ในปี 2558 นี้ เริ่มเทรดตลาด forex วันที่ 13 มกราคม เริ่มต้นด้วยทุน 150
กว่า$ ประมาณ 4-5 พันบาท จนถึงตอนนี้เวลาที่โพสมี 458 เหรียญ$ ประมาณ
13,000 บาท ทำกำไรได้เกิน 100 เปอร์เซ็นแล้วครับ
ส่วนปีก่อนๆ
สามารถปั้นพอร์ตจาก 100 $ เป็น 2-3 พันเหรียญ ประมาณหกหมื่นถึง แสนบาท
(ถ้าทุนเริ่มต้นเยอะกว่านี้ก็ทำได้มากกนี้
ถ้าไม่ต้องถอนเงินออกมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเรียนต่อ ป โท
ค่าใช้จ่าย นั้้นโน่นนี่ จิปาถะ ก็จะทำได้มากกว่านี้)
ถามว่าเคยล้าง
พอร์ตไหม ก็เคย ช่วงเล่นปีแรก เพราะยังไม่เข้าใจตลาด ไม่มีระบบเทรด
ไม่มีความรู้ด้านเทคนิค และ พฤติกรรมแท่งเทียน (price action) มากพอ
เล่นตามอารมความรู้สึกจึงล้างพอร์ต
หากอยากดูผลงานหลังไม ได้ครับ ผมจะปริ๊นสกรีน กำไรจากหน้าจอ metatrader ณ ตอนนี้เวลานี้ให้ดูครับ
โดย
ส่วนตัวไม่ได้เก่ง เทพอะไรแค่ในปัจจุบันนี้พอจะทำกำไรจากตลาด forex
ในปัจจุบันได้บ้าง ลองผิดลองถูกมาก็เยอะ
และคิดว่ายังต้องเรียนรู้เพิ่มอีกครับ
สำหรับ
คนที่อ่านแล้วสนใจเรื่องทำกำไรกับตลาด forex นี้ ผมรับสอนให้ครับ
สอนทุกอย่างที่ผมรู้น่ะคับ ไม่ฟรีแล้วก็ไม่แพงครับ 5000 บาทครับ
ถ้าให้สอนระยะยาวค่อยคุยรายละเอียดครับ
พูดคุยคิดเห็นรายละเอียดกันได้ครับหรืออยากปรึกษาอยากคุยเล่น
หรืออะไรก็ตามได้หมด ยกเว้นยืมเงิน โทร 086-376-9249 โต้ง ครับ
จากประสบการณ์หลายปีในตลาด การจะเทรด forex ให้ได้กำไรแบบต่อเนื่อง จะต้องประกอบด้วย 3 ส่วนคือ
1.
ทุนสำหรับเทรด ผมว่านะมี 100 เหรียญเป็นทุนสำหรับเริ่มต้นเทรด
ก็เริ่มเทรดได้แล้วครับ ถ้าจำกัดความเสี่ยงไม่ต่ำสูงเกินไป เทรด lot
ที่เหมาะสมก็ปั้นพอร์ตให้โตได้
2. ความรู้ในเรื่องต่างๆ ได้แก่
-
ความรู้ด้านเทคนิค indicator ต่างๆ
ไม่จำเป็นต้องทุกตัวแค่บางตัวที่จำเป็นและเป็นพื้นฐาน ต้องแบ่งกลุ่ม
indicator ได้ ว่าตัวไหนควรใช้เวลาไหน เช่น ตัวนี้ควรใช้เมื่อตลาดไซเวย์
ตัวนี้ควรใช้เมื่อตลาดเป็นแนวโน้ม
ตัวนี้ควรใช้เพื่อดูการแกว่งของราคาสำหรับการประกอบการตัดสินใจเข้า ออเดอร์
เป็นต้น นำอินดิเคเตอร์หลายๆตัวมารวมกันสร้างเป็นระบบของตัวเอง
ซึ่งผมก็มีระบบการเทรดของผม ซึ่งใช้หลายๆตัวมารวมกัน
-
ความรู้ด้านพฤติกรรมราคา (price action)
เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการเทรด คนที่วิเคราะห์พฤติกรรมราคาจาก
กราฟแท่งเทียนได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ indicator
ก็ทำกำไรได้และได้เยอะกว่าด้วย
ดังนั้นคุณจำเป็นต้องมีความรู้เรื่องพฤติกรรมราคาจากกราฟแท่งเทียน
ต้องลากเส้นแนวรับแนวต้าน ดูแนวโน้มได้ ดูว่าแนวโน้มขึ้นหรือลง
ตรงไหนพักตัว ตรงไหนไปต่อ ตรงไหนเป็นไซด์เวย์ เข้าใจเรื่อง pattern ของราคา
รูปแบบจุดกลับตัว จุดต่ำสุด สูงสุดของราคา กลับตัว เปลี่ยนเทรนที่จุดไหน
ต้องดูแท่งเทียนแล้ววิเคราะห์ให้ได้ว่าจุดกลับตัวอยู่ตรงไหน
ซึ่งรูปแบบการกลับตัวมีหลากหลายรูปแบบสามารถศึกษาหาความรู้เองได้
โดยส่วนตัวของผมก่อนเข้าออเดอร์จะพิจารณาพฤติกรรมแท่งเทียนเสมอก่อนเข้า
นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาเรื่องข่าวด้วย ผมแนะนำว่าช่วงมีข่าวแรงๆ
ไม่ต้องเล่น หรือเล่นหลังข่าวออก สักพักนึง วิเคราะห์ดูว่าจะตามหรือจะสวน
หรือถ้าไม่มั่นใจ ไม่ต้องเล่น
-
วิธีการแก้ไขปัญหาเมื่อเข้าออเดอร์แล้วผิดทาง คือ
เมื่อผิดทางคุณจะแก้อย่างไรให้สุดท้ายแล้วไม่ติดลบ อาจได้กำไรด้วย
การแก้ไขเมื่อผิดทางมีหลากหลายวิธี สามารถไปหาความรู้เองได้
แต่ถ้าแก้แล้วต้องแก้ให้ถูกทาง ยิ่งแก้ยิ่งผิดทางก็ยิ่งลบ ถามว่า stop loss
ควรมีไหมแน่นอนควรมีแต่ต้องตั้งในจุดที่เหมาะสม
โดยจุดนี้ต้องวิเคราะห์แท่งเทียนเอา แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ติดลบ กล่าวคือ
ปิดมาแล้วต้องกำไร คุณต้องหาวิธีแก้ไขเมื่อผิดทาง
-
ความรู้เรื่องการบริหารจัดการเงินในพอร์ต (Money management) กล่าวคือ
จะเล่น lot เท่าไร เล่นแบบไหน เปิดทีละออเดอร์ หรือ
เปิดหลายออเดอร์พร้อมกัน หรือ ทยอยเปิดออเดอร์ไปเรื่อยๆ
ซึ่งแน่นอนต้องพิจารณาตามสภาพตลาด
ดังนั้นต้องพิจารณาว่าความเสี่ยงที่เหมาะสมคือเท่าไร
ถ้าเราเล่นความเสี่ยงต่ำมากแน่นอน lot เล็ก เวลาได้จะได้น้อยเสียก็เสียน้อย
แล้วอย่างนี้เมื่อไรพอร์ตจะโต ถ้าเล่นความเสี่ยงมาก แน่นอนได้มากเสียมาก
ถ้าผิดทางก็มีโอกาสล้างพอร์ตสูง แล้วแบบไหนเรียกว่าเหมาะสมล่ะครับ
โดยส่วนตัวผมคิดว่า แล้วแต่ความมั่นใจ คือ ถ้าจุดๆนี้เรามั่นใจมากๆ
วิเคราะห์ทุกอย่างอย่างดีแล้วคิดว่าเข้าไปกำไรแน่ๆ
ผมจะเล่นความเสี่ยงมากหน่อย ถ้าทุน 100 us ผมเล่น 0.1 เพราะผมมั่นใจมากๆ
แต่ถ้าเจอจุดที่ไม่ค่อยมั่นใจ คือไม่ร้อยเปอร์เซ็น แต่วิเคราะห์แท่งเทียน
และ ระบบ คอนเฟิร์ม แต่ใจผมยังไม่คิดว่ามันร้อยเปอร์เซ็น เช่น กราฟ day
มันเทรนลง แต่ H4 H1 มันขึ้น ผมเล่น H4 หรือ H1 เพราะ ระบบคอนเฟิร์ม และ
เจอแท่งเทียนกลับตัวบริเวณแนวรับแนวต้านหลัก
ผมจะเปิดออเดอร์ที่ความเสี่ยงต่ำมาก คือ lot เล็ก
ถ้ารูปแบบแท่งเทียนกลับตัวแบบไม่ค่อยชัดเจน ผมจะเปิด lot เล็กมาก
หรือบางทีผมไม่เข้าออเดอร์เลย ถึงแม้ระบบของผมจะคอนเฟิร์ม
-
ต้องมีความรู้เรื่อง จิตวิทยาในการลงทุน จิตวิทยาในการเทรด กล่าวคือ
ต้องอดทน และรอคอย บางครั้งเข้าออเดอร์ไปแล้วติดลบเยอะ
แน่นอนความรู้สึกมันแย่ แต่ถ้าเราวิเคราะห์ดีแล้ว ทั้งแท่งเทียน ทั้ง
indicator ก็ทนติดลบไป ถ้าถึงจุดๆ นึง วิเคราะห์ใหม่แล้วมันผิดทางก็แก้ไข
แค่นี้เอง อย่าเพิ่ง cutt ทิ้ง บางครั้ง มันลบเยอะ ก็เด้งกลับ
ราคามันแค่กลับไป test หรือทดสอบ แล้วมันก็เด้งกลับมาถูกทางเราเหมือนเดิม
ให้เชื่อในระบบ วิธีคิดวิเคราะห์ของเรา ถูกก้ดี ผิดก็แก้ มีแค่นั้น
นอกจากนี้ที่สำคัญเลยคือ แผนการเทรดคุณต้องมีแผนการเทรดในแต่ละวัน เช่น เอา
5% ของทุนทุกวัน ทบต้นทุกเดือน เช่น ทุน 100 เหรียญ
กำไรวันละ 5% สิ้นเดือนได้เท่าตัว ทบต้นไปเรื่อยๆ แค่นี้ระยะยาว เป็นปี พอร์ตคุณก็โตมากๆละครับ
- ต้องมีความรู้เรื่องอื่นๆ เช่น คุณจะเทรดแบบไหน scalper เล่นสั้น 5-15
นาที ถ้าคุณจะเป็นเทรดเดอร์แบบนี้ก็ต้องนั่งเฝ้ากราฟตลอด
หาระบบต่างๆสำหรับเล่นสั้น หรือคุณต้องการเป็น day trade swing trade
คือเทรด ทาร์มเฟรมใหญ่ขึ้น ปล่อยตามเทรน บางทีหลายๆ วันหรือมากกว่านั้น
ซึ่งถ้าจะเป็นเทรดเดอร์แบบนี้ไม่จำเป็นต้องเฝ้ากราฟตลอด
แต่ต้องวิเคราะห์พฤติกรรมราคาให้ดี ถ้าวิเคราะห์ได้เก่ง ไม่จำเป็นต้องใช้
indicator ก็ได้ แน่นอนไม่ว่าจะเล่นสั้น 5-15 นาที หรือเล่นแบบ day หรือ
swing ย่อมมีทางสู่ความสำเร็จ คนที่สำเร็จก็มีอยู่ ทั้งสั้น ยาว
แล้วคุณล่ะจะเทรดแบบไหน คุณเหมาะกับแบบไหน
นอกจากนี้ยังมีความรู้อื่นๆที่อาจต้องมีเพิ่มเติมในรายละเอียดต่อไป
3
เวลา กลาวคือ คุณทุ่มเทให้เวลากับการเทรดมากน้อยแค่ไหน
นั่นหมายความว่าคุณคิดอย่างไร จะทำมันเป็นอาชีพ
หรือจะทำมันแค่เป็นส่วนเสริมจากรายได้ประจำ
หากคุณจะทำเป็นอาชีพแน่นอนคุณต้องทุ่มเท ต้องมีเวลา ให้กับการเทรด
ต้องมีเวลาสำหรับการหาความรู้ทางเทคนิค และความรู้ด้านพฤติกรรมราคา
เพราะคุณจะทำมันเป็นอาชีพ แต่ถ้าคุณจะทำมันเป็นแค่ส่วนเสริม
กำไรนิดหน่อยคุณพอใจแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มเท เสียเวลากับมันมากมายนัก
แค่รู้พื้นฐานของเทคนิค แท่งเทียนนิดหน่อยก็พอแล้ว
ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับคุณ
เพิ่มเติม ในเรื่องการสมัครโบรกเกอร์
ก้เลือกโบรกดีๆ สักโบรก ก็ใช้ exness กันส่วนมาก ก็ใช้โบรกนี้แหละ
โหลดโปรแกรม meta trader การใช้งาน meta trader แบบพื้นฐาน
มันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำต้องรู้ และมันง่ายมาก
ผมไม่ถือว่ามันสำคัญอะไรมากมาย ผมไม่เน้นเลย
เพราะมันไม่ช่วยให้คุณทำกำไรอะไรได้เลย ผมเน้นแต่เนื้อๆ
วิธีทำกำไรและการจำกัดความเสี่ยง ให้เหมาะสม ได้กำไรอย่างมีความสุข
จะดีที่สุด
ถ้าคุณมีทั้ง 3 ส่วนนี้ ทุน ความรู้ต่างๆ เวลาเหมาะสม คุณกำไรต่อเนื่องแน่นอนครับ
หากอยากดูผลงานหลังไม ได้ครับ ผมจะปริ๊นสกรีน กำไรจากหน้าจอ metatrader ณ ปัจจุบันนี้ให้ดูครับ
สำหรับ
คนที่อ่านแล้วสนใจเรื่องทำกำไรกับตลาด forex นี้ ผมรับสอนให้ครับ
สอนทุกอย่างที่ผมรู้น่ะคับ ไม่ฟรีแล้วก็ไม่แพงครับ 5000 บาทครับ
ถ้าให้สอนระยะยาวค่อยคุยรายละเอียดครับ
พูดคุยคิดเห็นรายละเอียดกันได้ครับหรืออยากปรึกษาอยากคุยเล่น
หรืออะไรก็ตามได้หมด ยกเว้นยืมเงิน โทร 086-376-9249 โต้ง ครับ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/forex-forex/?/
Showing posts with label เทรด. Show all posts
Showing posts with label เทรด. Show all posts
สอนความรู้เรื่องการเทรดforex ให้ได้กำไร forex ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
Posted by
goodintequila
on Saturday, July 25, 2015
Labels:
forex,
Indicator,
Money Management,
Price Action,
Stop Loss,
การวิเคราะห์,
กำไร,
เทรด,
พอร์ต
/
RSI VS Stochastic
Posted by
goodintequila
Labels:
breakout,
Daily,
DayTrader,
overtrade,
RSI,
Stochastic,
swing high,
Time Frame,
กราฟ,
เทรด,
สัญญาณ
/

ที่ Babypips นาย Proximus มาตั้งกระทู้ถามเรื่อง RSI กับ Stochastic เขาบอกว่าเขาได้ทดลองใช้ Stochastic มาระยะหนึ่งแล้วสำหรับเขาแล้วมันได้ผลมาก ๆ เลยผมเทรดได้ตั้ง 7 ใน 10 ครั้งแนะ แต่ผมก็ได้ยินมาว่ามีอินดิเคเตอร์อีกตัวหนึ่งที่คล้าย ๆ กันนั่นคือ RSI แต่ผมก็ยังไม่เคยได้ลองใช้มันสักที นอกจากนี้ผมยังเห็นว่ากรอบ over ของ RSI มันต่างจาก Stochastic แค่ 10 เอง Stochastic ใช้ 80 20 แต่ RSI ใช้ 70 30 ผมไม่แน่ใจว่ามันจะช่วยทำให้ RSI มันวิ่งสมูธขึ้นหรือทำให้สัญญาณกลับตัวมันช้าลงกันแน่ ผมเลยมาตั้งกระทู้นี้เพราะอยากได้ข้อมูลหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับอินดิเค เตอร์ 2 ตัวนี้ว่าอันไหนดีกว่ากันอันไหนแม่นกว่ากันเพราะมันทั้งคู่ใกล้เคียงกันมาก ระหว่างให้สัญญาณที่เร็วแต่มีโฮกาสหลอกบ่อย กับ วิ่งช้าลงสักหน่อยแต่มั่นใจมากขึ้น อันไหนดีกว่ากันครับ

คุณ TheDayTrader เข้ามาตอบว่า ทั้ง Stochastic และ RSI เป็น Indicator ประเภทเดียวกันคือใช้วัดการแกว่งของราคาเหมือนกันถึงแม้ว่ามันจะต่างกัน เพียงนิดเดียวก็ตามแต่มันก็ทำหน้าที่คล้าย ๆ กันอยู่ผมแนะนำให้เลือกใช้เพียงตัวเดียวพอ แต่ถ้าคุณยังไม่แน่ใจก็ลองใช้ทั้งคู่ไปก่อนก็ได้แล้วดูว่าตัวไหนเหมาะกับ วิธีเทรดของคุณมากที่สุด พยายามปรับมันให้เข้ากับสไตล์การเทรดของคุณแต่อย่าลืมว่าการตั้งค่าของอิน ดิเคเตอร์พวกนี้มันจะเปลี่ยนไปตามการเลือก Time Frame ที่เทรดด้วยหากเปลี่ยน Time Frame ที่ดูกราฟก็อาจจะต้องปรับค่ามันใหม่ด้วยเช่นกัน ส่วนตัวแล้วผมชอบใช้ Stochastic ตั้งค่าไว้ที่ 8 3 3 ที่สุดแต่ถ้าคถณอยากได้ Stochastic กับ RSI รวมกันแล้วละก็ผมแนะนำ อินดิเคเตอร์ที่ชื่อ DT Oscillator นะ

คุณ GRIX FX ตอบว่า ส่วนตัวแล้วผมชอบ Stochastic มากกว่านะเพราะมันเห็นภาพเวลาที่อินดิเคเตอร์ขึ้นไปชนเส้นได้ดีกว่า RSI ทำให้ผมสามารถกะ divergence ได้ดีกว่า

คุณ จขกท. หลังจากหายไปสักพักก็เข้ามาตอบว่า ดูเหมือนว่าคนใส่วนใหญ่ในกระทู้จะชอบ Stochastic มากกว่านะแล้วถ้าผมตั้งค่าเป็น 15 3 3 ละ มันจะทำให้ Stochastic สมูธขึ้นไหมและช่วยลดการ false breakout ได้มากขึ้นรึเปล่า

คุณ TheDayTrader เจ้าเก่าก็เข้ามาตอบว่า คำตอบของคำถามข้อนี้ของคุณมันก็ขึ้นอยู่กับวิธีการเทรดที่คุณใช้และ Time Frame ที่คุณเทรด ลองใช้วิธีนี้ดูสิครับ เอา Horizontal Line มาร์คจุด swing high, low ไว้หลังจากนั้นก็ลองปรับค่าของ สโต ของคุณให้มันใกล้เคียงกับจุดสวิงเหล่านั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะ จุดสวิงเหล่านี้มันจะหลายเป็นเหมือน Overbought/Oversold ไปอัตโนมัติเลยเมื่อเส้นใน สโต มันตัดกันตรง Overbought/Oversold มันก็จะหลายเป็นสัญญาณกลับตัวที่น่าเชื่อถือไปโดยอัตโนมัติ

จขกท. ก็กลับมาตอบว่า ผมเห็นด้วยครับแต่ใน Time Frame เล็ก ๆ อาจจะต้องใช้ค่า 8 3 3 เพราะยิ่ง Time Frame เล็กเท่าไหร่ ความมั่วขงอินดิเคเตอร์ก็จะเพิ่มมากขึ้น ดูเหมือนว่าผมคงจะต้องตั้งค่า สโต ใน 1 ชั่วโมงและดูใน 15 นาทีไปด้วยหากเป็นไปตามที่คิด 15 นาทีน่าจะช่วยบอกสัญญาณกลับตัวให้กับ 1 ชั่วโมงได้ดังนั้นมันจึงจำเป้นมากที่จะต้องมองกราฟมากกว่า 1 Time Frame ขึ้นไป

นาย TheDayTrader ตอบว่า ใช่ครับการเทรดของผมก็อาศัยการดู Time Frame หลาย ๆ ตัวดูพร้อมกันเหมือนกันเช่นผมดู daily 4H 1H 15M ทุกการวิเคราะห์จะต้องตรงกันและจะเข้าเทรดใน TF 15 นาที

นาย wizard56 เข้ามาตอบว่า ความเห็นส่วนตัวนะครับผมว่า Stochastic จะวิ่งเร็วกว่า RSI เวลาที่ราคาเริ่มมีการเคลื่อนตัวแต่นั่นก็ทำให้ สโต มีข้อเสียคือมักจะให้สัญญาณหลอกบ่อย ๆ แต่ RSI ถึงจะช้าไปหน่อยแต่จะให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือกว่าดังนั้นผมเลยชอบ stochastic มากกว่าครับ

เป็น เรื่องที่ถกถึยงกันมานานเหมือนกันเรื่องหนึ่งระหว่าง Stochastic กับ RSI ว่าอะไรดีกว่ากัน เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า RSI ดีกว่าแต่พักหลัง ๆ มานี่ผมว่าแล้วแต่สไตล์การเทรดและกลยุทธ์การเทรดของแต่ละคนมากกว่า ใครที่ชอบ scalp ผมก็แนะนำว่า Stochastic จะเป็นคำตอบที่ดีกว่าแต่ใครที่ชอบเทรดเป็นวัน ๆไปหรือเก็บเป็นสวิงไปการใช้ RSI ก็น่าจะเหมาะกว่าสำหรับเทรดเดอร์คนนั้นการเอาอินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator หรือวัดการแกว่งไปปรับค่าในมันสมูธขึ้นเพื่อลดสัญญาณหลอกของมันไม่ได้ช่วย อะไรนอกจากจะทำให้การอ่านค่าที่ปกติก็ช้ากว่าราคาอยู่แล้วมันช้าลงไปอีก และ การเอามันไปปรับให้เร็วขึ้นเพื่อหาสัญญาณเข้าที่ทันกราฟละก็ไม่มีทางเป็นไป ได้ครับเพราะอินดิเคเตอร์คำนวณออกมาจากกราฟดังนั้นกราฟต้องวิ่งก่อนมันถึงจะ คำนวณได้ครับ สรุปคือค่ามาตรฐานที่เค้าให้มาตั้งแต่แรกนั้นดีที่สุดแล้วครับ ส่วนตัวแล้วผมว่า Stochastic จะเหมาะกับ TF 1 นาที – 15 นาที เท่านั้นมันไม่เหมาะที่จะนำไปวิเคราะห์เทรนที่เป็นภาพใหญ่ ๆ วิ่งช้า ๆ อันนั้นเนี่ยถ้าใช้เป็น RSI หรือ MACD ไปเลยจะให้ผลที่ดีกว่าเพราะ Day Trader อย่างเรา ๆ คงจะไม่หาจังหวะเข้าจาก Time Frame ใหญ่ ๆ อย่าง Daily ใช่ไหมครับ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/rsi-vs-stochastic/?/
การตั้ง SL-TP
Posted by
goodintequila
on Friday, July 24, 2015
Labels:
Stop Loss,
Take Profit,
กำไร,
เทรด,
ราคา
/
บทนี้มาดูการตั้ง SL - TP กัน sl คือจุดตัดขาดทุน tp คือ จุดปิดเก็บกำไร ตามภาพครับ
คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่
1. ใส่ตัวเลขราคาที่ต้องการตัดขาดทุน ลงในช่อง Stop Loss
2. ใส่ตัวเลขราคาที่ต้องการปิดทำกำไร ลงในช่อง Take Profit
ระยะห่างส่วนต่าง ก็นับจากราคาที่เข้าเทรดอ่ะครับ ลองทำดูบ่อยๆ จะเข้าใจเองครับ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/sl-tp/?/

คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่
1. ใส่ตัวเลขราคาที่ต้องการตัดขาดทุน ลงในช่อง Stop Loss
2. ใส่ตัวเลขราคาที่ต้องการปิดทำกำไร ลงในช่อง Take Profit
ระยะห่างส่วนต่าง ก็นับจากราคาที่เข้าเทรดอ่ะครับ ลองทำดูบ่อยๆ จะเข้าใจเองครับ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/sl-tp/?/
พวกเราจะเปลี่ยนเงินจาก 100 $ เป็น 10000$ ภายใน 1 ปี ได้มั้ย
Posted by
goodintequila
on Sunday, April 19, 2015
Labels:
lot,
Mini Account,
Money Management,
กำไร,
เทรด,
เป้าหมาย,
พอร์ต,
ลงทุน
/
ผมเคยทำแผนเทรดจากเงิน 5 เหรียญ เป็น 10240 เหรียญ โดยการบริหารเงิน Money Management แบบต่างๆ ดังรูปด้านล่างครับ
จาก รูปด้านบน ทำได้ไม่ยากครับ และก็ไม่ง่าย ผมว่าทุกคนทำได้ครับ ไม่เกินความสามารถของเราหรอก แต่ที่ทำยากก็คือการควบคุมอารมณ์และระงับความโลภนี่แหระครับ คือปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ล้างพอร์ตก่อนถึงเป้าหมาย ความกดดันต่างๆนาๆ เป็นอุปสรรคต่อการพุ่งชนเป้าหมายครับ
ที่ Colume สีฟ้า เป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด เทรดที่ 5-15 % ของทุน โดยเป้าหมายต่อวัน คือ 33-100 จุด
แต่สำหรับผมคิดว่า Colume สีเหลือง ทำง่ายกว่า เก็บเพียง 16-25 จุดต่อวันเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ยากมากนัก
เช่น เราลงทุนก้อนแรก 100 $ ถ้าเป็น Mini Account ของ Exness ก็ควรเทรดที่ 0.02-0.03 lot จุดละ 20-30 เซนต์
แต่ถ้าเป็นบัญชี Micro Cent ของ Forex4you ก็เทรดที่ 2-3 lot จุดละ 20-30 เซนต์ เช่นกัน
แต่ เราลองดูที่ Colume สุดท้ายสิครับ ลงทุน ครึ่งนึงของพอร์ตเลย เทรดทีละ 50 % วันละครั้งเท่านั้น เอาให้ได้ 10 จุด หรือกี่ครั้งก็ได้ แค่ทำให้ได้วันละ 10 จุดเท่านั้น ได้แล้วหยุด 1 ปี รวยแน่นอน เช่น ทุน 100 $ ลง 0.05 lot จุดละ 50 เซนต์
เราควรเพิ่มจำนวน Lot ทุกๆเดือน ถ้ามีกำไรนะครับ แต่ถ้ายังไม่มีกำไร ก็ต้องเทรดจำนวน Lot เท่าเดิมนั้นไปจนกว่าจะมีกำไร แล้วค่อยเพิ่มจำนวน Lot
ดูเหมือนง่ายๆครับ แต่ทำยาก เก็บเพียงวันละ 10 จุด เทรดที่ 50 % ของพอร์ต

จาก รูปด้านบน ทำได้ไม่ยากครับ และก็ไม่ง่าย ผมว่าทุกคนทำได้ครับ ไม่เกินความสามารถของเราหรอก แต่ที่ทำยากก็คือการควบคุมอารมณ์และระงับความโลภนี่แหระครับ คือปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ล้างพอร์ตก่อนถึงเป้าหมาย ความกดดันต่างๆนาๆ เป็นอุปสรรคต่อการพุ่งชนเป้าหมายครับ
ที่ Colume สีฟ้า เป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด เทรดที่ 5-15 % ของทุน โดยเป้าหมายต่อวัน คือ 33-100 จุด
แต่สำหรับผมคิดว่า Colume สีเหลือง ทำง่ายกว่า เก็บเพียง 16-25 จุดต่อวันเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ยากมากนัก
เช่น เราลงทุนก้อนแรก 100 $ ถ้าเป็น Mini Account ของ Exness ก็ควรเทรดที่ 0.02-0.03 lot จุดละ 20-30 เซนต์
แต่ถ้าเป็นบัญชี Micro Cent ของ Forex4you ก็เทรดที่ 2-3 lot จุดละ 20-30 เซนต์ เช่นกัน
แต่ เราลองดูที่ Colume สุดท้ายสิครับ ลงทุน ครึ่งนึงของพอร์ตเลย เทรดทีละ 50 % วันละครั้งเท่านั้น เอาให้ได้ 10 จุด หรือกี่ครั้งก็ได้ แค่ทำให้ได้วันละ 10 จุดเท่านั้น ได้แล้วหยุด 1 ปี รวยแน่นอน เช่น ทุน 100 $ ลง 0.05 lot จุดละ 50 เซนต์
เราควรเพิ่มจำนวน Lot ทุกๆเดือน ถ้ามีกำไรนะครับ แต่ถ้ายังไม่มีกำไร ก็ต้องเทรดจำนวน Lot เท่าเดิมนั้นไปจนกว่าจะมีกำไร แล้วค่อยเพิ่มจำนวน Lot
ดูเหมือนง่ายๆครับ แต่ทำยาก เก็บเพียงวันละ 10 จุด เทรดที่ 50 % ของพอร์ต
Haji Warithu เทรดเดอร์ค่าเงินชาวบรูไน
Posted by
goodintequila
on Thursday, April 9, 2015
Haji Warithu เทรดเดอร์ค่าเงินอิสระชาวบรูไน
เขาตัดสินใจออกจากงานประจำเพื่อเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ
ด้วยเหตุผลที่ไม่ต่างจากเทรดเดอร์อิสระหลายๆคน
ที่ต้องการมีเวลาให้กับครอบครัว
และต้องการใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างที่ใจต้องการมากขึ้น
ก่อน ที่ Haji จะมาเป็นเทรดเดอร์อิสระ เขาทำงานในบริษัทขนส่งก๊าซ LNG (liquified natural gas) แห่งหนึ่งในประเทศบรูไน งานของเขาจะต้องเดินทางอยู่ในทะเลตลอดเป็นเดือนๆ เขาไม่ค่อยมีเวลาให้กับครอบครัวเท่าไหร่นัก จนในกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างที่เขาเดินทางอยู่กลางทะเลจากบรูไนไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อขนส่งก็าซ LNG เหมือนดังเคย เขาเริ่มมีอาการผิดปกติบางอย่าง สุดท้ายเขาพบว่าเขาเป็นมะเร็ง !!!!! และสิ่งนี้ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
Haji ตัดสินใจลาออกจากงาน และใช้เวลาอยู่ที่บ้านเพื่อเทรด forex แทน โดยเขาได้เรียนรู้การเทรด forex มาจาก Rob Booker เทรดเดอร์อิสระ ผู้เขียนหนังสือ The adventure of the currency trader โดยสำหรับเขาแล้ว Rob booker เป็นแรงบันดาลใจให้เขาก้าวเข้ามาสู่อาชีพเทรดเดอร์อิสระเป็นอย่างมาก
ตอน นี้ Haji มีรายได้จากการเทรด forex เพียงอย่างเดียว การเทรดได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและทุกๆอย่างในชีวิตของเขา เขารักงานนี้ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากเมื่อคุณได้ทำงานที่ตัวเองรักและมันให้ผลตอบแทนที่ ดีกับคุณไปพร้อมๆกัน
เทคนิคการเทรดของ Haji
เขา เปิดเผยว่าเขาจะเน้นการเทรดสั้นๆ เข้าในจังหวะที่มั่นใจ และมีการวาง Stop loss ทุกครั้ง โดยในช่วงเริ่มต้นการเทรด เขาพยายามฝึกเทรดในจำนวน lot น้อยๆ แล้วค่อยๆเพิ่ม lot ขึ้นไปเรื่อยๆ ในจุดนี้ เทรดเดอร์มือใหม่ต้องระวัง จำไว้ว่า ในช่วงที่เพิ่งเริ่มทำกำไรได้ คุณต้องรักษาวินัยและระบบเทรดของตัวเองเอาไว้ให้มีความสม่ำเสมอ อย่าพยายาม overtrade ในช่วงเริ่มต้น คุณต้องค่อยๆก้าว จำไว้ว่าความสำเร็จนั้นมีขั้นตอน คุณเข้ามาในตลาดแห่งนี้เพื่อจะทำกำไรจากมัน ไม่ได้จะมาเป็น super star ในวงการ เพราะฉะนั้น คุณไม่ต้องเร่งจังหวะของตัวเองเกินไป เพราะการเร่งจังหวะ และการเพิ่ม lot ในขณะที่จิตใจคุณยังไม่พร้อมกับเงินที่ใหญ่ขึ้น นั่นจะทำให้คุณหมดตัวในตลาดแห่งนี้แม้คุณจะเทรดถูกทางก็ตาม
สำหรับ ระบบการเทรดของเขานั้น Haji เผยว่ามันเป็นอะไรที่เรียบง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน โดยเขาจะใช้ indicator ไม่กี่ตัว ก็คือ Bollinger Band, CCI และ supply demand โดยการเข้า order ที่ปลอดภัยก็คือ คุณจะเข้าซื้อที่แนวรับแนวต้านเท่านั้น เขาให้เหตุผลที่ออกแบบระบบให้เรียบง่ายนั้นเพราะเขาเชื่อว่าจริงๆทุกระบบ สามารถทำกำไรได้ ดังนั้นคุณจะเลือกใช้ที่มันยากๆทำไม เพราะแท้จริงๆแล้ว คุณจะได้กำไรหรือไม่ ตัวระบบเทรดนั้นมีผลค่อนข้างน้อย สิ่งที่สำคัญคือระบบความคิดที่ถูกต้อง วินัย และ money management ต่างหากที่จะตัดสินว่าคุณจะอยู่ในอาชีพนี้ได้นานแค่ไหน
Time Frame ที่ใช้
เนื่อง จากสไตล์การเทรดของเขาเป็นแนว Scalper เน้นเก็บ PIP สั้นๆ ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะใช้ TF 15 นาทีในการเข้า order แต่เขาก็เผยว่าคุณจำเป็นต้องตรวจสอบสัญญาณที่ตรงกันใน TF ที่ใหญ่กว่าอย่าง 1 ชั่วโมง หรือ 1 วัน ด้วยในการเข้าเทรด เพื่อลดโอกาสความผิดพลาด การเทรดตามแนวโน้มเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันคุณจากความเสียหายที่รุนแรง ได้
อย่างไรก็ตาม เขาเปิดเผยว่าทุกวันนี้ สไตล์การเทรดของเขาเปลี่ยนแปลงไปจากในช่วงแรกเล็กน้อย โดยเขาจะให้ความสำคัญกับ TF ที่ใหญ่กว่าเดิม และตั้ง target มากขึ้นพอสมควร โดยการเข้า order เขาชอบที่จะตั้ง pending order ไว้ที่แนวรับแนวต้านที่เขาวิเคราะห์ไว้ และก็ตั้ง Stop loss เผื่อไว้ รวมถึงวางแผนไว้ล่วงหน้าทั้งหมดว่าจะออกที่ตรงไหน
ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่
คุณ ต้องหวังที่จะเก็บแค่วันละ 10 PIP ก็พอ ทำไมต้องเก็บ PIP น้อยๆ ก็เพราะว่าแท้จริงแล้วการที่คุณหวังที่จะเก็บ PIP น้อยๆ อย่าง 10 PIP นั้นมันเป็นอะไรที่ง่ายและมีความเป็นไปได้ในการเทรดของคุณ แต่คุณอาจจะรู้สึกว่า 10 PIP สำหรับคุณมันน้อยเกินไป คุณหวังว่าจะได้วันละ 50 PIP คำถามก็คือ ถ้าวันนี้คุณยังขาดทุนอยู่ ไอ้ 50 PIP ที่คุณหวังมันคงไม่มีความหมายอะไรหรอก คุณควรต้องเริ่มคิดใหม่แล้วล่ะว่าการได้ 10 PIP ต่อวันมันดีกว่าการขาดทุนเพราะหวังจะได้ 50 PIP จริงไหม ก็ในเมื่อการได้ 50 PIP มันยากกว่าการได้ 10 PIP แล้วทำไมในช่วงเริ่มต้น คุณถึงไม่เลือกทำในสิ่งที่ง่ายล่ะ??
อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ คุณต้องวางแผนการเทรด เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้คุณไม่เทรดโดยใช้อารมณ์และความโลภ เชื่อเหอะว่ามันจำเป็นหากคุณอยากจะดำรงชีพด้วยการเป็น freedom trader
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/haji-warithu/?/

ก่อน ที่ Haji จะมาเป็นเทรดเดอร์อิสระ เขาทำงานในบริษัทขนส่งก๊าซ LNG (liquified natural gas) แห่งหนึ่งในประเทศบรูไน งานของเขาจะต้องเดินทางอยู่ในทะเลตลอดเป็นเดือนๆ เขาไม่ค่อยมีเวลาให้กับครอบครัวเท่าไหร่นัก จนในกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างที่เขาเดินทางอยู่กลางทะเลจากบรูไนไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อขนส่งก็าซ LNG เหมือนดังเคย เขาเริ่มมีอาการผิดปกติบางอย่าง สุดท้ายเขาพบว่าเขาเป็นมะเร็ง !!!!! และสิ่งนี้ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
Haji ตัดสินใจลาออกจากงาน และใช้เวลาอยู่ที่บ้านเพื่อเทรด forex แทน โดยเขาได้เรียนรู้การเทรด forex มาจาก Rob Booker เทรดเดอร์อิสระ ผู้เขียนหนังสือ The adventure of the currency trader โดยสำหรับเขาแล้ว Rob booker เป็นแรงบันดาลใจให้เขาก้าวเข้ามาสู่อาชีพเทรดเดอร์อิสระเป็นอย่างมาก
ตอน นี้ Haji มีรายได้จากการเทรด forex เพียงอย่างเดียว การเทรดได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและทุกๆอย่างในชีวิตของเขา เขารักงานนี้ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากเมื่อคุณได้ทำงานที่ตัวเองรักและมันให้ผลตอบแทนที่ ดีกับคุณไปพร้อมๆกัน
เทคนิคการเทรดของ Haji
เขา เปิดเผยว่าเขาจะเน้นการเทรดสั้นๆ เข้าในจังหวะที่มั่นใจ และมีการวาง Stop loss ทุกครั้ง โดยในช่วงเริ่มต้นการเทรด เขาพยายามฝึกเทรดในจำนวน lot น้อยๆ แล้วค่อยๆเพิ่ม lot ขึ้นไปเรื่อยๆ ในจุดนี้ เทรดเดอร์มือใหม่ต้องระวัง จำไว้ว่า ในช่วงที่เพิ่งเริ่มทำกำไรได้ คุณต้องรักษาวินัยและระบบเทรดของตัวเองเอาไว้ให้มีความสม่ำเสมอ อย่าพยายาม overtrade ในช่วงเริ่มต้น คุณต้องค่อยๆก้าว จำไว้ว่าความสำเร็จนั้นมีขั้นตอน คุณเข้ามาในตลาดแห่งนี้เพื่อจะทำกำไรจากมัน ไม่ได้จะมาเป็น super star ในวงการ เพราะฉะนั้น คุณไม่ต้องเร่งจังหวะของตัวเองเกินไป เพราะการเร่งจังหวะ และการเพิ่ม lot ในขณะที่จิตใจคุณยังไม่พร้อมกับเงินที่ใหญ่ขึ้น นั่นจะทำให้คุณหมดตัวในตลาดแห่งนี้แม้คุณจะเทรดถูกทางก็ตาม
สำหรับ ระบบการเทรดของเขานั้น Haji เผยว่ามันเป็นอะไรที่เรียบง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน โดยเขาจะใช้ indicator ไม่กี่ตัว ก็คือ Bollinger Band, CCI และ supply demand โดยการเข้า order ที่ปลอดภัยก็คือ คุณจะเข้าซื้อที่แนวรับแนวต้านเท่านั้น เขาให้เหตุผลที่ออกแบบระบบให้เรียบง่ายนั้นเพราะเขาเชื่อว่าจริงๆทุกระบบ สามารถทำกำไรได้ ดังนั้นคุณจะเลือกใช้ที่มันยากๆทำไม เพราะแท้จริงๆแล้ว คุณจะได้กำไรหรือไม่ ตัวระบบเทรดนั้นมีผลค่อนข้างน้อย สิ่งที่สำคัญคือระบบความคิดที่ถูกต้อง วินัย และ money management ต่างหากที่จะตัดสินว่าคุณจะอยู่ในอาชีพนี้ได้นานแค่ไหน
Time Frame ที่ใช้
เนื่อง จากสไตล์การเทรดของเขาเป็นแนว Scalper เน้นเก็บ PIP สั้นๆ ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะใช้ TF 15 นาทีในการเข้า order แต่เขาก็เผยว่าคุณจำเป็นต้องตรวจสอบสัญญาณที่ตรงกันใน TF ที่ใหญ่กว่าอย่าง 1 ชั่วโมง หรือ 1 วัน ด้วยในการเข้าเทรด เพื่อลดโอกาสความผิดพลาด การเทรดตามแนวโน้มเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันคุณจากความเสียหายที่รุนแรง ได้
อย่างไรก็ตาม เขาเปิดเผยว่าทุกวันนี้ สไตล์การเทรดของเขาเปลี่ยนแปลงไปจากในช่วงแรกเล็กน้อย โดยเขาจะให้ความสำคัญกับ TF ที่ใหญ่กว่าเดิม และตั้ง target มากขึ้นพอสมควร โดยการเข้า order เขาชอบที่จะตั้ง pending order ไว้ที่แนวรับแนวต้านที่เขาวิเคราะห์ไว้ และก็ตั้ง Stop loss เผื่อไว้ รวมถึงวางแผนไว้ล่วงหน้าทั้งหมดว่าจะออกที่ตรงไหน
ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่
คุณ ต้องหวังที่จะเก็บแค่วันละ 10 PIP ก็พอ ทำไมต้องเก็บ PIP น้อยๆ ก็เพราะว่าแท้จริงแล้วการที่คุณหวังที่จะเก็บ PIP น้อยๆ อย่าง 10 PIP นั้นมันเป็นอะไรที่ง่ายและมีความเป็นไปได้ในการเทรดของคุณ แต่คุณอาจจะรู้สึกว่า 10 PIP สำหรับคุณมันน้อยเกินไป คุณหวังว่าจะได้วันละ 50 PIP คำถามก็คือ ถ้าวันนี้คุณยังขาดทุนอยู่ ไอ้ 50 PIP ที่คุณหวังมันคงไม่มีความหมายอะไรหรอก คุณควรต้องเริ่มคิดใหม่แล้วล่ะว่าการได้ 10 PIP ต่อวันมันดีกว่าการขาดทุนเพราะหวังจะได้ 50 PIP จริงไหม ก็ในเมื่อการได้ 50 PIP มันยากกว่าการได้ 10 PIP แล้วทำไมในช่วงเริ่มต้น คุณถึงไม่เลือกทำในสิ่งที่ง่ายล่ะ??
อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ คุณต้องวางแผนการเทรด เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้คุณไม่เทรดโดยใช้อารมณ์และความโลภ เชื่อเหอะว่ามันจำเป็นหากคุณอยากจะดำรงชีพด้วยการเป็น freedom trader
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/haji-warithu/?/
ก่อนคิดใช้ทุกความรู้ในการเทรด
Posted by
goodintequila
on Sunday, November 9, 2014
Labels:
กลยุทธ์,
กำไร,
เทรด,
พื้นฐาน,
ฟอร์เร็กซ์,
ระบบเทรด Cowbaunga,
เรียนรู้
/
ตอนนี้คุณก็พร้อมที่จะครองโลกฟอร์เร็กซ์แล้ว คุณพร้อมที่จะเกษียณ
อีกไม่กี่ปี แล้วไปเที่ยวรอบโลกไปกับเครื่องบินส่วนตัว ใช่ไหม? คิดอีกที
ไม่ดีกว่า ! คุณฝันสลาย แต่อย่างน้อยก็ได้ฝัน ใกล้แล้ว
เราบอกไว้ตั้งแต่เริ่มแล้วว่า มันไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าเพิ่งเทรดใหม่
คุณอาจจะเทรดได้น่ากลัว
ไม่ มีใครเป็นมืออาชีพตั้งแต่แรก ทุกคนต้องเรียนรู้ และต้องใช้เวลา คุณถึง จะรู้ถึงคุณค่าของมัน การเดินดุ่ม ๆ เข้าไปเทรดด้วยบัญชีจริงเลย เหมือนกับ ลงไปแข่งบาส NBA หลังจากที่ เพิ่งจะอ่านคู่มือ การเล่น บาสเกตบอล "Basketball for Dummies" คุณยังไม่ฉลาด ยังไม่แข็งแรง และยังควบคุม อะไรได้ไม่ดี คุณยังไม่ได้พัฒนาทักษะ หรือ จิตใจ ร่างกาย เพียงพอ ที่จะสู้ กับ มืออาชีพหรอก ? เหมือนกับที่ คุณกำลังเข้ามาในตลาด
โลกแห่งค่า เงินนั้น ไม่แน่นอนและซับซ้อน มีคนที่สุดโต่ง อยู่ในตลาด เต็มไปหมด บางคนจบด็อคเตอร์ บางคนจบ ปริญญาโท บางคนจบจาก โรงเรียนชั้นนำ ที่มีเงินเยอะ และบางคนมีเครื่องมือเทคโนโลยีชั้นสูงเมื่อคุณเข้ามาในโลกของฟอร์เร็กซ์ คุณต้องพร้อมที่จะดำผุดดำว่าย ปล้ำกับฉลามเหล่านี้ และพวกมันชอบกินเหยื่ออย่างเรา ๆ ซะด้วยสิ
คุณกลัวหรือเปล่า?
เรา อยากให้แน่ใจว่า คุณเข้าใจว่า ถึงแม้ว่าคุณจะสนุกกับฟอร์เร็กซ์ขนาดไหน การเทรดฟอร์เร็กซ์ ก็เป็นเรื่องเครียด เป็นธุรกิจ และคุณต้องใส่ใจกับมันด้วยด้วยเหตุนี้ ทุกคนต้องเอาใจใส่กับ ธุรกิจ เพื่อจะได้มีส่วนในผลประโยชน์เหล่านี้บ้าง
ใช่ คุณทำได้ แต่ว่า ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรดฟอร์เร็กซ์ บทความในเว็บนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่เราได้แบ่งปัน ให้คุณเริ่ม ในทางที่ถูกต้อง
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/t508/?/

ไม่ มีใครเป็นมืออาชีพตั้งแต่แรก ทุกคนต้องเรียนรู้ และต้องใช้เวลา คุณถึง จะรู้ถึงคุณค่าของมัน การเดินดุ่ม ๆ เข้าไปเทรดด้วยบัญชีจริงเลย เหมือนกับ ลงไปแข่งบาส NBA หลังจากที่ เพิ่งจะอ่านคู่มือ การเล่น บาสเกตบอล "Basketball for Dummies" คุณยังไม่ฉลาด ยังไม่แข็งแรง และยังควบคุม อะไรได้ไม่ดี คุณยังไม่ได้พัฒนาทักษะ หรือ จิตใจ ร่างกาย เพียงพอ ที่จะสู้ กับ มืออาชีพหรอก ? เหมือนกับที่ คุณกำลังเข้ามาในตลาด
โลกแห่งค่า เงินนั้น ไม่แน่นอนและซับซ้อน มีคนที่สุดโต่ง อยู่ในตลาด เต็มไปหมด บางคนจบด็อคเตอร์ บางคนจบ ปริญญาโท บางคนจบจาก โรงเรียนชั้นนำ ที่มีเงินเยอะ และบางคนมีเครื่องมือเทคโนโลยีชั้นสูงเมื่อคุณเข้ามาในโลกของฟอร์เร็กซ์ คุณต้องพร้อมที่จะดำผุดดำว่าย ปล้ำกับฉลามเหล่านี้ และพวกมันชอบกินเหยื่ออย่างเรา ๆ ซะด้วยสิ
คุณกลัวหรือเปล่า?
เรา อยากให้แน่ใจว่า คุณเข้าใจว่า ถึงแม้ว่าคุณจะสนุกกับฟอร์เร็กซ์ขนาดไหน การเทรดฟอร์เร็กซ์ ก็เป็นเรื่องเครียด เป็นธุรกิจ และคุณต้องใส่ใจกับมันด้วยด้วยเหตุนี้ ทุกคนต้องเอาใจใส่กับ ธุรกิจ เพื่อจะได้มีส่วนในผลประโยชน์เหล่านี้บ้าง
ใช่ คุณทำได้ แต่ว่า ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรดฟอร์เร็กซ์ บทความในเว็บนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่เราได้แบ่งปัน ให้คุณเริ่ม ในทางที่ถูกต้อง
ศึกษาข้อมูลได้ที่ http://www.thaibestforex.com/forex/t508/?/