RSS
Showing posts with label ลงทุน. Show all posts
Showing posts with label ลงทุน. Show all posts

พวกเราจะเปลี่ยนเงินจาก 100 $ เป็น 10000$ ภายใน 1 ปี ได้มั้ย

ผมเคยทำแผนเทรดจากเงิน 5 เหรียญ เป็น 10240 เหรียญ โดยการบริหารเงิน Money Management แบบต่างๆ ดังรูปด้านล่างครับ


จาก รูปด้านบน ทำได้ไม่ยากครับ และก็ไม่ง่าย ผมว่าทุกคนทำได้ครับ ไม่เกินความสามารถของเราหรอก แต่ที่ทำยากก็คือการควบคุมอารมณ์และระงับความโลภนี่แหระครับ คือปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ล้างพอร์ตก่อนถึงเป้าหมาย ความกดดันต่างๆนาๆ เป็นอุปสรรคต่อการพุ่งชนเป้าหมายครับ

ที่ Colume สีฟ้า เป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด เทรดที่ 5-15 % ของทุน โดยเป้าหมายต่อวัน คือ 33-100 จุด

แต่สำหรับผมคิดว่า Colume สีเหลือง ทำง่ายกว่า เก็บเพียง 16-25 จุดต่อวันเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ยากมากนัก

เช่น เราลงทุนก้อนแรก 100 $ ถ้าเป็น Mini Account ของ Exness ก็ควรเทรดที่ 0.02-0.03 lot จุดละ 20-30 เซนต์
แต่ถ้าเป็นบัญชี Micro Cent ของ Forex4you ก็เทรดที่ 2-3 lot จุดละ 20-30 เซนต์ เช่นกัน

แต่ เราลองดูที่ Colume สุดท้ายสิครับ ลงทุน ครึ่งนึงของพอร์ตเลย เทรดทีละ 50 % วันละครั้งเท่านั้น เอาให้ได้ 10 จุด หรือกี่ครั้งก็ได้ แค่ทำให้ได้วันละ 10 จุดเท่านั้น ได้แล้วหยุด 1 ปี รวยแน่นอน  เช่น ทุน 100 $ ลง 0.05 lot จุดละ 50 เซนต์

เราควรเพิ่มจำนวน Lot ทุกๆเดือน ถ้ามีกำไรนะครับ แต่ถ้ายังไม่มีกำไร ก็ต้องเทรดจำนวน Lot เท่าเดิมนั้นไปจนกว่าจะมีกำไร แล้วค่อยเพิ่มจำนวน Lot

ดูเหมือนง่ายๆครับ แต่ทำยาก เก็บเพียงวันละ 10 จุด เทรดที่ 50 % ของพอร์ต
 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/100-$-10000$-1/?/ 

5 ขั่นในการเป็นนักเทรด

ขั้นเเรก - ไร้สติเเละไร้คุณสมบัติ
นี้ เป็นขั้นเเรกของนักเทรดทุกคนเมื่อคิดที่จะเริ่มเทรด ท่านรู้ว่าการเทรดเป็นการหาเงินที่ดีเพราะท่านได้ยินใครๆก็พูดถึงเรื่องของ นักเทรดที่เป็น millionaire เหมือนกับคุณเริ่มคิดที่จะขับรถทุก อย่างดูเหมือนง่ายมันไม่น่าจะยากอะไรขนาดนั้น เหมือนกับการเทรดราคามีเเค่ขึ้นกับลง มันจะมีความลับอะไรกันมากมาย ท่านเลยคิดว่าเทรดเลยดีกว่าไม่น่าจะยาก เเต่เช่นเดียวกับการขับรถเมื่อท่านจับพวงมาลัยครั้งเเรก ท่านถึงได้รู้ว่าท่านไม่รู้อะไรเลย ท่านเปิดออเดอร์มากมาย เเละรับความเสี่ยงสูง พอท่านเปิดซื้อกราฟก็ตกพอท่านสั่งขายกราฟก็ขึ้นเป็นอยู่อย่างนี้ บางทีท่านอาจจะประสบความสำเร็จ นั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เพราะในสมองของท่านจะคิดว่าการเทรดเป็นเรื่องง่าย เเล้วท่านก็จะเพิ่มความเสี่ยงขึ้น เเละลงเงินมากขึ้นไปอีก ท่านพยายามที่จะเปลี่ยนการจากออเดร์ที่เสียด้วยการดับเบิ้ลเงินลงไปทุกครั้ง ในการเทรด บางครั้งท่านก็รอดมาได้เเต่ไม่บ่อยครั้งที่จะผ่านมาเเบบไม่เสีย ท่านยังไม่คิดว่าท่านไม่มีความสามารถในการเทรด ขั้นตอนนี้กินเวลาอาทิตย์ถึงสองอาทิตย์ ก่อนที่ท่านจะย้ายไปอีกขั้นนึง

ขั้นสอง - มีสติเเต่ขาดคุณสมบัติ
ขั้น ตอนสองคือท่านทราบการเทรดนั้นต้องมีการวางเเผน เเละลงมือลงเเรง จิตใต้สำนึกท่านทราบว่าท่านเป็นนักเทรดที่ขาดคุณสมบัติท่านไม่มีทักษะหรือ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการทำกำไรในตลาดเงิน ท่านเริ่มที่จะหาซื้อระบบการเทรดและ e-book ท่านหาหนังสืออ่านตามเว็บไซต์ทุกที่จากสหรัฐอเมริกาถึงยูเครน ช่วงนี้ท่านเริ่มต้นค้นหาอินดี้หรือระบบศักดิ์สิทธิ์ ขณะนี้ท่านจะย้ายจากระบบไประบบนึง อินดี้นึงไปอินดี้นึง ท่านจะเปลี่ยนจากวิธีนี้วันวิธีนู้นอีกวัน และสัปดาห์โดยสัปดาห์ไม่ใช่มันนานพอที่จะดูว่ามันใช่ได้หรือไม่ เวลาที่ท่านเจออินดี้ตัวใหม่ คุณจะมีความตื้นเต้น เเละคิดว่าอินดี้นี้ ละสุดยอดเเล้ว ท่านจะทดสอบระบบ อัตโนมัติใน Metatrader ท่านจะเล่นกับmoving average, Fibonacci, support และ resistant, Pivots, Fractals, DMI, ADX และอื่นๆ อีกร้อยเเปดในความหวังว่ามันจะเป็นระบบมหัศจรรย์ของท่าน ท่านจะเป็นคนเลือกบนเเละล่างพยายามหาจุดกลับตัวของกราฟและท่านจะพบตัวว่าเอง ไล่กวดเทรดที่เสีย และยังเพิ่มเงินลงไปเพราะคุณมั่นใจว่าท่านถูก ท่านจะไปอยู่ในเเชทลูมและเห็นว่าคนอื่นๆทำกำไรเเต่ทำไมไม่ใช่ท่านท่านมี ปัญหาที่ต้องการคำตอบล้านเเปด บางคำถามเมื่อตัวท่านเองย้อนกลับไปดูตัวท่านเองยังรู้สึกว่าเป็นคำถามที่งี่ เง่า แล้วท่านจะถึงจุดที่ท่านคิดว่าคนที่ออกมาบอกว่าได้กำไรทั้งหมดโกหก พวกเขาไม่น่าจะทำไรได้เพราะท่านก็ได้ศึกษาการเทรดมาเเต่ได้เเต่ขาดทุน ท่านก็รู้เท่าเท่ากับที่พวกเขารู้พวกเขาต้องโกหกเเน่เเน่. เเต่ พวกเขาอยู่ในตลาดเทรดทุกวัน และบัญชีของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นในขณะที่ของท่านลดลงเรื่อยๆ ท่านจะกลับไปเป็นเเบบวัยรุ่นอีกครั้งนึง – นักเทรดที่มีประสบการเเละสำเร็จให้คำอธิบายบอกเหตูผลบอกวิธีเเบบฟรีๆเเต่ท ่านก็ยังดื้อรั้นคิดว่าตัวเองถูกเเละท่านรู้ดีที่สุด ท่านก็ยังดั้นด้นเทรนทั้งที่ทุกคนรอบรอบข้างบอกว่าคุณบ้าไปเเล้วเเต่ท่านคิด ว่าท่านรู้ดีกว่า เมื่อท่านจะคิดได้เเล้วจะพยายามเทรดตามคนอื่นเเต่ก็ไม่สำเร็จ.ท่านพยายาม จ่ายค่าสัญญาณจากคนอื่น.ท่านก็จะจ่ายเงินให้กูรูคอยบอกเเละสอนไม่ว่ากูรูจะ ดีหรือไม่ดียังไงท่านก็ยังไม่สำเร็จเพราะท่านยังคิดว่าท่านรู้ดีที่สุด

ขั้น นี้อาจจะนานตราบเท่านาน - ในความเป็นจริงเเห่งโลกของความเป็นจริง เเละหลังจากที่พูดคุยกับนักเทรดคนอื่นๆ เเละจากประสบการขั้นนี้อาจจะนานเป็นปีถึงสามปี นี้เป็นขั้นที่นักเทรดถอนตัวถอดใจในการเทรด ประมาณ 60% ของนักเทรดใหม่ถอดใจใน 3 เดือนเเรก – พวกเขาถอดใจเป็นสิ่งที่ดี - ลองคิดดู - ถ้าการเทรดเป้นเรื่องง่ายทุกคนก็รวยกันหมดเเล้วอีก 20% ให้เวลาอีกหนึ่งปีแล้วความหมดหวังในการเสี่ยงจะทำให้บัญชีพวกเขาหมดไปอย่าง เเน่นอน

สิ่งที่ท่านอาจจะแปลกใจก็คือที่เหลืออีก 20% พวกเขาผ่านได้ประมาณ 3 ปี และเขาก็จะคิดว่าพวกเขาจะปลอดภัยแต่แม้จะผ่าน 3 ปีเเต่เเค่อีกเพียง 5-10% จะทำกำไรได้สมำเสมอ ตัวเลขอันนี้ไม่ได้เกิดมาได้จากอากาศไม่ได้โมเมขึ้นมา หลังจากที่คุณผ่านสามปีได้อย่าพึ่งวางใจ.มีคนเคยเถียงเรื่องเวลาหลายคนทุก ทุกคนไม่เคยรอดเกินสามปี.ถ้าท่านคิดว่าท่านรู้ดีลองถามตามบอดร์ดูว่าใครเทรด มาห้าปีเเล้วสามารถที่จะเทรดเต็มความสามารถ 100% บางทีอาจจะมีบางคนเป็นข้อยกเว้น เเต่ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเองสักคน ท่านจะค่อยๆ ออกมาจากขั้นนี้ ท่านลงทุนลงเเรงกับมันไปมากกว่าที่ท่านคาดคิด ท่านหมดเงินไปจากบัญชีเป็นสิบครั้งเ เละคิดจะเลิกตั้งหลายครั้งเเต่ท่านไม่เลิกเ พราะมันอยู่ในสายเลือดไปเเล้ว วันนึงในเสี้ยววินาทีท่านก็จะเข้าขั้นที่สาม

ขั้นที่สาม – Eureka
ช่วง สุดท้านของขั้นที่สองท่านเริ่มคิดได้ว่ามันไม่ใช่ที่ระบบที่ทำให้เกิดความ เเตกต่าง ท่านเริ่มที่จะคิดได้ว่าท่านสามารถทำเงินได้กับเเค่ simple moving average เเละไม่มีอย่างอื่น หากเเต่ว่าความคิดของท่านเ เละการจัดการเงินของท่านเป็นไปอย่างถูกต้อง ท่านเริ่มอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาในการเทรด เเละเข้าใจในตัวคาเเรกเตร์ในหนังสือทำให้เกิดความกระจ่าง การกระจ่างนี้เกิดจากสมองของท่านประติดประต่อได้ว่าไม่ว่าใคร ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรได้อย่างเเม่นยำในเวลาข้างหน้า ไม่ว่าจะสิบวินาทีหรืออีกยี่สิบนาที ท่านจะเลิกสนใจความคิดของคนอื่น ท่านเริ่มที่จะสร้างระบบของท่านเองเพียงระบบเดียว เเละมีความสุขกับระบบของท่าน เเละท่านเป็นคนกำหนดกะเกณฑ์ความเสี่ยงของตัวเอง ท่านจะเริ่มเทรดเมื่อท่านเห็นว่าท่านมีโอกาสที่จะทำกำไร เเละเมื่อเสียท่านก็ไม่โกรธตัวท่านเอง เพราะท่านรู้ว่าอยู่ในหัวของท่านว่าท่านไม่อาจคาดเดาตลาดได้เเละมันไม่ใช่ ความผิดของท่าน เมื่อท่านเทรดเเล้วเเล้วรู้ว่าเสียท่านปิดออเดอร์ เทรดอันต่อไปเเละต่อไปท่านรุ้ว่ามีเปอรเซ็นสำเร็จ เพราะท่านรู้ว่าระบบของท่านสามารถทำกำไรได้ ท่านเลิกที่จะมองเเค่การเทรดเเค่มุมมองของเทรดออเดอร์เดียว ท่านเปลี่ยนมุมมองของท่านเป็นอาทิตย์เเละคิดว่าเทรดผิดครั้งเดียวไม่ได้หมาย ความว่าระบบของท่านใช่ไม่ได้ ท่านจับไดว่าการเทรดขึ้นอยู่กับสิ่งเดียวคือความสมำเสมอเเละการมีวินัย ท่านเรียนรู้เรื่องการจัดการเงิน เเละความเสี่ยงทุกอย่างเริ่มซึมซับ ท่านมองย้อนกลับไปถึงนักเทรดที่ใหห้ความรู้กับท่าน เเต่ก่อนด้วยความยิ้มเเย้มว่าตอนนั้นท่านยังไม่พร้อมเเต่ตอนนี้พร้อมเเล้ว

ขั้นสี่ - มีสติเเละความสามารถ
ท่าน ทำการเทรดเมื่อระบบของท่านบอก ท่านทำใจยอมรับการเสียได้เหมือนกับท่านได้กำไรจากการเทรด ตอนนี้ท่านปล่อยให้ออเดรที่ทำกำไรทำกำไรถึงที่สุด โดยยอมรับความเสี่ยง เเละรู้ว่าระบบของท่านทำกำไรได้มากกว่าที่เสียไป.เเละเมื่อท่านอยู่ฝั่งที่ เสียท่านปิดออเดอร์โดยเจ็็บปวดเล็กน้อยใน account ของท่าน ตอนนี้ท่านถึงจุดที่ท่านเสมอตัวซะส่วนมาก ทุกทุกวันจะมีบางอาทิตย์ที่ท่านได้100 pips เเละสัปดาห์ที่เสีย100 pips เเต่ท่านก็เสมอตัวไม่ขาดทุน ตอนนี้ท่านรู้ว่าท่านเป็นคนตัดสินใจในการเทรดเเละเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ตามระบบของท่านไม่ว่าได้หรือเสีย.ท่านได้รับการยอมรับจากนักเทรดคนอื่นๆ ท่านยังต้องขัดเกลาเเละเช็คการเทรดของท่านอย่างสมำเสมอ ท่านเริ่มที่จะทำเงินได้มากกว่าเสีย ท่านจะเริ่มวันด้วยการได้กำไร 20 pips เเละก็ เสีย 35 pips เเต่ท่านไม่รู้สึกอะไร เพราะท่านรู้ว่าเสียไปเเล้วมันก็จะกลับมาหาท่านอีก ท่านเริ่มที่จะทำกำไรสัปดาร์ต่อสัปดาร์ 20 pipsสัปดาร์นี้ 50 pips สัปดาร์หน้า ขั้นนี้จะประมาณ หกเดือน

ขั้นห้า – ไร้สติเเต่มีความสามารถ
ขั้น นี้เหมือนเราขับรถ ทุกวันเราขึ้นรถขับออกไปปโดยสัณชาตญาณ เหมือนกับเราเทรด ท่านเทรดโดยสัญชาตญาณ เทรดเเบบ autopilot ท่านไม่ตื่นเต้นไม่ว่าจะทำได้ 200 pips หรือ 1 pip ท่านเห็นเด็กใหม่ในฟอรั่มเเล้วย้อนคิดไปถึงท่านในอดีตหลายปีมาเเล้ว นี้คือสวรรคของการเทรด – ท่านได้บรรลุโดยการเทรดเเบบไม่ใช่อารมณ์ เเละความรู้สึกมาร่วม Account ของท่านเติบโตขึ้น ท่านเป็นที่รู้จักของนักเทรดทุกคนคอยฟังความเห็นของท่าน เเต่ท่านรู้ว่าบางคนก็ไม่ทำตามเหมือนท่านสมัยก่อน การเทรดเริ่มน่าเบื่อเพราะพอท่านทำอะไรได้ดีหรือเก่งท่านก็จะเริ่มเบื่อไม่ มีอะไรมาทำให้ท่านได้รู้สึกเเข่งขัน ท่านเริ่มหายจากห้องสนทนา เเละหาเพื่อนคุยกันรู้เรื่องโดยที่ไม่ผันตามความคิดของท่าน ท่านไม่ได้เปลี่ยนเเปลงระบบ เเต่พัฒนาระบบให้ดีขึ้น ตอนนี้ท่านมีสัญชาตญาณในการเทรด ท่านสามารถเรียกตัวเองได้เต็มปากว่า “forex trader” เเต่ท่านไม่รู้สึกอะไรคิดเเค่มันก็เเค่เป็นอาชีพอาชีพหนึ่ง

โปรด จำไว้ว่าเเค่ ห้าเปอรเซ็นของนักเทรดที่สามารถถึงจุดนี้ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความฉลาดหรือความสามารถ เเต่ขึ้นอยู่กับความสามารถที่จะเปลี่ยนความคิดของตัวเอง เเละความหัวเเข็งของท่านได้ไหม เมื่อเวลาที่ท่าได้รับความคิด เเละความรู้ใหม่ๆ ก่อนที่ท่านจะถอดใจ ลองคิดดูว่าท่านจะยอมใช่เวลาไปโรงเรียนกี่ปี ถ้าท่านรู้ว่าตอนจบมามีงานที่ทำเงินได้ล้านนึงต่อปีรออยู่

พื้นฐานความเข้าใจ กับการเทรด Forex

ตลาด forex นั้นได้เปิดกว้างให้บุคคลทั่วไปได้เเข้ามาทำการซื้อขายได้ เกือบ 10 ปีแล้ว ในสมัยก่อน ตลาด forex เข้าถึงได้เฉพาะสถาบันทางการเงินขนาดใหญ่ เช่น ธนาคาร, บริษัทขนาดใหญ่ องค์กร ระดับประเทศ ปัจจุบันนี้ ตลาด forex ได้เปิดกว้างให้บุคคลทั่วไปได้เข้ามาทำการซื้อขายได้ และเป็นประเด็นร้อน ซึ่งทำให้นักลงทุนหลายคนจับตามอง และอยากเรียนรู้มัน

forex คืออะไร? forex เป็นคำย่อของ Foreign Exchange การเทรด forex ก็คือการซื้อขาย สกุลเงินต่าง ๆ ทั่วโลก ในตลาด forex ซึ่งเป็นตลาดทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยปกติปริมาณการซื้อขายต่อวันของตลาด forex นั้นสุงเป็นล้านล้าน USD

ตลาด forex เปิดทำการ 24 ชม ตลอดวัน นั้นทำให้ forex เป็นตลาดที่ทำการซื้อขายได้ลื้นไหลที่สุดในโลก การเทรดของวันจะเริ่มต้นที่ตลาด ซิดนี้ และจบที่ ตลาด นิวยอร์ค, การเทรด forex นั้นไม่มีศูนย์กลางอยู่ในที่ไดที่หนึ่ง นั้นหมายความว่า คุณสามารถเทรด forex จากที่ไหนก็ได้ที่คุณต้องการ และไม่จำกัดเวลา ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่งสำหรับผู้เทรด

การเทรด forex นั้น จำเป็นต้องเทรดเป็นคู่ เมื่อคุณซื้อเงิน สกุลเงินหนึ่ง นั้นหมายถึง คุณกำลังขายสกุลอื่นอยู่ด้วยในเวลาเดียวกัน
คู้สกุลเงินที่เป็นที่นิยมในตลาด Forex คือ USD/GBP, USD/JYP, USD/CHF และ GBP/USD คุณจะเห็นว่า แต่ละสกุลเงิน
แสดงโดยใช้ตัวอักษร 3 ตัว

USD (United State dollar) คือเงินยูเอส ดอลลาห์
GBP(British pound sterling) คือเงินปอนด์ อังกฤษ
JYP(Japanese yen) คึอเงินเยน ญี่ปุ่น
CHF (Swiss franc) คือเงิน ฟรังก์สวิตซ์

สกุลเงินด้านหน้า ของคู่เงิน หมายถึง สกุลเงิน ที่คุณใช้สำหรับลงทุน ส่วนสกุลเงินด้านหลัง หมายถึงสกุลเงินซื้อลงทุน ตัวอย่าง
USD/GBP หมายถึง คุณใช้เงิน USD เพื่อซื้อเงิน GBP

ใน การเริ่มต้น เข้าเทรดในตลาด Forex คุณจำเป็นต้องมี คอมพิวเตอร์ พร้อมกับ การเชื่อมต่อด้วย อินเตอร์เนต ความเร็วสูง เงินทุน ใน บัญชีสำหรับเทรด Forex และระบบการเทรด โดยส่วนใหญ่แล้ว นักลงทุนทั่วไปจะซื้อขายผ่านโบรคเกอร์ ซึ่งทำหน้าที่คอยช่วยเหลือ ให้ความสะดวกในกระบวนการเทรด

โบรคเกอร์จะได้เงินจากค่าคอมมิสชัน ที่เราเข้าเทรดแต่ละครั้ง ถึงแม่ว่าโบรคเกอร์จะเป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อขาย จากเงินทุนของเรา แต่ การตัดสินใจทั้งหมดนั้น จะขึ้นอยู่กับคุณเท่านั้น มาดูว่า โบรคเกอร์ทำอะไรให้กับคุณบ้าง

- นำเสนอ และแนะนำ เกี่ยวกับการซื้อขายแบบเรียลไทม์
- นำเสนอ และแนะนำ ว่าอะไรควรซื้อ อะไรควรขาย จากบทความ และข่าวสาร
- ใช้เงินทุนของคุณเข้าเทรดในตลาด Forex ตามการตัดสินใจ และการส่งคำสั่ง ซื้อ ขาย ของคุณ
- ให้ข้อมูล และซอฟท์แวร์ เพื่อช่วยคุณ ในการตัดสินใจ

ผู้ เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ ได้กล่าวว่า "คุณจะไม่มีทางเข้าใจ ว่า Forex ทำงานอย่างไร จนกว่า คุณจะได้เข้าเทรดในตลาด Forex จริง" เพื่อช่วยให้คุณมีประสบการณ์มากขึ้น โดยไม่ต้องเสี่ยงลงทุนจริง คุณสามารถเปิดบัญชีทดลอง จากเวปไซท์การศึกษา Forex หรือ จากโบรคเกอร์ ได้ จากนั้น คุณจะสามารถจำลองการเทรด อย่างเสมือนจริง และได้เรียนรู้สภาวะตลาดจริง ที่หลากหลาย รวมถึงดู ผลกระทบของสกุลเงินต่าง ๆ จากในอดีตได้

ตลาด Forex สามารถให้โอกาศนักลงทุน หาเงินได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาด Forex นั้นมีความเสี่ยง ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่สามารถทำกำไรได้ จากการเข้าเทรดทุกครั้ง นอกจากนี้ ผู้เทรดอาจขาดทุนอย่างหนัก ถ้าไม่ระมัดระวัง หรือไม่ได้ลงทุนอย่างฉลาด

บทความต้นฉบับ (ภาษาอังกฤษ)
Forex - Forex Trading 101 - A Basic Understanding โดย เดวิด ซิลวา (David Silva) 


ศึกษาข้อมูลได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-194/?/

Forex คืออะไร

ตลาด Forex (Foreign exchange market) คือตลาดกลางสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่าง ๆ ทั่วโลก แต่เดิมตลาด Forex นั้นมีไว้สำหรับการซื้อขายในเฉพาะกลุ่ม ธนาคาร สถาบันทางการเงิน หรือหน่วยงานของรัฐ แต่เมื่ออินเตอร์เน็ตเริ่มมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย จึงเริ่มมีการพัฒนาระบบให้คนทั่วไป สามารถเข้ามาซื้อขายในตลาด Forex โดยใช้อินเตอร์เน็ตส่งคำสั่ง ซื้อขาย ผ่านทางโบรกเกอร์ได้

ตลาด Forex นั้นเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก มีตลาดใหญ่อยู่ที่ นิวยอร์ค ญี่ปุ่น ยุโรป และ ออสเตรเลีย การที่มีตลาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยแต่ละพื้นที่มีเวลาเหลื่อมกัน ทำให้เสมือนว่าตลาด Forex นั้นเปิด และมีการซื้อขายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในประเทศไทยแล้ว ตลาด Forex เปิดทำการตั้งแต่ตี 4 ของเช้าวันจันทร์ จนถึง ตี 4 เช้าวันเสาร์ หรือก็คือ 24 ชม ยกเว้นวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ นั้นเอง ปัจจุบันตลาด Forex นั้นมีมูลค่าการซื้อขายต่อวัน สูงถึงประมาณ 3.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าทุกตลาดทางการเงินในโลกนี้รวมกัน

ปัจจุบัน กฎหมายประเทศไทย ยังไม่อนุญาต ให้สถาบันทางการเงิน เปิดบริการเป็นโบรกเกอร์เพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้ามาซื้อขายในตลาด Forex ได้ แต่ในต่างประเทศหลายประเทศ การเข้ามาซื้อขายเงินตราในตลาด Forex ผ่านโบรกเกอร์ เป็นเรื่องที่เปิดกว้าง และสามารถทำได้มาหลายปีแล้ว โดยผู้ลงทุนสามารถทำการซื้อขายได้ ถึงแม้จะมีทุนเริ่มต้นเพียงแค่ 1$ เท่านั้น

ศึกษาข้อมูลได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex/?/

ความผิดพลาดที่สำคัญ 9 ประการของนักลงทุน



1. ลงทุนด้วยจำนวนเงินที่มากเกินกว่าที่คุณจะสูญเสียได้
หนึ่ง ในอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ของการลงทุนให้ประสบความสำเร็จคือการลงทุนด้วยเงินก้อน ใหญ่ที่คุณไม่สามารถจะเสียไปได้  เช่น จำนวนเงินที่คุณจะต้องใช้ผ่อนค่างวด หรือค่าเทอมลูก ในกรณีเช่นนี้ เราเรียกว่า การลงทุนด้วยเงินร้อน (Trading with scared money) และในท้ายที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อในส่วนลึกของจิตใจ นักลงทุนเหล่านั้นรู้ว่าพวกเขากำลังเสี่ยงด้วยเงินที่เปรียบเสมือนเงินที่ ยืมมา พวกเขาจะลงทุนด้วยอารมณ์และความกลัว โดยปราศจากเหตุผล ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เราแนะนำให้คุณหยุดการลงทุน จนกระทั่งคุณสามารถลงทุนด้วยจำนวนเงินที่คุณสามารถจะเสียได้โดยไม่ก่อให้ เกิดความเดือดร้อนทางการเงิน คุณอาจจะเริ่มต้นด้วยจำนวนก้อนที่ไม่ใหญ่จนเกินไป เช่น 50,000 บาท และลงทุนในหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า 10 บาท

2. ความต้องการความแน่นอน
เรา ทุกคนต้องมั่นใจว่าการลงทุนจะคุ้มค่า ดังนั้นเราจึงควรมองหาสัญญาณที่จะยืนยันจุดที่ควรเข้าลงทุน สัญญาณที่กล่าวถึงนี้มีหลายรูปแบบ เช่น การเปิดช่องยูบีซี หรือ อ่านหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับตลาดทุน เพื่อทราบถึงข่าวสารว่าหลักทรัพย์ใดอยู่ในช่วงที่น่าลงทุน หรือหลักทรัพย์ใดที่ควรรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อแน่ใจว่าราคาจะพุ่งสูง ขึ้น  นักลงทุนบางคนอาจรับฟังข่าวสารจากเพื่อน ครอบครัว หรือเจ้าหน้าที่การตลาด (โบรกเกอร์) บางคนอาจรอจังหวะที่ดัชนีชี้นำทางเทคนิคทั้งหลายแสดงสัญญาณที่ดีจึงเข้าซื้อ สิ่งเหล่านี้สามารถเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง แต่ข้อผิดพลาดที่สำคัญและควรระวังมาก ก็คือ การใช้เวลามากเกินไปจนคุณปล่อยให้ราคาสูงขึ้นโดยที่คุณยังไม่ได้ซื้อ สิ่งที่ตามมาก็คือ ความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเมื่อราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนที่จะเข้าซื้อหุ้นนั้นมีน้อยลง ทำให้แรงซื้อน้อยลง ส่งผลให้ราคาปรับตัวลงจนกว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาใหม่ ซึ่งก็เปรียบได้กับเกมเก้าอี้ดนตรี คนที่ช้าที่สุดก็จะไม่มีเก้าอี้เหลือให้นั่ง นักลงทุนที่รอแล้วรออีกเพื่อให้มั่นใจมากๆ จริงๆแล้วก็คือคนที่จะซื้อที่จุดสูงสุดก่อนที่ราคาหุ้นจะตกลง แล้วก็จะโทษว่าเป็นเพราะเลือกหุ้นผิดตัว ความจริงคือข้อผิดพลาดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกหุ้น แต่เกี่ยวกับจังหวะของการลงทุน
สิ่งที่ควรจำใส่ใจคือไม่มีความแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ ในการลงทุนครั้งใดๆก็ตาม สิ่งที่จะทำได้ก็คือศึกษาถึงความเสี่ยงประกอบกับความเชื่อมั่น

3. ใช้กำไรก่อนที่จะทำกำไรได้
ไม่ มีอะไรที่น่าตื่นเต้นไปกว่าการลงทุนที่ให้กำไรที่งดงาม แต่สิ่งนี้ก็เป็นปัญหาได้เช่นกัน เพราะมันให้คุณฝันหวานถึงกำไรก้อนใหญ่ คุณอาจจะบอกว่า “ว้าว! เงินลงทุนฉันเพิ่มขึ้น 15% ใน 2 วัน แล้วจะเพิ่มเป็น 50 % ใน 2 สัปดาห์และ อาจจะกลายเป็นเท่าตัวในพริบตา!”  สิ่งต่อไปที่จะเกิดขึ้นคือ คุณอาจคิดถึงรถใหม่คันหรูที่คุณคิดจะซื้อ หรืออาจจะบอกเจ้านายคุณว่าเขาก็ทำแบบเดียวกันได้ ถึงตอนนี้คุณคงนึกภาพออก ปัญหาที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อคุณยึดติดกับความใฝ่ฝันนั้น และไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะถอยออกมาเมื่อตลาดเข้าสู่ภาวะที่ไม่ดี และทำให้กำไรลดลง เพราะคุณถึงแต่ผลกำไรที่จะได้รับโดยไม่ยอมรับสถานการณ์จริง วิธีแก้ไขง่ายๆก็คือ ต้องรู้ว่าจะขายทำกำไรเมื่อไหร่และอย่างไร เมื่อลงทุน  และต้องจำไว้ว่าตลาดจะขึ้นสูงเท่าที่มันจะขึ้นได้  ไม่ใช่ว่าจะ ขึ้นสูงเท่าที่คุณคิดว่ามันจะขึ้นได้

4. การแสดงความคิดเห็น
เรา กำลังจะบอกคุณว่าตลาดไม่สนใจคุณหรอกว่าคุณจะคิดอย่างไร ถึงแม้ว่าคุณจะอ้างอิงถึงบทวิเคราะห์ที่เกิดจากความอุตสาหะ หรืออ้างอิงถึง ผู้เชี่ยวชาญตลาดหุ้นไทย  นั่นไม่สำคัญหรอก

5. คำ 3 คำที่จะฆ่าคุณได้ หวัง-ขอ-อธิษฐาน
ถ้า คุณพบว่าคุณทำ 1 อย่าง หรือมากกว่า ของคำที่กล่าวไว้ เมื่อคุณลงทุน คุณกำลังลำบากแล้วล่ะ! ดังเช่นที่กล่าวมาแล้ว ตลาดไม่สนใจคุณหรอก ดังนั้น ความหวัง คำขอ หรือคำอธิษฐาน ทั้งหลายไม่สามารถเปลี่ยนขาดทุนเป็นกำไร
เมื่อคุณคาดการณ์ผิด วิธีการง่ายๆที่จะแก้ไขสถานกาณ์ คือ ขาย!!

6. ไม่ทำตามแผนที่วางไว้
ปัญหา ใหญ่เกิดขึ้นได้เมื่อนักลงทุนเริ่มไม่ทำตามกลยุทธ์ที่วางไว้  อาจจะเป็นเวลา ซัก 1 อาทิตย์ที่พวกเค้าจะลงทุนตามกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ แต่อีก1 อาทิตย์จะทำสิ่งที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง  การทำเช่นนี้ทำให้เจ็บตัวได้ง่าย เนื่องจากไม่มีใครสามารถบอกได้แน่ชัดว่ากลยุทธ์ใด จะได้ผลหรือไม่ ดังนั้นต้องจำไว้ว่าไม่ควรทำสิ่งที่ผิดไปจากแผนหรือวิธีการเมื่อคุณได้เริ่ม ต้นไปแล้ว  หากคุณพบว่ากลยุทธ์นั้นใช้ได้ผลเมื่อดูจากสถิติ ก็ไม่มีเหตุผลที่คุณจะเปลี่ยนกลยุทธ์  ทางที่จะทำกำไรคือ ซื้อขายซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งถึงจุดที่กลยุทธ์นั้นจะใช้ไม่ได้ผล อีกด้านที่ต้องระวังก็คือ นักลงทุนมักจะขาดความมั่นคงและมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแผนการลงทุนได้มากหลังจาก ขาดทุน 2-3 ครั้ง  ดังนั้น ในช่วงเวลาเช่นนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ

7. ไม่รู้ว่าจะถอนตัวจากการลงทุนที่ขาดทุนได้อย่างไร
มี หลายครั้งที่นักลงทุนไม่มีเกณฑ์ที่แน่นอนในการนำตัวเองออกจากการลงทุนที่ไม่ คุ้มค่า  พวกเขามักจะคาดหวัง และคิดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองในการที่จะไม่ถอนตัวและยอมขาดทุน ดังเช่นที่เราบอกซ้ำแล้วซ่ำเล่า ตลาดไม่สนใจว่าคุณจะคิดอะไร  มันเคลื่อนไปตามทางของมัน และเมื่อตลาดไม่เป็นไปตามที่คุณคิด นั่นคือคุณคิดผิด วิธีง่ายที่สุดที่จะทำให้สถานะการลงทุนไม่แย่ลงกว่าเดิม ก็คือต้องคิดก่อนที่จะลงทุนว่า เมื่อไรจะออกจากตลาด โดยอาจกำหนดเป็นจำนวนเงิน หรือ กำหนดจุดเป้าหมาย เช่น จุดที่เท่ากับจุดต่ำสุดในช่วงเวลา 15 นาทีก่อน ต้องมั่นใจว่าคุณจะไม่ปล่อยให้ราคาตกลงจนถึงจุดหยุดขาดทุนโดยที่ไม่สามารถทำ อะไรได้ ซึ่งอาจเนื่องมาจากความกลัวและความไม่เชื่อว่าคุณคิดผิด นั่นจะทำให้คุณเกิดปัญหาด้านการเงิน เว้นแต่ว่าคุณจะสามารถหยุดขาดทุนได้โดยเร็ว

8. มีความมั่นใจ
คน ที่เข้าลงทุนในตลาดนั่นมีหลายคนที่เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงใน ธุรกิจด้านอื่นๆ เหตุนี้เองทำให้พวกเขามีความมั่นใจสูงและคิดว่าพวกเขาไม่มีทางที่จะล้ม เหลว  ความมั่นใจเช่นนี้กลายเป็นข้อเสียสำหรับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าลงทุนผิดพลาดและควรต้องหยุดการลงทุนที่ขาดทุน และเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน นั่นไม่เกี่ยวข้องกับตลาด รวมถึงปริญญา ประกาศนียบัตร ความสามารถในการจูงใจ หรือ ความรอบรู้เชิงธุรกิจ ไม่สามารถเปลี่ยนแนวโน้มตลาด เวลาที่คุณคาดการณ์ผิด

9. หลงใหลในหุ้นหรือการลงทุน
ห้ามหลงใหลในหุ้นเด็ดขาด เพราะนั่นจะให้บทเรียนที่สาหัสแก่คุณ

ศึกษาข้อมูลได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/9-21/?/