รู้จักศัพท์ ที่ใช้ใน ฟอร์เร็กซ์
หลังจากได้เรียนทักษะ
ใหม่ ๆ ก็ควรต้องเรียนศัพท์ ที่ใช้ในวงการฟอร์เร็กซ์ด้วยม รู้จัก ส่วนเล็ก ๆ
น้อย ๆ ก่อนที่จะ เริ่มเทรด บางคำนี้ อาจจะรู้อยู่แล้ว
ไม่้เป็นการเสียหลาย ในการทบทวนสิ่งที่รู้มา
ค่าเงินหลัก ค่าเงินรอง
ค่าเงินหลัก ที่มีการเทรดมากที่สุด (USD, EUR, JPY, GBP, CHF, CAD, NZD, AUD) เรียกว่า major currencies
ค่า
เงินอื่น ๆ เรียกว่า minor currencies ไม่ต้องสนใจ minor currencies มาก
ส่วนใหญ่จะเฉพาะคนที่เล่นมานาน แล้วเท่านั้น ในที่นี้ส่วนใหญ่ จะพูดถึง Fab
Five (USD, EUR, JPY, GBP, CHF) ค่าเงินเหล่านี้ มีสภาพคล่องสูง
และน่าดึงดูดให้เทรดมากที่สุด
Base Currency
base
currency คือ ค่าเงินตัวแรก หรือตัวหน้าของคู่เงินแต่ละคู่
แสดงมูลค่าเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ second currency ตัวอย่างเช่น ถ้า
USD/CHF เรท เท่ากับ 1.6350 หมายความว่า 1 ดอลล่าร์ มีมูลค่าเท่ากับ 1.6350
สวิสฟรังค์ ในตลาดฟอร์เร็กซ์ดอลล่าร์ส่วนใหญ่จะถูกใช้เป็น ค่าเงินพื้นฐาน
(base currency) ในการคำนวณ คือ เราใช้เงิน 1 USD
เทียบกับค่าเงินอื่นในคู่อื่น ๆ นั้น แต่ยกเว้นค่าเงินเหล่านี้ เงินปอนด์
เงินยูโร เงินดอลล่าร์ออส เตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะใช้ค่าเงินตัวเองเป็น
ค่าเงินพื้นฐานในการคำนวณ
Quote Currency
quote
currency หรือค่าเงินอ้างอิง เป็นค่าเงินตัวที่สองของคู่เงิน
ที่มีในตลาดฟอร์เร็กซ์ ซึ่งบางครั้งอาจจะ เรียกว่า pip currency
และกำไรที่เรายังไม่รับรู้ (คือยังไม่ได้ปิด position)
ก็จะถูกอธิบายมาเป็นค่าเงินนี้
Pip
pip
คือหน่วย ที่เล็กที่สุดของราคาในแต่ละค่าเงิน
แทบทุกค่าเงินจะมีทศนิยมอยู่ข้างหลังตัวเลขอยู่เสมอ ตัวอย่าง EUR/USD
อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 1.2538. ในที่นี้ 1 pip
เป็นการเปลี่ยนแปลงในสี่จุดทศนิยม นั่นก็คือ 0.0001 ดังนั้น
ถ้าค่าเงินอ้างอิงในคู่เงินใด ๆ คือ USD 1 จะเท่ากับ 1/100 ของ 1 cent.
USD/JPY มีข้อยกเว้น เพราะว่า 1 pip = $0.01.
Bid Price
Bid
เป็นราคาตลาด ที่ใช้ในการซื้อค่าเงินในตลาดฟอร์เร็กซ์ ณ ราคานี้
เทรดเดอร์ใช้ในการ sell base currency.
จะแสดงอยู่ทางด้านซ้ายของราคาค่าเงิน ตัวอย่าง ในคู่ GBP/USD 1.8812/15,
bid Price คือ 1.8812. หมายถึง เรา sell 1 ปอนด์ แล้วเราจะได้เงิน 1.8812
ดอลล่าร์
Ask Price
Ask
เป็นราคาที่ใช้ในการขายค่าเงินใด ๆ ในตลาดฟอร์เร็กซ์ ที่ราคานี้ เทรดเดอร์
จะ buy base currency และ อยู่ด้านขวา ของราคาค่าเงิน ตัวอย่าง EUR/USD
1.2812/15 ask price คือ 1.2815 หมายถึง เราสามารถ buy 1 ยูโร โดยใช้เงิน
1.2815 ดอลล่าร์ และราคานี้เรียกว่า offer price.
Bid/Ask Spread
Spread
เป็นความแตกต่างระหว่างราคา bid กับ ask "big figure quote"
เป็นคำพูดที่โบรคเกอร์ใช้ในการอธิบาย ค่าเงิน ที่มีทศนิยมน้อย
โบรคเกอร์จะไม่พูดตัวเลขค่าเงินหลักข้างหน้า ตัวอย่างเช่น USD/JPY
มีอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 118.30/118.34 แต่ว่าพวกเขาจะเรียกสั้น ๆ ว่า
30/34
ที่มาของอัตราแลกเปลี่ยน
อัตราเปลี่ยนในตลาดฟอร์เร็กซ์ อธิบายได้ง่าย ๆ ดังนี้ Base currency / Quote currency , Bid / Ask
Transaction Cost
ค่า
bid/ask หรือ spread นั้นก็คือ transaction cost
เป็นค่าใช้จ่ายในการเทรดต่อครั้งนั่นเอง หนึ่งรอบ จึง หมายถึง การซื้อ
(หรือขาย) และการปิดบัญชีที่เราซื้อ(หรือขาย) ในขนาดของออร์เดอร์ที่เท่ากัน
และค่าเงิน เดียวกัน ตัวอย่างเช่น ในกรณีของ EUR/USD
อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1.2812/15, transaction cost เท่ากับ 3 จุดนั่นเอง
สูตรในการคำนวณ Transaction Cost คือ Transaction cost = Ask Price – Bid
Price
Cross Currency
cross currency
คือคู่เงินใด ๆ ที่ไม่มีค่าเงินดอลล่าร์อยู่ในคู่เงินนั้น ๆ
ซึ่งคู่เหล่านี้จะเอาแน่เอานอนไม่ได้ (ผันผวน)
เพราะต้องใช้คู่เงินที่มีดอลล่าร์สองคู่มาเทียบข้ามคู่กัน ตัวอย่าง ในการ
buy EUR/GBP หมายความว่า เรากำลัง buy คู่ EUR/USD และกำลัง sell คู่
GBP/USD อยู่ การเล่นคู่ที่เป็น Cross currency จะทำให้มีค่า transaction
cost สูงขึ้นด้วย
Margin
เมื่อเปิดบัญชีแบบ
มาร์จิ้นใหม่กับฟอร์เร็กซ์โบรคเกอร์ เราต้องฝากเงินไว้กับโบรคเกอร์ด้วย
ซึ่งก็จะมีขั้นต่ำ แล้วแต่ว่า โบรคเกอร์จะให้ฝากเท่าไหร่
บางโบรคเกอร์อาจจะให้ฝากแค่ 100 เหรียญ และบางโบรคเกอร์อาจจะให้ฝากถึง
100,000 เหรียญ (บางโบรคเกอร์ มีเงินจริงเล็กน้อย ให้เล่นในบัญชี
ซึ่งจะถูกหักกลับเมื่อจะมีการโอนออกครั้งแรก) ในแต่ละครั้ง ที่คุณเทรด
จะคิดเเป็นเปอร์เซ็นต์ของของเงินทั้งหมดของบัญชีมาร์จิ้น จะเรียกว่า
initial margin requirement ซึ่งขึ้นอยู่กับค่าเงินและราคา
รวมทั้งขนาดของลอทของคู่เงินนั้น ๆ ที่เราเทรด ซึ่งขนาดของลอทคือ ขนาดของ
base currency. ตัวอย่าง หากเราเปิดบัญชี mini ซึ่งสามารถใช้ Leverage
ได้ที่ 200:1 หรือ 0.5 % ของมาร์จิ้น บัญชีแบบ Mini สามารถเทรด mini lot
ได้ ถ้าให้ 1 mini lot เท่ากับ 10,000 เหรียญ เราจะต้องใช้ มาจิ้นเท่ากับ
50 เหรียญ ($10,000 x 0.5% = $50).
Leverage
Leverage
คือ อัตราส่วนของทุนที่ใช้เป็นต้นทุนในการส่งออร์เดอร์
ซึ่งจะต้องใช้มาร์จิ้น Leverage เป็นสิ่งที่สามารถ
ใช้เงินจำนวนหนึ่งในการถือครอง Position ที่ใหญ่กว่าจำนวนเงินทุนของเรา
Leverage จะแตกต่างกันไป ตามแต่ละ โบรคเกอร์ ซึ่งอาจจะเริ่มตั้งแต่ 2:1
ไปจนถึง 400:1
Margin + Leverage = ความสามารถในการพิฆาตบัญชีของคุณในพริบตา
การ
เทรดค่าเงินที่ใช้มาร์จิ้นนี้ เราสามารถเพิ่มพลังในการซื้อได้
คือถ้าเรามีเงินอยู่ 5,000 เหรียญ ในบัญชีมาร์จิ้น และใช้อัตรา leverage
ที่ 1:100 ก็จะสามารถซื้อค่าเงินได้มูลค่าถึง 500,000 เหรียญ
เพราะเราแค่ใช้มาร์จิ้นแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าที่จะซื้อได้
หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า เรามีกำลังซื้อถึง 500,000 เหรียญ
ด้วยกำลังซื้อที่สูงนี้ สามารถให้ผลตอบแทนต่อส่วนทุนมีสูงขึ้น
แต่ก็ต้องระวังไว้เช่นกัน เพราะการใช้มาร์จิ้น ทำให้มี โอกาส ได้กำไรสูง
และขาดทุนสูงเท่า ๆ กัน
Margin Call
เทรด
เดอร์ส่วนใหญ่จะกลัวกับคำว่า margin call
เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อโบรคเกอร์ บอกว่า ตอนนี้ มาร์จิ้นของคุณ
น้อยกว่าเกณฑ์ที่ต้องใช้ในการถือครอง position เพราะ ค่าเงินนั้น
เคลื่อนไหวในทางตรงข้ามกับ Position ที่ถืออยู่
ขณะที่กำลังเทรดโดยใช้มาร์จิ้นนั้น เราอาจจะมีกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้
แต่ว่ามันสำคัญที่ต้องเข้าใจความเสี่ยงด้วย ต้องเข้าใจ
เกี่ยวกับบัญชีมาร์จิ้นอย่างละเอียด และต้องอ่านข้อตกลง
ตอนเปิดบัญชีระหว่างเรากับโบรคเกอร์ อย่างถี่ ถ้วน ให้ถามโบรคเกอร์
ถ้าไม่เข้าใจข้อตกลงข้อไหน Position จะต้องถูกปิด
แต่ราคามันอาจจะวิ่งไปต่ำกว่า มาร์จิ้น ที่มีในบัญชี
เมื่อราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ดังนั้น คุณอาจจะไม่ได้รับการเตือน
margin call เพราะ ออร์เดอร์ของคุณจะโดนปิดไปซะก่อน(เรื่องที่ไม่คาดฝัน)
Margin calls สามารถเลี่ยงได้โดยการดูหน้าจอเทรด ให้บ่อยขึ้น หรือ
โดยการใช้ stop-loss order เพื่อจำกัดความเสี่ยง
หมายเหตุผู้แปล :
margin
call ตามความรู้ของผู้แปลคือ
การที่บัญชีถึงจุดต่ำกว่ามาร์จิ้นที่ต้องใช้ในการถือครอง position ปกติ
จะใช้ใน ตลาด future ซึ่งถ้ายอดขาดทุนต่ำกว่า
ทางโบรคเกอร์จะเรียกให้ฝากมาร์จิ้นเพิ่ม ไม่เช่นนั้น โบรคเกอร์ ก็จะปิด
position ของเราเพื่อมิให้เกิดการขาดทุนกับโบรคเกอร์
เพราะตลาดฟิวเจอร์มีการใช้ Leverage เหมือนกับ ตลาดค่าเงิน แต่อาจจะ
ต่ำกว่ามาก
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/forex-634/?/
Showing posts with label PIP. Show all posts
Showing posts with label PIP. Show all posts
lot คือ อะไร?
Posted by
goodintequila
on Tuesday, July 21, 2015
ฟอร์เร็กซ์ จะเทรดเป็น lot ขนาดมาตรฐานของ 1 ลอท คือ 100,000 ยูนิท
ซึ่งก็มีบัญชีแบบ มินิลอท เหมือนกัน ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 10,000 ยูนิท
และอย่างที่บอกว่า ค่าเงินนั้นคิดเป็น pip
เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของค่าเงินนั้น ๆ
ในการที่จะทำให้เราได้ประโยชน์จากจุดเล็ก ๆ จุดนี้ คือเราต้องเทรดจำนวนมาก
จึงจะเห็น กำไร-ขาดทุน ชัดเจน
เช่น เราใช้ 100,000 ยูนิท (เท่ากับ 1 สแตนดาร์ดลอท) ลองยกมาคำนวณ เพื่อให้เห็นว่ามันส่งผลยังไง
USD/JPY ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 119.80
(.01/119.80)x100,000 = 8.34 เหรียญต่อจุด
USD/CHF ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ1.4555
(.0001/1.4555)x100,000 = 6.87 เหรียญ ต่อจุด
ถ้าในกรณีที่เงินดอลล่าร์อยู่ข้างหลัง การคำนวณก็จะแตกต่างกันเล็กน้อย
EUR/USD ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 1.1930
(.0001/1.1930)x100,000 = 8.38x1.1930 = 9.99734 ถ้าปัดเศษได้ก็จะเท่ากับ 10 เหรียญต่อจุด
GBP/USD ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 1.8040 (.0001 / 1.8040) x 100,000 = 5.54 x 1.8040 = 9.99416 ถ้าปัดเศษก็จะได้เท่ากับ 10 ต่อจุด.
โบ รคเกอร์ของคุณ อาจจะมีวิธีการคิดมูลค่าของ pip ที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีการไหน พวกเขา สามารถ บอกได้ว่า ค่าเงินที่คุณกำลังเทรดมูลค่าต่อหนึ่งจุดนั้น เป็นเท่าไหร่ในช่วงที่คุณกำลังเทรด ซึ่งถ้าตลาด มีการเคลื่อนไหว มูลค่าต่อจุดจะขึ้นอยู่กับ ค่าเงินที่คุณกำลังเทรดอยู่
แล้วเราจะคำนวณกำไรขาดทุนได้อย่างไร
ตอนนี้ คุณรู้ว่าจะคำนวณมูลค่าต่อจุดอย่างไร ลองมาดูต่อว่า เราจะคำนวณกำไร-ขาดทุนได้อย่างไร
เช่น เราซื้อดอลล่าร์สหรัฐ และขายสวิสฯฟรังค์ (usd/chf)
สมมุติว่า อัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้อยู่ที่ 1.4525/1.4530 (bid/Offer) เพราะว่าคุณกำลังซื้อเงินดอลล่าร์คุณจะได้ราคาที่ 1.4530
ถ้า ซื้อที่ 1 สแตนดาร์ด ลอท (100,000 ยูนิท) ที่ราคา 1.4530. ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ราคาเคลื่อนไหวขึ้นไปที่ 1.4550 และคุณตัดสินใจที่จะปิดออร์เดอร์
อัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้จะเท่ากับ 1.4550/1.4555 หลังจากที่ปิดออร์เดอร์ เรากลับไปดูตั้งแต่ที่ ซื้อจนปล่อยขาย เพื่อปิดออร์เดอร์ คุณจะได้ราคาที่ 1.4550 ซึ่งเป็นราคาที่เราปิดได้
ความแตกต่างของ 1.4530 กับ 1.4550 คือ .0020 หรือเท่ากับ 20 pip
เราใช้สูตรก่อนหน้านี้ เราก็จะได้ (.0001/1.4550) x 100,000 1= 6.87 ต่อจุด x ด้วย 20 จุด ซึ่งจะได้กำไรทั้งหมด 137.40 เหรียญ
จำไว้ว่า เมื่อคุณเข้าหรือออก จากการเทรด คุณจะต้องจ่ายค่า spread เหล่านั้นด้วย ซึ่งก็คือส่วนต่างระหว่าง Bid/Offer ดังกล่าว
เมื่อ Buy ค่าเงินค่าเงินหนึ่ง คุณจะต้องเสนอ(offer)ราคา และเมื่อ Sell คุณก็ต้องตั้ง(Bid)ราคา
** ดังนั้นเมื่อ Buy ค่าเงิน คุณจะต้องจ่าย spread เมื่อเข้าเทรด แต่ไม่ต้องจ่ายเมื่อปิดออร์เดอร์
** และเมื่อ Sell ค่าเงิน คุณไม่ต้องจ่าย spread ตอนเข้าเทรด แต่คุณจะต้องจ่ายเมื่อคุณปิดออร์เดอร์
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/lot-630/?/
เช่น เราใช้ 100,000 ยูนิท (เท่ากับ 1 สแตนดาร์ดลอท) ลองยกมาคำนวณ เพื่อให้เห็นว่ามันส่งผลยังไง
USD/JPY ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 119.80
(.01/119.80)x100,000 = 8.34 เหรียญต่อจุด
USD/CHF ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ1.4555
(.0001/1.4555)x100,000 = 6.87 เหรียญ ต่อจุด
ถ้าในกรณีที่เงินดอลล่าร์อยู่ข้างหลัง การคำนวณก็จะแตกต่างกันเล็กน้อย
EUR/USD ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 1.1930
(.0001/1.1930)x100,000 = 8.38x1.1930 = 9.99734 ถ้าปัดเศษได้ก็จะเท่ากับ 10 เหรียญต่อจุด
GBP/USD ที่อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 1.8040 (.0001 / 1.8040) x 100,000 = 5.54 x 1.8040 = 9.99416 ถ้าปัดเศษก็จะได้เท่ากับ 10 ต่อจุด.
โบ รคเกอร์ของคุณ อาจจะมีวิธีการคิดมูลค่าของ pip ที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีการไหน พวกเขา สามารถ บอกได้ว่า ค่าเงินที่คุณกำลังเทรดมูลค่าต่อหนึ่งจุดนั้น เป็นเท่าไหร่ในช่วงที่คุณกำลังเทรด ซึ่งถ้าตลาด มีการเคลื่อนไหว มูลค่าต่อจุดจะขึ้นอยู่กับ ค่าเงินที่คุณกำลังเทรดอยู่
แล้วเราจะคำนวณกำไรขาดทุนได้อย่างไร
ตอนนี้ คุณรู้ว่าจะคำนวณมูลค่าต่อจุดอย่างไร ลองมาดูต่อว่า เราจะคำนวณกำไร-ขาดทุนได้อย่างไร
เช่น เราซื้อดอลล่าร์สหรัฐ และขายสวิสฯฟรังค์ (usd/chf)
สมมุติว่า อัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้อยู่ที่ 1.4525/1.4530 (bid/Offer) เพราะว่าคุณกำลังซื้อเงินดอลล่าร์คุณจะได้ราคาที่ 1.4530
ถ้า ซื้อที่ 1 สแตนดาร์ด ลอท (100,000 ยูนิท) ที่ราคา 1.4530. ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ราคาเคลื่อนไหวขึ้นไปที่ 1.4550 และคุณตัดสินใจที่จะปิดออร์เดอร์
อัตราแลกเปลี่ยนตอนนี้จะเท่ากับ 1.4550/1.4555 หลังจากที่ปิดออร์เดอร์ เรากลับไปดูตั้งแต่ที่ ซื้อจนปล่อยขาย เพื่อปิดออร์เดอร์ คุณจะได้ราคาที่ 1.4550 ซึ่งเป็นราคาที่เราปิดได้
ความแตกต่างของ 1.4530 กับ 1.4550 คือ .0020 หรือเท่ากับ 20 pip
เราใช้สูตรก่อนหน้านี้ เราก็จะได้ (.0001/1.4550) x 100,000 1= 6.87 ต่อจุด x ด้วย 20 จุด ซึ่งจะได้กำไรทั้งหมด 137.40 เหรียญ
จำไว้ว่า เมื่อคุณเข้าหรือออก จากการเทรด คุณจะต้องจ่ายค่า spread เหล่านั้นด้วย ซึ่งก็คือส่วนต่างระหว่าง Bid/Offer ดังกล่าว
เมื่อ Buy ค่าเงินค่าเงินหนึ่ง คุณจะต้องเสนอ(offer)ราคา และเมื่อ Sell คุณก็ต้องตั้ง(Bid)ราคา
** ดังนั้นเมื่อ Buy ค่าเงิน คุณจะต้องจ่าย spread เมื่อเข้าเทรด แต่ไม่ต้องจ่ายเมื่อปิดออร์เดอร์
** และเมื่อ Sell ค่าเงิน คุณไม่ต้องจ่าย spread ตอนเข้าเทรด แต่คุณจะต้องจ่ายเมื่อคุณปิดออร์เดอร์
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/lot-630/?/
pip คือ อะไร?
Posted by
goodintequila
on Monday, July 20, 2015
การเพิ่มขึ้น หรือลดลง ของค่าเงิน เรียกว่า pip
ถ้า EUR/USD เคลื่อนไหวจากราคา 1.2250 ไปที่ราคา 1.2251 เรียกว่า 1 pip ซึ่ง 1 Pip คือ ตัวเลขทศนิยมตัว สุดท้ายของค่าเงิน จากตัวทศนิยมสี่ตัว (ซึ่งบางครั้งก็ก็อาจจะมีถึงห้าจุด ซึ่งบ่งบอกถึงจำนวน pip เหมือนกัน) ซึ่งเราสามารถใช้ Pip ในการประมาณผลกำไรขาดทุนได้ แต่ละค่าเงิน มีมูลค่าที่แตกต่างกัน เราจำเป็นต้องคำนวณ มูลค่าของเงิน ต่อความเคลื่อนไหว ต่อ pip ก่อน ในค่าเงิน ที่ที่ค่าเงินดอลล่าร์อยู่ข้างหน้า จะถูกคิดดังนี้
สมมุติเป็น คู่เงิน USD/JPY มีอัตราแลกเปลี่ยนอยูที่ 119.80
(สังเกตุว่าค่าเงินดังกล่าว จะมีแค่สองจุดทศนิยม ซึ่งค่าเงินส่วนใหญ่จะมีสี่)
ในกรณีของ USD/JPY เคลื่อนไหว 1 จุดจะเท่ากับ .01 ดังนั้น
USD/JPY: 119.80
.01 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value
.01/119.80 = 0.0000834
ซึ่งออกจะยาวไปหน่อย แต่เดี๋ยวเราจะเริ่มคำนวณ ขนาดของ lot กัน
USD/CHF: 1.5250
.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value
.0001 / 1.5250 = 0.0000655
USD/CAD: 1.4890
.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value
.0001 / 1.4890 = 0.00006715
ในกรณีที่ค่าเงินดอลล่าร์อยู่ข้างหลัง การหาค่า จะมีวิธีการเพิ่มขึ้นอีกหน่อย ดังนี้
EUR/USD: 1.2200
.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value
ดังนั้น
.0001 / 1.2200 = EUR 0.00008196
แต่ว่าเราต้องคิดกลับไปเป็นค่าเงินดอลล่าร์อีกทีซึ่งก็คือ EUR x อัตราแลกเปลี่ยน
ดังนั้น
0.00008196 x 1.2200 = 0.00009999
เมื่อเราปัดเศษ ก็จะได้ 0.0001
GBP/USD: 1.7975
.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยน = pip value
ดังนั้น
.0001 / 1.7975 = GBP 0.0000556
แต่เราต้องกลับไปคิดเป็นค่าเงินดอลล่าร์อีกทีหนึ่งซื่งเท่ากับ GBP x อัตราแลกเปลี่ยน
ดังนั้น
0.0000556 x 1.7975 = 0.0000998
ถ้าเราปัศเศษทศนิยมก็จะได้ 0.0001
บาง ทีตอนนี้คุณกำลังอาจจะคิดอยู่ก็ได้ว่า ตกลงแล้วเราต้องคิดทั้งหมดทุกคู่ตลอดเลยรึเปล่า คำตอบคือ ไม่ เกือบทุกโบรคเกอร์จะมีรายละเอียดนี้ให้คุณอยู่แล้ว แต่มันก็ดีที่คุณจะรู้ว่ค่าเหล่านี้ามาจากไหน จะบอกว่าเรื่องนี้ มีประโยชน์ยังไง ในบทต่อ ๆ ไป
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/pip/?/
ถ้า EUR/USD เคลื่อนไหวจากราคา 1.2250 ไปที่ราคา 1.2251 เรียกว่า 1 pip ซึ่ง 1 Pip คือ ตัวเลขทศนิยมตัว สุดท้ายของค่าเงิน จากตัวทศนิยมสี่ตัว (ซึ่งบางครั้งก็ก็อาจจะมีถึงห้าจุด ซึ่งบ่งบอกถึงจำนวน pip เหมือนกัน) ซึ่งเราสามารถใช้ Pip ในการประมาณผลกำไรขาดทุนได้ แต่ละค่าเงิน มีมูลค่าที่แตกต่างกัน เราจำเป็นต้องคำนวณ มูลค่าของเงิน ต่อความเคลื่อนไหว ต่อ pip ก่อน ในค่าเงิน ที่ที่ค่าเงินดอลล่าร์อยู่ข้างหน้า จะถูกคิดดังนี้
สมมุติเป็น คู่เงิน USD/JPY มีอัตราแลกเปลี่ยนอยูที่ 119.80
(สังเกตุว่าค่าเงินดังกล่าว จะมีแค่สองจุดทศนิยม ซึ่งค่าเงินส่วนใหญ่จะมีสี่)
ในกรณีของ USD/JPY เคลื่อนไหว 1 จุดจะเท่ากับ .01 ดังนั้น
USD/JPY: 119.80
.01 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value
.01/119.80 = 0.0000834
ซึ่งออกจะยาวไปหน่อย แต่เดี๋ยวเราจะเริ่มคำนวณ ขนาดของ lot กัน
USD/CHF: 1.5250
.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value
.0001 / 1.5250 = 0.0000655
USD/CAD: 1.4890
.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value
.0001 / 1.4890 = 0.00006715
ในกรณีที่ค่าเงินดอลล่าร์อยู่ข้างหลัง การหาค่า จะมีวิธีการเพิ่มขึ้นอีกหน่อย ดังนี้
EUR/USD: 1.2200
.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน = pip value
ดังนั้น
.0001 / 1.2200 = EUR 0.00008196
แต่ว่าเราต้องคิดกลับไปเป็นค่าเงินดอลล่าร์อีกทีซึ่งก็คือ EUR x อัตราแลกเปลี่ยน
ดังนั้น
0.00008196 x 1.2200 = 0.00009999
เมื่อเราปัดเศษ ก็จะได้ 0.0001
GBP/USD: 1.7975
.0001 แบ่งตามอัตราแลกเปลี่ยน = pip value
ดังนั้น
.0001 / 1.7975 = GBP 0.0000556
แต่เราต้องกลับไปคิดเป็นค่าเงินดอลล่าร์อีกทีหนึ่งซื่งเท่ากับ GBP x อัตราแลกเปลี่ยน
ดังนั้น
0.0000556 x 1.7975 = 0.0000998
ถ้าเราปัศเศษทศนิยมก็จะได้ 0.0001
บาง ทีตอนนี้คุณกำลังอาจจะคิดอยู่ก็ได้ว่า ตกลงแล้วเราต้องคิดทั้งหมดทุกคู่ตลอดเลยรึเปล่า คำตอบคือ ไม่ เกือบทุกโบรคเกอร์จะมีรายละเอียดนี้ให้คุณอยู่แล้ว แต่มันก็ดีที่คุณจะรู้ว่ค่าเหล่านี้ามาจากไหน จะบอกว่าเรื่องนี้ มีประโยชน์ยังไง ในบทต่อ ๆ ไป
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/pip/?/
คำนวณกำไร-ขาดทุน
Posted by
goodintequila
on Monday, July 6, 2015
คำนวณกำไร-ขาดทุน
การคำนวณกำไร-ขาดทุน ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการบริหารพอร์ทลงทุนและการหาเป้าหมายกำไร-ขาดทุน
ดังนั้น ในบทความนี้ผมจึงอยากจะมาพูดถึงเรื่องการคำนวณ-กำไรขาดทุนหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ทุกท่านไม่มากก็น้อย
คำนวณกำไร-ขาดทุน
การคำนวณกำไร-ขาดทุน ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการบริหารพอร์ทลงทุนและการหาเป้าหมายกำไร-ขาดทุน
ดังนั้น ในบทความนี้ผมจึงอยากจะมาพูดถึงเรื่องการคำนวณ-กำไรขาดทุนหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ทุกท่านไม่มากก็น้อย
คำนวณกำไร-ขาดทุน
สูตรคำนวณ มูลค่า 1lot=จำนวนทศนิยม/ราคาปัจจุบัน x contract size
สูตรคำนวณกำไร-ขาดทุน=pip x มูลค่าlot
ตัวอย่าง
USD/JPY = 119.80 คำนวณว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ 10 pip จะเป็นเงินเท่าไหร่
คำนวณมูลค่า 1lot 0.01/119.80 x 100,000 = 8.34 แสดงว่า 1pip = 8.34$ ต่อคำสั่ง 1lot
คำนวณกำไร-ขาดทุน 8.34 x 10pip= 83.4 ราคาเคลื่อนที่ 10pipจะได้กำไร-ขาดทุนที่ 83.4$
คำนวณคู่เงินที่ ***/USD ไม่ได้อยู่ข้างหน้า
EUR/USD = 1.5531 คำนวณว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ 10 pip จะเป็นเงินเท่าไหร่
คำนวณมูลค่า 1lot ( 0.0001/1.5531 x 100,000) x 1.5531 = 10
แสดงว่า 1pip = 10$ ต่อคำสั่ง 1lot
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/t518/?/
การคำนวณกำไร-ขาดทุน ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการบริหารพอร์ทลงทุนและการหาเป้าหมายกำไร-ขาดทุน
ดังนั้น ในบทความนี้ผมจึงอยากจะมาพูดถึงเรื่องการคำนวณ-กำไรขาดทุนหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ทุกท่านไม่มากก็น้อย
คำนวณกำไร-ขาดทุน
การคำนวณกำไร-ขาดทุน ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการบริหารพอร์ทลงทุนและการหาเป้าหมายกำไร-ขาดทุน
ดังนั้น ในบทความนี้ผมจึงอยากจะมาพูดถึงเรื่องการคำนวณ-กำไรขาดทุนหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ทุกท่านไม่มากก็น้อย
คำนวณกำไร-ขาดทุน
สูตรคำนวณ มูลค่า 1lot=จำนวนทศนิยม/ราคาปัจจุบัน x contract size
สูตรคำนวณกำไร-ขาดทุน=pip x มูลค่าlot

ตัวอย่าง
USD/JPY = 119.80 คำนวณว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ 10 pip จะเป็นเงินเท่าไหร่
คำนวณมูลค่า 1lot 0.01/119.80 x 100,000 = 8.34 แสดงว่า 1pip = 8.34$ ต่อคำสั่ง 1lot
คำนวณกำไร-ขาดทุน 8.34 x 10pip= 83.4 ราคาเคลื่อนที่ 10pipจะได้กำไร-ขาดทุนที่ 83.4$
คำนวณคู่เงินที่ ***/USD ไม่ได้อยู่ข้างหน้า
EUR/USD = 1.5531 คำนวณว่าถ้าราคาเคลื่อนที่ 10 pip จะเป็นเงินเท่าไหร่
คำนวณมูลค่า 1lot ( 0.0001/1.5531 x 100,000) x 1.5531 = 10
แสดงว่า 1pip = 10$ ต่อคำสั่ง 1lot
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/t518/?/
Rodrigo Villela เทรดเดอร์ชาวเม็กซิกัน
Posted by
goodintequila
on Wednesday, April 15, 2015
Labels:
forex,
Gap,
PIP,
point,
การซื้อขาย,
กำไร,
ค่าเงิน,
อัตราแลกเปลี่ยน
/
Rodrigo Villela นักธุรกิจชาวเม็กซิโก
เขาเริ่มต้นเข้าสู่วงการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนด้วยเหตุผลทางธุรกิจ
เนื่องจากบริษัทของเขาเป็นธุรกิจนำเข้าส่งออกระหว่างประเทศ
ทำให้มีรายรับและต้นทุนเป็นสกุลเงินต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง
ทำให้เขาจำเป็นต้องใช้การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าเพื่อกำหนดอัตราแลก
เปลี่ยนที่เหมาะสมไว้ก่อน
เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน (Hedging)
ซึ่งจะมีผลต่อกำไรขาดทุนของบริษัทเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลัง จาก Rodrigo ศึกษาตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ไม่นาน เขาได้เริ่มเห็นโอกาสทำเงินในตลาดแห่งนี้ในฐานะตลาดแห่งการเก็งกำไรมากขึ้น และเนื่องจากเขาเคยเก็งกำไรในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์มาก่อนทำให้เขาสามารถมอง เห็นอะไรบางอย่างในตลาดแห่งนี้ที่ตลาดหุ้นไม่มี ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจย้ายเข้าสู่การเก็งกำไรในตลาดค่าเงินอย่างจริงจัง เขาให้เหตุผลไว้หลายประการถึงความน่าสนใจในตลาดค่าเงิน
ข้อแรก ตลาด forex เป็นตลาดที่ใหญ่และมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก เขากล่าวว่าเขาไม่ชอบการ day trade ในตลาดหุ้นเพราะมันมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก บางครั้งคุณก็จำเป็นต้องเทรดในหุ้นที่คุณไม่ต้องการ และเมื่อคุณซื้อหุ้น บางครั้งคุณก็จำเป็นต้องสนใจเรื่องของธุรกิจของหุ้นนั้นบ้าง เพราะการซื้อหุ้นคือคุณกำลังซื้อส่วนหนึ่งของธุรกิจ บางช่วงเวลามันแยกออกจากกันไม่ขาดจริงๆ โดยเฉพาะเวลาที่ราคามันไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ดังนั้นการเก็งกำไรในตลาดหุ้นจึงเป็นให้เขาปั่นป่วนในบางครั้ง
ข้อสอง ในตลาด forex เราสามารถควบคุมความเสี่ยงได้มากกว่าตลาดหุ้น หากคุณมีการบริหารจัดการเงินทุนที่ดี ค่าเงินแม้จะผันผวนค่อนข้างมากเมื่อเราพิจารณาเป็น PIP หรือ point แต่มันไม่เคยเคลื่อนไหวเกิน 10% ในแต่ละวัน
ข้อสาม ในตลาด forex คุณสามารถ leverage เงินทุนได้เท่าที่คุณต้องการ นั่นมีความหมายมากทีเดียวสำหรับผู้ที่มีเงินทุนไม่สูงนัก ซึ่งสำหรับรายย่อยโบรกเกอร์บางแห่งให้ leverage ได้เป็น 1000 เท่า!! ว้าว แต่นั่นก็ทำให้มือใหม่หลายคนโลภได่เช่น จุดนี้เป็นเรื่องที่ต้องระวัง สำหรับมือใหม่ที่แยกไม่ออกระหว่างการเก็งกำไรกับการพนัน
และข้อสุดท้าย ตลาด forex สามารถซื้อขายได้ 24 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องทนเห็นราคาเปิดกระโดดหรือตกฮวบ (Gap) ในช่วงตลาดเปิดของเช้าวันใหม่อย่างในตลาดหุ้น ยกเว้นในวันจันทร์หลังหยุดสุดสัปดาห์ เพราะบางครั้ง อาจมีข่าวแรงๆ หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดปิด ซึ่งเราไม่สามารถปรับพอร์ตได้ นั่นเป็นสิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย
สไตล์ในการเทรดของ Rodrigo
สำหรับ หลักการในการเก็งกำไร Rodrigo เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาใช้ทั้งเทคนิคคอลและปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินใจเข้า order และเขาไม่คิดว่าการเลือกดูกราฟหรือปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียวนั้นจะ สามารถทำกำไรได้ในระยะยาว ซึ่งเขาจะใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการมอนิเตอร์โอกาสในการเก็งกำไร และเลือกทิศทางตลาดที่จะเข้าเทรด
"ผมจะให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยว กับข้อมูลและข่าวทุกอย่างที่บ่งชี้ถึง สภาพคล่อง ไม่ว่าจะเป็น เงินในระบบเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยของประเทศนั้นๆ และอัตราดอกเบี้ยเปรียบเทียบประเทศอื่น รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตร (yield curves) ฯลฯ หลังจากนั้น ผมจึงใช้เทคนิคคอลเพื่อหาจังหวะในการเข้าเทรด ผมจะไม่ใช้แค่กราฟเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อขาย เพราะว่าคุณไม่สามารถจะคาดการณ์อนาคตได้ด้วย indicator เท่านั้น ซึ่งหลังจากผมเลือกข้างโดยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแล้ว ผมจะใช้เทคนิคคอลเพื่อหาราคาที่ดีที่สุดในการเข้า order และดูกราฟเพื่อจับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อใช้ในการออกและ take profit เมื่อผมเห็นว่าราคาได้วิ่งมาไกลพอแล้ว ตรงจุดนี้กราฟสามารถแสดงให้คุณเห็นได้เป็นอย่างดี "
"และผมต้องขอบอก พวกคุณว่าคุณไม่สามารถนำระบบเทรดของคุณไปประยุกต์ใช้ในทุกๆตลาด ยกตัวอย่างเช่น ตลาดหุ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ forex มันถือว่าเคลื่อนไหวช้ากว่ามาก คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นในมุมมองอื่นๆ เพราะหุ้นมันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของธุรกิจ ดังนั้น คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์เศรษฐกิจทั้งตลาด จากนั้นจึงวิเคราะห์ตัวบริษัท สำหรับผมแล้ว การลงทุนในหุ้นนั้นมันง่ายกว่าเพราะอย่างน้อยคุณก็สามารถประเมินความถูกแพง ของหุ้นได้ แต่สำหรับค่าเงินนั้นมันไม่ง่าย !!!!"
นัก ลงทุนหลายๆคน พยายามมองการประเมินมูลค่าของค่าเงิน ให้เหมือนกับการประเมินมูลค่าหุ้น คือคิดว่าค่าเงินหนึ่งๆ เป็นตัวแทนของประเทศนั้นๆ แล้วพยายามจะประเมินความแข็งแกร่งของประเทศ แต่เชื่อผมเหอะ กับค่าเงินคุณมันไม่ได้อยู่ในวิถีที่คุณจะประเมินความสามารถในการทำกำไรของ ประเทศนั้นๆได้อย่างถูกต้องหรอก มันยากที่เราจะแกะภาพหามูลค่าของประเทศ ดังนั้น การลงทุนในตลาด forex มันจึงง่ายกว่าหากคุณใช้เทคนิคคอลในการหาจังหวะเข้า order ซึ่งสำหรับผม เขาจะสนใจปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อสภาพคล่องของค่าเงินเท่านั้น เขาจะไม่พยายามมองให้ประเทศ อยู่ในรูปของบริษัทที่ต้องแสวงหากำไร เพราะมันไม่ใช่!!!
คู่เงินที่เลือกเก็งกำไร
Rodrigo เผยว่าเขาจะเทรดเฉพาะค่าเงินเปโซเม็กซิกันเท่านั้น เพราะเหตุผลเรื่องธุรกิจส่งออกของเขา และเขาเข้าใจพฤติกรรมของมันเป็นอย่างดี แต่เขาก็ยังคงติดตามค่าเงินอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย
เทรดทุกวันหรือไม่
Rodrigo บอกว่าเขาติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดค่าเงินมาตังแต่ 1998 และหลงรักมัน เขาจึงมักเข้าซื้อขายแทบทุกวันสำหรับพอร์ตส่วนตัว แต่พอร์ตของบริษัทส่งออกของเขาจะซื้อขายเฉพาะเมื่อเห็นโอกาสหรือเมื่อบริษัท จำเป็นต้องประกันความเสี่ยงจริงๆ เท่านั้น
"สิ่งที่ผมบอกคุณได้ มันคือความหลงไหล ตั้งแต่ผมเริ่มเทรดมา ผมก็มักจะพยายามเปิด position ในตลาดหนึ่งตลาดใดอยู่เสมอ"
คุณคิดว่าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีวินัยไหม?
Rodrigo บอกว่าเขาคิดว่าเขาเป็นเทรดเดอร์ที่มีวินัยสูงมาก ไม่ใช่แค่ในเรื่องของการเทรด แต่ในทุกมุมของชีวิต เขาคิดว่าเทรดเดอร์ที่ต้องการจะประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีวินัย เขาเชื่อว่าไม่มีใครสามารถได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตได้ด้วยตัวเอง หากปราศจากชีวิตที่ดำรงอยู่ด้วยวินัย ในเรื่องของการเทรดก็เช่นกัน การเทรดของเขาจึงดำเนินไปด้วยวินัยอย่างเคร่งครัด จนมันกลายเป็นเหมือนเครื่องจักร กลายเป็นกิจวัตร เขาจะไม่เทรดโดยใช้อามรมณ์ หรือความตื่นเต้น แต่เขาจะเทรดก็ต่อเมื่อทุกอย่างมันถูกต้องเป็นไปตามระบบเท่านั้น
ข้อแนะนำสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
คุณ ต้องจินตนาการว่าคุณกำลังขับรถแข่งกับนักขับคนอื่นๆ อีกนับพัน ส่วนนึงในนั้นเป็นสุดยอดนักขับของโลก พวกเขามีพรสวรรค์และมีเครื่องยนต์สุดไฮเทค โดยการแข่งขันเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนท่ามกลางหมอกที่ลงจัด นี่คือสิ่งที่ดีมากสำหรับคุณที่จะจินตนาการได้ว่า FX คืออะไร เทรดเดอร์ทุกคนอยู่ในสนามแข่ง และต้องการจะเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าคุณขับรถเร็วเกินไป คุณก็จะไม่ได้อยู่ในสนามแห่งนี้นานนักหรอก
ถ้า คุณหวังจะเทรดเป็นอาชีพหลัก จำไว้ว่าคุณจำเป็นต้องอุทิศส่วนนึงที่สำคัญในชีวิตคุณเพื่อที่จะทำมัน นี่มันคือธุรกิจในระยะยาว พยายามทำให้มันง่ายซะและอย่าพยายามเสี่ยงมากเกินไป ถ้าคุณยังเป็นนักศึกษา ตั้งใจเรียนซะ โดยเฉพาะวิชาเลข สถิติ เศรษฐศาสตร์มหภาค ทฤษฎีเกี่ยวกับการเงิน และทุกๆอย่างที่จำเป็นที่จะทำให้คุณเข้าใจกลไกของตลาด อ่านและวิเคราะห์ให้มากๆ ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรด และที่สำคัญ อย่าเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
สุดยอดเทรดเดอร์จะมี ความเข้าใจในเรื่องความเสี่ยงอย่างลึกซึ่ง เขาสามารถคำนวณและรักษาระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมในทุกๆการเทรด ดังนั้น คุณต้องเริ่มเทรดด้วยจำนวนเงินน้อยๆก่อน แล้วค่อยๆทบต้นมันขึ้นไป นี่คือหนทางที่จะทำคุณได้มีอิสรภาพทางการเงิน
บทเรียนสำคัญที่ได้จากการเทรด forex ?
Rodrigo บอกว่ามันดีที่จะเป็นฝ่ายถูก แต่แม้คุณจะเล่นถูกทางคุณก็อาจขาดทุนได้ คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมองต่อตลาดทันทีที่ sentiment ตลาดเปลี่ยน ในที่สุดแล้ว มันไม่สำคัญว่าคุณจะถูกหรือผิด แต่มันอยู่ที่ว่าคุณกำไรหรือขาดทุนมากกว่า
มัน คือความอ่อนน้อมถ่อมตัวให้กับตลาด "ผมเรียนรู้ว่าเราไม่สามารถมั่นใจมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่เรารู้ ผมต้องต่อสู้กับตัวเองทุกๆวันเพื่อที่จะเป็นคนถ่อมตัวที่มีความอดทน พยายามมองหาเบาะแสที่จะบอกผมเกี่ยวกับทิศทางตลาด พยายามเก็บความโลภและความปรารถนาอย่างอื่นให้อยู่ในความควบคุมของผม ต่อสู้กับตัวเองเพื่อที่จะตระหนักและใส่ใจถึงความเสี่ยง เพื่อที่จะตระหนักถึงความโชคดีในชีวิตและในตลาด เพื่อที่จะเชื่อมั่นถึงความจริงที่อยู่เบื้องหลังกฎเกณฑ์ที่แน่นอน และเหนือสิ่งอื่นใดคือต่อสู้เพื่อที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่ามันจะส่งผล ต่อผมยังไงก็ตาม "
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/rodrigo-villela/?/

หลัง จาก Rodrigo ศึกษาตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ไม่นาน เขาได้เริ่มเห็นโอกาสทำเงินในตลาดแห่งนี้ในฐานะตลาดแห่งการเก็งกำไรมากขึ้น และเนื่องจากเขาเคยเก็งกำไรในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์มาก่อนทำให้เขาสามารถมอง เห็นอะไรบางอย่างในตลาดแห่งนี้ที่ตลาดหุ้นไม่มี ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจย้ายเข้าสู่การเก็งกำไรในตลาดค่าเงินอย่างจริงจัง เขาให้เหตุผลไว้หลายประการถึงความน่าสนใจในตลาดค่าเงิน
ข้อแรก ตลาด forex เป็นตลาดที่ใหญ่และมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลก เขากล่าวว่าเขาไม่ชอบการ day trade ในตลาดหุ้นเพราะมันมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก บางครั้งคุณก็จำเป็นต้องเทรดในหุ้นที่คุณไม่ต้องการ และเมื่อคุณซื้อหุ้น บางครั้งคุณก็จำเป็นต้องสนใจเรื่องของธุรกิจของหุ้นนั้นบ้าง เพราะการซื้อหุ้นคือคุณกำลังซื้อส่วนหนึ่งของธุรกิจ บางช่วงเวลามันแยกออกจากกันไม่ขาดจริงๆ โดยเฉพาะเวลาที่ราคามันไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ดังนั้นการเก็งกำไรในตลาดหุ้นจึงเป็นให้เขาปั่นป่วนในบางครั้ง
ข้อสอง ในตลาด forex เราสามารถควบคุมความเสี่ยงได้มากกว่าตลาดหุ้น หากคุณมีการบริหารจัดการเงินทุนที่ดี ค่าเงินแม้จะผันผวนค่อนข้างมากเมื่อเราพิจารณาเป็น PIP หรือ point แต่มันไม่เคยเคลื่อนไหวเกิน 10% ในแต่ละวัน
ข้อสาม ในตลาด forex คุณสามารถ leverage เงินทุนได้เท่าที่คุณต้องการ นั่นมีความหมายมากทีเดียวสำหรับผู้ที่มีเงินทุนไม่สูงนัก ซึ่งสำหรับรายย่อยโบรกเกอร์บางแห่งให้ leverage ได้เป็น 1000 เท่า!! ว้าว แต่นั่นก็ทำให้มือใหม่หลายคนโลภได่เช่น จุดนี้เป็นเรื่องที่ต้องระวัง สำหรับมือใหม่ที่แยกไม่ออกระหว่างการเก็งกำไรกับการพนัน
และข้อสุดท้าย ตลาด forex สามารถซื้อขายได้ 24 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องทนเห็นราคาเปิดกระโดดหรือตกฮวบ (Gap) ในช่วงตลาดเปิดของเช้าวันใหม่อย่างในตลาดหุ้น ยกเว้นในวันจันทร์หลังหยุดสุดสัปดาห์ เพราะบางครั้ง อาจมีข่าวแรงๆ หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดปิด ซึ่งเราไม่สามารถปรับพอร์ตได้ นั่นเป็นสิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย
สไตล์ในการเทรดของ Rodrigo
สำหรับ หลักการในการเก็งกำไร Rodrigo เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาใช้ทั้งเทคนิคคอลและปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินใจเข้า order และเขาไม่คิดว่าการเลือกดูกราฟหรือปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียวนั้นจะ สามารถทำกำไรได้ในระยะยาว ซึ่งเขาจะใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการมอนิเตอร์โอกาสในการเก็งกำไร และเลือกทิศทางตลาดที่จะเข้าเทรด
"ผมจะให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยว กับข้อมูลและข่าวทุกอย่างที่บ่งชี้ถึง สภาพคล่อง ไม่ว่าจะเป็น เงินในระบบเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยของประเทศนั้นๆ และอัตราดอกเบี้ยเปรียบเทียบประเทศอื่น รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตร (yield curves) ฯลฯ หลังจากนั้น ผมจึงใช้เทคนิคคอลเพื่อหาจังหวะในการเข้าเทรด ผมจะไม่ใช้แค่กราฟเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อขาย เพราะว่าคุณไม่สามารถจะคาดการณ์อนาคตได้ด้วย indicator เท่านั้น ซึ่งหลังจากผมเลือกข้างโดยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแล้ว ผมจะใช้เทคนิคคอลเพื่อหาราคาที่ดีที่สุดในการเข้า order และดูกราฟเพื่อจับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อใช้ในการออกและ take profit เมื่อผมเห็นว่าราคาได้วิ่งมาไกลพอแล้ว ตรงจุดนี้กราฟสามารถแสดงให้คุณเห็นได้เป็นอย่างดี "
"และผมต้องขอบอก พวกคุณว่าคุณไม่สามารถนำระบบเทรดของคุณไปประยุกต์ใช้ในทุกๆตลาด ยกตัวอย่างเช่น ตลาดหุ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ forex มันถือว่าเคลื่อนไหวช้ากว่ามาก คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นในมุมมองอื่นๆ เพราะหุ้นมันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของธุรกิจ ดังนั้น คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์เศรษฐกิจทั้งตลาด จากนั้นจึงวิเคราะห์ตัวบริษัท สำหรับผมแล้ว การลงทุนในหุ้นนั้นมันง่ายกว่าเพราะอย่างน้อยคุณก็สามารถประเมินความถูกแพง ของหุ้นได้ แต่สำหรับค่าเงินนั้นมันไม่ง่าย !!!!"
นัก ลงทุนหลายๆคน พยายามมองการประเมินมูลค่าของค่าเงิน ให้เหมือนกับการประเมินมูลค่าหุ้น คือคิดว่าค่าเงินหนึ่งๆ เป็นตัวแทนของประเทศนั้นๆ แล้วพยายามจะประเมินความแข็งแกร่งของประเทศ แต่เชื่อผมเหอะ กับค่าเงินคุณมันไม่ได้อยู่ในวิถีที่คุณจะประเมินความสามารถในการทำกำไรของ ประเทศนั้นๆได้อย่างถูกต้องหรอก มันยากที่เราจะแกะภาพหามูลค่าของประเทศ ดังนั้น การลงทุนในตลาด forex มันจึงง่ายกว่าหากคุณใช้เทคนิคคอลในการหาจังหวะเข้า order ซึ่งสำหรับผม เขาจะสนใจปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อสภาพคล่องของค่าเงินเท่านั้น เขาจะไม่พยายามมองให้ประเทศ อยู่ในรูปของบริษัทที่ต้องแสวงหากำไร เพราะมันไม่ใช่!!!
คู่เงินที่เลือกเก็งกำไร
Rodrigo เผยว่าเขาจะเทรดเฉพาะค่าเงินเปโซเม็กซิกันเท่านั้น เพราะเหตุผลเรื่องธุรกิจส่งออกของเขา และเขาเข้าใจพฤติกรรมของมันเป็นอย่างดี แต่เขาก็ยังคงติดตามค่าเงินอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย
เทรดทุกวันหรือไม่
Rodrigo บอกว่าเขาติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดค่าเงินมาตังแต่ 1998 และหลงรักมัน เขาจึงมักเข้าซื้อขายแทบทุกวันสำหรับพอร์ตส่วนตัว แต่พอร์ตของบริษัทส่งออกของเขาจะซื้อขายเฉพาะเมื่อเห็นโอกาสหรือเมื่อบริษัท จำเป็นต้องประกันความเสี่ยงจริงๆ เท่านั้น
"สิ่งที่ผมบอกคุณได้ มันคือความหลงไหล ตั้งแต่ผมเริ่มเทรดมา ผมก็มักจะพยายามเปิด position ในตลาดหนึ่งตลาดใดอยู่เสมอ"
คุณคิดว่าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีวินัยไหม?
Rodrigo บอกว่าเขาคิดว่าเขาเป็นเทรดเดอร์ที่มีวินัยสูงมาก ไม่ใช่แค่ในเรื่องของการเทรด แต่ในทุกมุมของชีวิต เขาคิดว่าเทรดเดอร์ที่ต้องการจะประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีวินัย เขาเชื่อว่าไม่มีใครสามารถได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตได้ด้วยตัวเอง หากปราศจากชีวิตที่ดำรงอยู่ด้วยวินัย ในเรื่องของการเทรดก็เช่นกัน การเทรดของเขาจึงดำเนินไปด้วยวินัยอย่างเคร่งครัด จนมันกลายเป็นเหมือนเครื่องจักร กลายเป็นกิจวัตร เขาจะไม่เทรดโดยใช้อามรมณ์ หรือความตื่นเต้น แต่เขาจะเทรดก็ต่อเมื่อทุกอย่างมันถูกต้องเป็นไปตามระบบเท่านั้น
ข้อแนะนำสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
คุณ ต้องจินตนาการว่าคุณกำลังขับรถแข่งกับนักขับคนอื่นๆ อีกนับพัน ส่วนนึงในนั้นเป็นสุดยอดนักขับของโลก พวกเขามีพรสวรรค์และมีเครื่องยนต์สุดไฮเทค โดยการแข่งขันเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนท่ามกลางหมอกที่ลงจัด นี่คือสิ่งที่ดีมากสำหรับคุณที่จะจินตนาการได้ว่า FX คืออะไร เทรดเดอร์ทุกคนอยู่ในสนามแข่ง และต้องการจะเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าคุณขับรถเร็วเกินไป คุณก็จะไม่ได้อยู่ในสนามแห่งนี้นานนักหรอก
ถ้า คุณหวังจะเทรดเป็นอาชีพหลัก จำไว้ว่าคุณจำเป็นต้องอุทิศส่วนนึงที่สำคัญในชีวิตคุณเพื่อที่จะทำมัน นี่มันคือธุรกิจในระยะยาว พยายามทำให้มันง่ายซะและอย่าพยายามเสี่ยงมากเกินไป ถ้าคุณยังเป็นนักศึกษา ตั้งใจเรียนซะ โดยเฉพาะวิชาเลข สถิติ เศรษฐศาสตร์มหภาค ทฤษฎีเกี่ยวกับการเงิน และทุกๆอย่างที่จำเป็นที่จะทำให้คุณเข้าใจกลไกของตลาด อ่านและวิเคราะห์ให้มากๆ ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรด และที่สำคัญ อย่าเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
สุดยอดเทรดเดอร์จะมี ความเข้าใจในเรื่องความเสี่ยงอย่างลึกซึ่ง เขาสามารถคำนวณและรักษาระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมในทุกๆการเทรด ดังนั้น คุณต้องเริ่มเทรดด้วยจำนวนเงินน้อยๆก่อน แล้วค่อยๆทบต้นมันขึ้นไป นี่คือหนทางที่จะทำคุณได้มีอิสรภาพทางการเงิน
บทเรียนสำคัญที่ได้จากการเทรด forex ?
Rodrigo บอกว่ามันดีที่จะเป็นฝ่ายถูก แต่แม้คุณจะเล่นถูกทางคุณก็อาจขาดทุนได้ คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนมุมมองต่อตลาดทันทีที่ sentiment ตลาดเปลี่ยน ในที่สุดแล้ว มันไม่สำคัญว่าคุณจะถูกหรือผิด แต่มันอยู่ที่ว่าคุณกำไรหรือขาดทุนมากกว่า
มัน คือความอ่อนน้อมถ่อมตัวให้กับตลาด "ผมเรียนรู้ว่าเราไม่สามารถมั่นใจมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่เรารู้ ผมต้องต่อสู้กับตัวเองทุกๆวันเพื่อที่จะเป็นคนถ่อมตัวที่มีความอดทน พยายามมองหาเบาะแสที่จะบอกผมเกี่ยวกับทิศทางตลาด พยายามเก็บความโลภและความปรารถนาอย่างอื่นให้อยู่ในความควบคุมของผม ต่อสู้กับตัวเองเพื่อที่จะตระหนักและใส่ใจถึงความเสี่ยง เพื่อที่จะตระหนักถึงความโชคดีในชีวิตและในตลาด เพื่อที่จะเชื่อมั่นถึงความจริงที่อยู่เบื้องหลังกฎเกณฑ์ที่แน่นอน และเหนือสิ่งอื่นใดคือต่อสู้เพื่อที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่ามันจะส่งผล ต่อผมยังไงก็ตาม "
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/rodrigo-villela/?/