่ที่การฝึกฝนครับ ก็เหมือนกับอาชีพอื่นๆ การที่จะเก่งได้นั้นก็ต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝน การเล่น Forex จะคล้ายๆ การเล่นหุ้น แต่เป็นการซื้อขายค่าเงินระหว่างคู่เงินแทน เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงิน ตลาดเงินจะคล่องตัวกว่าตลาดหุ้นมาก ส่วนตลาดหุ้นเค้าจะเน้นกิจการดี ปันผลเยี่ยม แต่ยังไงๆก็สู้ตลาดเงินไม่ได้อยู่ดีเพราะวันๆหนึ่งเราสามารถสร้างผลกำไรได้ มากกว่า 10% - 100%++ ต่อวันได้เลย แต่หุ้นไม่สามารถทำได้ ถึงทำได้ก็น้อย ถ้าเล่นแบบปั่นผล ก็จะมีไตรมาสล่ะ 20% 3 เดือนจ่ายที ซึ่งเป็นไรที่ช้ามาก สมมุติคุณลงไป 1 แสน บาทในการเล่นหุ้นหรือถือหุ้นบริษัทหนึ้งที่ให้ปั่นผล 20%ต่อไตรมาส พอ 3 เดือนปุ๊ป คุณก็จะได้ 2 หมื่น เทียบกับการเล่นค่าเงิน วันหนึ้งคุณทำกำไรจาก 1 แสน เป็น 1แสน 2 หมื่นบาท นั้นหมายถึงคุณทำกำไร 20% ต่อวันแล้ว ถ้าคิดเป็น 3 เดือนล่ะจะซักเท่าไหร่?เดือนหนึ่งเทรดได้ 20 วัน ก็เอา 20 วัน*3 เดือน = 60 วัน คุณเทรดได้กำไร 20%ต่อวันลองคูณดูมันจะซักเท่าไหร่ 20,000 * 60 = 1,200,000 บาท ภายใน 3 เดือน ซึ้งเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆกับการเล่น Forex โบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรด Forex ส่วนใหญ่แล้วจะมีเงินปลอมให้ทดลองเทรด (Demo Account) จึงควรศึกษาให้เข้าใจก่อนแล้วค่อยเล่นด้วยเงินจริง การตั้งใจศึกษาและฝึกฝนจนเกิดความชำนาญจะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด Forex ได้

เวลาทำการของตลาด
ตลาด Forex นั้นมีหลายแห่งในโลก มีเวลาการเปิดปิดที่คาบเกี่ยวกัน ทำให้สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ตั้งแต่เช้าวันจันทร์เวลาตี 4 จนถึงเช้าวันเสาร์เวลาตี 4 (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งตลาดต่างๆ มีเวลาเปิด-ปิดดังนี้

      ตลาด                             ประเทศ                เวลาทำการ
ชื่อย่อ   ชื่อเต็ม                                               เวลาเปิด     เวลาปิด

AUD   Australian Dollar       Australia               5.00       13.00
JPY   Japanese Yen             Japan                   7.00       14.00
CHF   Swiss Franc              Switzerland          13.00      21.00
EUR   Euro   European        Monetary Unio       13.00      21.00
GBP   British Pound            Great Britain        14.00      22.00
USD   US Dollar                 United States        19.00      3.00

เริ่มต้น forex อย่างไร
ก่อนอื่นก็ต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการเทรดก่อนนะครับ
- คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง จะเป็น PC หรือ Notebook ก็แล้วแต่สะดวกครับ
- อินเตอร์เน็ต ควรเป็นแบบไฮสปีดหรือหากต่อผ่านมือถือก็ได้เช่นกันครับ
เมื่ออุปกรณ์ในการเทรดพร้อมก็มาเตรียมตัวเพื่อเทรดกันครับ (ไม่มีคอมPCก็ร้านเน็ตครับ...จบเลย...ง่ายดี)
- ศึกษาและฝึกฝน ผมแนะนำให้เล่นด้วย Demo Account(คือบัญชีทดลองเล่น โดยมีเงินจำลอง 1 แสนดอลล่า) จนกว่าคุณจะสามารถทำกำไรได้มากกว่าเสีย จากนั้นค่อยเริ่มเล่นด้วยเงินจริง การเล่นด้วย Demo Account นี้ทุกอย่างคือของจริง ยกเว้นการเล่นได้หรือเสีย จะไม่ได้และไม่เสียจริง เพราะเป็นเงินที่ใช้ทดลองเล่น มือใหม่ควรศึกษาการเทรด ก่อนเทรดด้วยเงินจริง อย่างน้อยก็ควรมองเทรนของตลาดให้ออกก่อน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/t612/?/

Time Frame ไหนดีนะที่เหมาะกับเรา?

คุณ dvc11 เข้ามาตั้งกระทู้ว่า เขาอยากรู้จังเลยว่าคนส่วนใหญ่เทรดที่ Time Frame เท่าไหร่กันบ้าง และ ทำไมถึงเทรดที่ Time Frame นั้น ไม่ว่าจะเป็น 1 นาที 2 นาที 5 นาที 15 นาที 20 นาที 30 นาที 1 ชั่วโมง 4 ชั่วโมง แบบรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน อะไรก็ได้ รับฟังหมด (ปล.บางโบรกเกอร์ที่ไม่ได้ใช้ Platform ของ MT4 อาจจะมี 2 นาที 10 นาที 2 ชั่วโมงให้เลือกดูได้ครับซึ่ง MT4 ปกติจะไม่มี)


ใน ช่วงแรกของกระทู้นี้มีคนเข้ามาเถียงกันนิดหน่อยระหว่างคุณ The redlion กับ Scotty B ซึ่งผมมองว่าไม่ได้มีสาระอะไรมากเลยขอข้ามช่วงแรกไปนะครับ ถ้าใครสนใจว่าเค้าเถียง
อะไรก็ตามไปอ่านที่กระทู้จริงได้

คุณ Ipndasno เข้ามาตอบว่า มันขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณอยากเห็น “ความละเอียด” ของราคามากแค่ไหน แต่สำหรับเขาแล้วเขาให้ความสนใจกับ “ระยะของแท่งเทียนจากจุดสูงสุดของแท่งถึงจุดต่ำสุดของแท่งเทียน” มากกว่า เพราะมันคือแนวรับแนวต้านดี ๆ นี่เอง


คุณ Rob Mondave เข้ามาตอบว่าสำหรับเขาแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองเหมาะกับ Daily Time Frame มากกว่าสำหรับ Forex และ Time Frame อื่น ๆ ในหุ้นตัวอื่น (เหมือนเค้าจะเทรดS&P500 Futures ด้วย) เพราะเขาชอบเทรดแบบยาว ๆ มากกว่า


คุณ deltatrade บอกว่า เขาชอบเทรดที่ Time Frame 2 ชั่วโมง (2H) ด้วยเรื่องของ Spread และความยืดหยุ่นของราคาจะต่ำมากพอจนเขารู้สึกว่าได้เปรียบ เพราะเขาเทรดตั้ง
10 คู่แหนะ


คุณ babwilliams เข้ามาพูดว่า พวกสถาบันการเงินใหญ่ ๆ มักจะเทรดใน Time Frame ใหญ่ ๆ อย่าง Daily ขึ้นไปด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขามีกำลังซื้อขายในตลาดสูงมาก เขาจึงไม่
จำเป็นต้องมาสนใจใน Time Frame เล็ก ๆ นั่นเอง
คุณ Vmpwraith เข้ามาให้ความเห็นว่า เขาดูอยู่ 4 Time Frame นะคือ 15M 1H 4H และ Daily เขาจะเทรดจาก Time Frame 15M เพราะเขารู้สึกว่า Time Frame นี้โอเคส
ำหรับเขา เขาสามารถใช้ 15M ในการยืนยันเรื่องของเทรนได้ด้วย


คุณ Pipwrangler เสนอวิธีเทรดของเขาว่า อย่างเขาเนี่ยชอบดู Time Frame ใหญ่ ๆ อย่าง 1H ขึ้นไปเลยนะเพราะมันใช้วิเคราะห์แนวโน้มได้ดี แต่เวลาเข้าเขาจะมาเข้าใน Time
Frame 30M 15M หรือแม้กระทั่ง 5M เมื่อเค้าเห็นว่าราคาเป็นเทรนยาว ๆ เค้าจะไปดูราคาใน 4H หากราคาเป็นสวิงนิด ๆ เขาก็จะมาดูใน 1H วิธีคิดง่าย ๆ สำหรับเขาคือ เขาเทรดใน
Time Frame ที่เขามองว่าอ่านง่ายที่สุด ณ ขณะนั้น

คุณ forexpoor บอกว่า Time Frame ใหญ่ ๆ เหมาะสำหรับคนที่ใจเย็นและคนที่ไม่มีเวลาเฝ้าอยู่หน้าจอ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะลองเทรดทั้ง Time Frame ที่เล็ก ๆ หรือใหญ่ก็ดีนะ
และหา Time Frame ที่เหมาะสมกับคุณน่าจะเป็นอะไรที่ดีที่สุด
คุณ The Saint ตอบว่า ส่วนตัวแล้วเขาชอบเทรดในช่วงที่ตลาดปิดแท่งของวัน (Daily Time Frame) และเทรดใน Time Frame เล็ก ๆ ในแต่ละวันด้วย เขามักจะชอบดูราคาตอน
ปิดแท่ง Daily และชอบมาหาสัญญาณเข้าในกราฟ 1H แต่วันไหนที่กราฟเป็นสวิงเยอะ ๆ เขาก็จะมาหาจุดเข้าในกราฟ 1H 15M หรือ 5M ขึ้นอยู่กับสภาพของตลาด ณ ขณะนั้น


คุณ Sywa ให้ความเห็นว่า อย่างของเขาเนี่ยต้อง Time Frame 30 นาทีเลยโอเคที่สุดสำหรับเขา ถามว่าทำไมนะหรอ? เขาคิดว่า Time Frame ที่เล็กกว่านั้นมันหลอกตาเขามากเกิน
ไปและ 1H ก็ดูจะนานเกินไปสำหรับเขา ดังนั้น 30 นาทีนี่ละ เจ๋งที่สุดแล้ว

คุณ hedging เสนอว่า อย่างของเขาเนี่ย เขาชอบเทรดสวิงใน Time Frame daily นะ ถึงแม้ว่าโอกาสเข้าจะได้แค่ 6-8 ครั้งต่อเดือน แต่เวลาปล่อยยาวทีก็สามารถทำได้ถึง 400-
500 pips สบาย ๆ ถึงแม้จะโดนลากหน่อยแต่อย่างน้อยสุดก็ได้ 80-120 pips กลับมาแน่นอน (โบรกเกอร์ 4 ตำแหน่งนะครับที่เขาพูดถึง)


คุณ Slow Burn ช่วยตอบว่า เขาเทรดใน 1H นะเพราะชอบมี False Breakout ให้เขาเห็นและเข้าตามได้บ่อย ๆ แต่ถ้าวันไหนตลาดสวิงเยอะ ๆ เขาก็จะลงมาดูกราฟที่ 15 นาที


คุณ Vitez บอกว่า เขาใช้แค่ 2 Time Frames เองคือ 1H กับ Daily เพราะเขากลัวว่าตัวเองจะวิเคราะห์มากเกินไปใน Time Frame เล็ก ๆ หากวันไหนไม่พอใจกับกราฟ daily ก็
จะลงมาดู 1H น้อยครั้งที่เขาจะมาดู 15M บ้างยกเว้นเวลา Strong Move Breakout แรง ๆ นะ


จาก บทความนี้เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเทรดเดอร์แต่ละคนมีการเลือกใช้ Time Frame ที่ต่างกันออกไปตามวิธีการเทรดและนิสัยของแต่ละคน การเลือก Time Frame ในการ
เทรดให้เหมาะสมกับตัวเองส่วนตัวแล้ว ต้องใช้เวลาหน่อยนะครับกว่าเราจะเจอ Time Frame ที่ถูกใจ เพราะในช่วงแรก ๆ ของการเริ่มเทรด จะมีสิ่งล่อตาล่อใจมากมายให้ผู้เทรดหน้า
ใหม่ได้ลองเล่น ซึ่งของเล่นเหล่านั้นก็จะมีกติกาหรือวิธีการเล่นซึ่งรวมไปถึง Time Frame ที่ต่างกันออกไปด้วย ทำให้ผู้เทรดไม่แน่ใจว่าที่จริงแล้วตัวเองชอบ Time Frame ไหนกันแน่

วิธีการเลือก Time Frame ของผมคือให้คุณลองสังเกตตัวเองก่อนเลยว่า ตัวเองนิสัยยังไง ใจร้อน ใจเย็น รอลากได้ไหม หรือ สวิงเดียวก็หนีแล้ว เมื่อเราเข้าใจตัวเองแล้วก็ต้องดูเวลา
ของ คุณด้วยว่า คุณมีเวลาอยู่กับกราฟนานแค่ไหน ถ้าคุณเป็นคนทำงานไปด้วยเทรดไปด้วย Time Frame  สูง ๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว หรือ ถ้าคุณเฟี๊ยวชอบความเสี่ยง ชอบความ
รวด เร็ว การเทรดใน Time Frame  เล็ก ๆ อาจจะเป็นคำตอบของคุณ เท่านี้เราก็จะสามารถเลือก Time Frame ที่เหมาะสมได้ครับ อย่างผมเองก็เปลี่ยน Time Frame มาเยอะ
เหมือนกัน มีช่วงหนึ่งตอนที่กำลังเรียนมหาลัยอยู่ช่วงนั้นผมก็เทรด Time Frame ใหญ่ ๆ ก็สบายดีนะครับ 4H ค่อยดูกราฟทีนึง สามารถกะได้เลยว่าอีก 4H ข้างหน้าต้องดูกราฟหรือไม่
ต้องดูกราฟ แต่ก็ทำใจรับกับการลากยาว ๆ ของ 4H ไม่ได้

ปัจจุบัน ผมใช้อยู่ทั้งหมด 3 Time Frames คือ 5M, 1H, Daily โดย Daily เอาไว้ดูภาพรวมของเมื่อวานว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ปิดเป็นแท่งเทียนหน้าตายังไง ที่สำคัญคือสามารถใช้ จุด
สูงสุดของแท่งและจุดปิดของแท่งในการหาโซนเทรด ด้วย หลังจากนั้นก็มาดู 1H เพื่อดูว่าน่าจะไปทางไหน เมื่อเลือกทางแล้วก็จะมาหาจุดเข้าใน 5M ครับ แบบนี้เป็นต้น

ศึกษาข้อมูลได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/time-frame/?/

การใช้สคริปต์ เปิด-ปิด ออเดอร์

การใช้สคริปต์ เปิด-ปิด ออเดอร์
หลายคนคงเจอปัญหาเหมือนกันกับผม คือเมื่อเปิดออเดอร์แล้ว ขี้เกียจตั้ง TP หรือ SL เพราะต้องมานั่งบวกลบ หรือกำหนดจุดที่จะตั้ง อีกทั้งบางทีเปิดออเดอร์ช่วงข่าวออก ยังไม่ได้ตั้งอะไรเลยวิ่งซะไกลแล้ว ถูกทางก็ดีหน่อย ถ้าผิดทางมีกระโดดปิดแทบไม่ทัน แถมบางโบรก ดันไม่ยอมให้เปิด หรือปิดออเดอร์อีก ปัญหานี้แก้ได้โดยการใช้สคริปต์ ลองโหลดไปใช้ดูครับ

 
 
ศึกษาข้อมูลได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/t501/?/

3 กุญแจสำคัญในการเทรดฟอร์เร็ก Forex

3 กุญแจสำคัญ ในตลาดที่ต้องใส่ใจ เมื่อเทรดฟอร์เร็กซ์
นัก เทรดฟอร์เร็กซ์ ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ นั้น จะให้ความสาคัญในเรื่องกลยุทธ์การเทรดเกี่ยวกับการใช้ เครื่องมือ Indicator เช่น Moving Averages และ เส้นเทรนด์ไลน์ เมื่อเทรดยูโร หรือ เงินปอนด์ พวกเขาไม่ค่อยดูทิศทาง อย่างอื่นประกอบในการตัดสินใจในการเทรด แต่ว่า ปัจจัยอื่น ๆ เหล่านี้ บางครั้งก็สามารถเป็นกุญแจสำคัญ ในการ ทำกำไรได้ และส่งผลต่อการขาดทุนของคุณในตลาดฟอร์เร็กซ์ได้เช่นกัน

หลายปีมานี้ ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ได้ใส่ใจกับตลาดอื่น ๆ เพื่อมายืนยันทิศทางในการเทรด และยังใช้โปรแกรม ที่รุดหน้า ด้วยความที่เป็นมืออาชีพของพวกเขานั้น สามารถเห็นความสัมพันธ์ระหว่างตลาด ซึ่งเปิดเผยให้เห็นถึง การเคลื่อนไหวของการลงทุน ที่ไปในทิศทางเดียวกัน หรือ ทิศทางแตกต่างกัน ความสัมพันธ์เหล่านี้เรียกว่า ค่า Correaltion ที่เกิดขึ้นในตลาดเหล่านี้ เช่น น้ำมันดิบ ดัชนีดอลล่าร์แคนาดา ราคาฟิวเจอร์ทองคำ และ ดัชนีค่าเงิน ดอลล่าร์ออสเตรเลีย และ ตัวอย่างอื่น ๆ เช่น เงินเยนเมื่อเทียบกับดอลล่าร์ หรือแม้แต่ พันธบัตรระยะสั้น ของรัฐบาลญี่ปุ่น

มาดูว่า ตลาดอื่นนั้นมีความสำคัญ หรือ อิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดฟอร์เร็กซ์ เป็นอย่างไร

เชื่อหรือไม่ว่า อัตราแลกเปลี่ยนและตลาดพันธบัตร มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด

ทิศ ทางของตลาดสินทรัพย์ทั้งสองตัวนั้นค่อนข้างขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของ ประเทศ และ นโยบายทางการเงิน ของประเทศนั้น ๆ ถ้าเศรษฐกิจของประเทศมีความแข็งแกร่ง นักลงทุนจะซื้อพันธบัตรซึ่งเสนอมาจากประเทศนั้น ๆ ดังนั้น เราต้องดูว่า มีอัตราผลตอบแทนที่สูงและคงที่อย่างต่อเนื่องหรือไม่เพราะว่ามันจะส่งผลไป ถึง อุปสงค์ ของค่าเงิน ที่จะเพิ่มขึ้นด้วย และด้วยเหตุนี้ควรจะให้ความสำคัญ กับอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อนักลงทุนต่างชาติสนใจ ที่จะลงทุนในประเทศนั้น (และลงทุนในโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน) มันก็จะมีการทำธุรกรรมเกี่ยวกับ อัตรา แลกเปลี่ยนเกิดขึ้น ทำให้เงินเปลี่ยนมือจากอีกมือหนึ่งไปสู่มือหนึ่ง

และ นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมผู้จัดการกองทุนต่าง ๆ จะดูเรื่องของผลตอบแทนของพันธบัตรอายุระยะสั้นด้วย เพื่อยืนยันการเกิดเทรนด์ในตลาดแลกเปลี่ยนค่าเงิน การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในสินทรัพย์ทางการเงินตัวหนึ่ง สามารถทำนาย หรือ ยืนยันการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ทางการเงินตัวอื่นได้

คู่เงินหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์นี้ได้ดีคือ ค่าเงินดอลล่าร์เทียบกับค่าเงินเยนญี่ปุ่น ( USD/JPY) ในตลาด ฟอร์เร็กซ์ ค่าเงิน USD/JPY นั้นเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้นของรัฐบาลญี่ปุ่น โดย ทั่วไปแล้ว พันธบัตรอายุสองปี ตามรูปที่ 1 ที่เราเห็น จะเห็นว่า รูปแบบ จะปรับตัวขึ้นตลอดปี 2010 และในตลอด ช่วงเวลานี้ การเก็งกำไรในตลาดได้เกิดขึ้นทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น และถ้าเป็นไปอย่างนี้ เมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ผู้ส่งออกของญี่ปุ่นจะฟื้นด้วย ได้เร็วกว่าทางสหรัฐฯ เนื่องจากที่ญี่ปุ่นมีการเจริญเติบโตมากกว่า และผลดังกล่าว จะทำให้นักลงทุนต่างประเทศ จะสนใจให้การลงทุนในเอเชีย ในพันบัตรของรัฐบาลมากขึ้น ซึ่งอุปสงค์จะช่วยทำให้ ค่าเงินของญี่ปุ่นแข็งค่าเงิน เมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปถึงเดือนกันยายนปี 2010


ภาพที่ 1 ที่มา : Bloomberg

เครื่อง มือทางการเงินประเภทอนุพันธ์ เช่น อนุพันธ์ค่าเงิน ก็เป็นตัวยืนยันที่ดีเยี่ยม ของทิศทางการเคลื่อนไหว ของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือ ฟอร์เร็กซ์

ในตลาดทุน โบรกเกอร์หุ้น และ นักเทรด จะคอยดูปริมาณการเทรด เพื่อยืนยันน้ำหนักในการเกิดเทรนด์ นักเทรด ค่าเงิน ก็จะใช้ฟิวเจอร์ของค่าเงิน ในการสังเกตอุปสงค์ของค่าเงินตัวที่อ้างอิงนั้น ๆ ซึ่งข้อมูลประเภทนี้ สามารถใช้ ในการทำนายอุปสงค์ในอนาคต ของค่าเงิน และยังใช้ทำนายอุปสงค์ ของตลาดโภคภัณฑ์ด้วยเช่นกัน

แม้ว่า นักวิเคราะห์หรือนักกลยุทธ์บางคน จะมองในเรื่องของออร์เดอร์ที่ไม่ได้หวังทำกำไร และออร์เดอร์ที่ หวังทำกำไรด้วย

– ประเด็นคือ การดูออร์เดอร์ที่ไม่ได้หวังทำกำไรเป็นหลัก ออร์เดอร์ที่ไม่หวังทำกำไรนั้นมีอยู่จริง เคล็ดลับคือ การดูอุปสงค์ที่มีอยู่ ในค่าเงินเพื่อที่จะยืนยันทิศทางของตลาด (ตัวอย่าง สัญญาฟิวเจอร์ที่ เปิดสถานะไว้มีสูง ในค่าเงินดอลล่าร์ออสเตรเลีย) ด้วยเหตุนี้ กำไรของออร์เดอร์เหล่านั้น ได้มาจากการที่ตลาดนั้น เคลื่อนไหว ด้านใดด้านหนึ่ง
- เพื่อที่จะป้องกันการเกิดราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้าม ถ้าเทรดเดอร์ทุกคน ซื้อในตลาด จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อพวกเขาอยากขาย ? (ตลาดฟอร์เร็กซ์นั้น ไม่ใช่หนทางเดียวสาหรับนักลงทุน หรือนักเก็งกำไร ในการทำเงิน ยังมีการทำกำไรจากฟิวเจอร์ของค่าเงินอีก)

วันที่ 19 ธันวาคม 2010 ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญในรอบ 90 วันทำการ นักเทรดจะทำการเทรดด้าน ดอลล่าร์ เนื่องจากว่า ภาวะหนี้เสียของสหภาพยุโรปที่ลุกลาม และเทรดเดอร์เหล่านี้จะ Sell ฟิวเจอร์ส ของค่าเงิน ยูโร ซึ่งก็ไม่แตกต่างกันจากการทำกำไรจากค่าเงิน EUR/USD เนื่องจากมันร่วงลงไปจนถึง $1.3080 หลังจากที่มัน ถึงจุดแนวรับทางเทคนิค นักเทรดเริ่มมีการทำกำไร ซึ่งนำไปสู่การเกิดการกลับตัว ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น และสร้าง ผลตอบแทนได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าใครซื้อไปวันนั้น


รูปที่ 2 ที่มา: FX Intellicharts

ตลาด Credit Default Swap.

เป็น ตลาดที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก หรือเรียกอีกอย่างว่าเครื่องมือ CDS สามารถช่วยให้เห็นทิศทางของค่าเงิน ในระยะยาวได้ดี เช่นกัน CDS เพิ่งจะเป็นที่รู้จัก และใช้กันอย่างกว้างขวางเมื่อเกินกว่า 14 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมันก็คือ สัญญาที่ออกแบบไว้เพื่อป้องกันออร์เดอร์ของฝั่งผู้ซื้อ ต่อดัชนี้ความเชื่อมั่นต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการกองทุน สามารถซื้อเครดดิต มูลค่า 100 ล้านเหรียญ ในพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น โดยการจ่ายค่าพรีเมียม และเมื่อเหตุการณ์ ภาวะวิกฤติเกิดขึ้น ผู้จัดการกองทุนจะได้ค่าชดเชยพัมธบัตรคืน ดังนั้นก็ไม่ได้แตกต่างจาก ฟิวเจอร์สค่าเงิน CDS เป็นตัวหนึ่งที่จะบอกได้ว่าตลาดกับอยู่ในภาวะขาขึ้นหรือขาลง

ในช่วง ที่เกิดวิกฤตหนี้สิน ในปี 2010 CDS เป็นตัวยืนยันถึงความขมขื่นของสภาวะตลาดสินทรัพย์ ทางการเงิน ของ ยุโรป ตอนนั้น CDS พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติกาล ประเทศอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่าง สหรัฐฯ อังกฤษ พอใจกับอัตรา Swap Rate ที่เฉลี่ย 50 จุด Swap ของกรีซสูงกว่าตอนนี้ถึง 15 เท่าตอนที่เกิดวิกฤติหนี้สินใจกรีซ ความแตกต่าง ของ Swap Rate ที่มากมายนี้ยืนยันการเกิดการเทขายค่าเงินยูโรแกว่งตัวถึง 20 % ในช่วงเวลาเพียง 5 เดือนครึ่ง

เมื่อเราใช้เครื่องมือข้างต้น เหล่านี้สามารถยืนยันการตัดสินใจในการเทรดของเราได้เป็นอย่างดี เพื่อทำให้ผลตอบ แทน ของการลงทุนมากยิ่งขึ้น ด้วยความเชื่อมโยงกันที่มากขึ้น ของตลาดโลกทุกวันนี้ และต้องพยายามเข้าใจ ความสัมพันธ์ ของตลาด เพราะว่ามันช่วยให้นักลงทุนได้กาไรเพิ่มขึ้นจากการศึกษาพวกมัน

ศึกษาข้อมูลได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/3-476/?/