RSS
Showing posts with label ทักษะ. Show all posts
Showing posts with label ทักษะ. Show all posts

การป้องกันความเสี่ยง

ก่อนที่จะลงลึกไปในรายละเอียดกว่านี้ เราบอกคุณได้อย่างไม่ปิดบังเรื่องที่ต้องคิดก่อนที่จะเทรด คือ:

1. นักเทรดทุกคน หมายถึง ทุกคนจริงๆ จะเสียเงินในการเทรด
90 เปอร์เซ็นของเทรดเดอร์ จะเสียเงิน เนื่องจากขาดการวางแผน การฝึก และไม่มีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องการ จัดการ การเงิน ถ้าคุณไม่อยากเสียเงิน คุณจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเทรด หรือการปรับตัว ในการ เทรด

2. การเทรดฟอร์เร็กซ์ ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ทำงาน ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีรายได้น้อย และไม่สามารถ
ดูแลตัวเอง จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่ากับข้าวให้ตัวเองได้
คุณ ควรจะมีเงินในการเทรด ในบัญชี mini เป็นอย่างน้อย นั่นหมายความว่าเป็นเงินที่คุณ สามารถเสียไปได้ ไม่ใช่ยืม คนอื่นมาเล่น อย่าคิดว่าจะสามารถเริ่มเทรดด้วยเงินเพียงไม่กี่ร้อยเหรียญแล้วจะกลายเป็น มหาเศรษฐี ในชั่วข้ามคืน

ตลาดฟอร์เร็กซ์เป็นตลาดที่ได้รับความนิยม มาก สำหรับนักเก็งกำไร เนื่องจากตลาดที่มีความคล่องตัวสูง ของการ เคลื่อนไหว ของทิศทางค่าเงิน เมื่อเกิดเทรนด์ขึ้น นักเทรดทั่วโลกส่วนใหญ่จะ เสียเงิน ขณะที่คนที่ประสบ ความ สำเร็จ กับฟอร์เร็กซ์ มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเทรดเดอร์ ทั้งหมด

เทรดเดอร์ส่วน ใหญ่เข้ามาในตลาด พร้อมกับ ความหวังว่า พวกเขาจะทำเงินได้เป็นล้านเหรียญ แต่ว่าในความจริง พวกเขา ต้องมีวินัยในการเทรด ผู้คนส่วนมากจะขาดวินัยอยู่แล้วแม้กระทั่ง แค่พยายามจะลดน้ำหนัก ด้วยการ ไปที่ยิมสามครั้ง ต่อสัปดาห์ยังทำได้ยาก ถ้าแค่นั้นคุณยังทำ ไม่ได้คุณจะเทรดแล้วประสบความสำเร็จได้ยังไง การเล่นระยะสั้นนั้น ไม่เหมาะกับมือสมัครเล่น และมันเป็นหนทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามในการ ทำให้ตัวเอง รวยขึ้น คุณไม่สามรถทำกำไร ได้มหาศาลโดยไม่เสี่ยงเลยได้หรอก กลยุทธ์การเทรดที่เสี่ยงสูง ย่อมหมายถึง โอกาสที่คุณ จะขาดทุนสูงเข้าไปด้วย เทรดเดอร์ที่ทำอย่างนั้น เรียกได้ว่าไม่มีแม้กระทั่งกลยุทธในการเทรด แม้ว่าคุณจะเรียกมันว่ากลยุทธการพนันก็ตาม


ฟอร์เร็กซ์ ไม่ใช่หนทางไปสู่ความร่ำรวยมั่งคั่ง !
- การเทรดฟอร์เร็กซ์เป็นทักษะ และต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ นักเทรดที่มีทักษะที่ดี สามารถทำเงินได้ จากการเทรด อย่างไรก็ตามก็เหมือนอาชีพอื่น ๆ ความสำเร็จไม่ได้มา เพียงชั่วข้ามคืน การเทรดฟอร์เร็กซ์ ไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ (เหมือนที่คนบางคนเชื่อ) ลองคิดดูว่า ถ้าทุกคนที่เทรดจะ ได้เป็นเศรษฐีกันหมด ทำไม ระดับมืออาชีพที่เทรดมาหลายปีก็ยังต้องขาดทุนอยู่บ้าง

- ท่องไว้ในหัวของคุณเสมอ : ไม่มีทางลัดในการเทรดฟอร์เร็กซ์ มันใช้เวลานาน และนาน และนาน ยิ่งกว่า อย่างอื่น ในการที่เราจะกลายเป็นมืออาชีพ ไม่มีตัวสำรองให้เปลี่ยน เมื่อเรารู้สึกเหนื่อย และคิดว่างานนั้นยาก ในการฝึกเทรดเดโม และการเล่นเงินปลอม แล้วคิดว่าเป็นเงินจริง

อย่าพึ่งเปิดบัญชีเงินจริง จนกว่าคุณจะเทรดแล้วได้กำไรในบัญชีเดโม

ถ้า คุณไม่สามารถรอให้คุณทำกำไรในบัญชีเดโมได้ อย่างน้อยคุณก็ต้องลองเทรดเดโมซักสองเดือน อย่างน้อย คุณก็จะไม่เสียเงินจริง ไปอย่างน้อยสองเดือน ถ้าแค่สอง เดือนคุณยังเทรดเดโมไม่ได้กกำไร ก็เลิกเล่นซะ

- จำไว้ว่า เล่นคู่หลัก ๆ ซักคู่หนึ่ง มันยากที่จะเทรดด้วยการเทรดหลายค่าเงิน เมื่อตอนที่คุณกำลังหัดเล่น เล่นแค่คู่หลัก ๆ คู่เดียวพอ เพราะค่า spread ก็จะถูกด้วย



คุณอาจจะเป็นผู้ชนะในการเทรดฟอร์เร็กซ์
แต่ว่า.. ในชีวิตของคุณ คุณต้องศึกษามันอย่างหนัก
ทำการบ้าน ทุ่มเท และต้องใช้โชคช่วยนิดหน่อย
ต้องใช้สามัญสำนึก และ การตัดสินใจที่ดี เป็นอย่างมาก
 
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/t637/?/

คำศัพท์ประจำวงการ forex

รู้จักศัพท์ ที่ใช้ใน ฟอร์เร็กซ์
หลังจากได้เรียนทักษะ ใหม่ ๆ ก็ควรต้องเรียนศัพท์ ที่ใช้ในวงการฟอร์เร็กซ์ด้วยม รู้จัก ส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่จะ เริ่มเทรด บางคำนี้ อาจจะรู้อยู่แล้ว ไม่้เป็นการเสียหลาย ในการทบทวนสิ่งที่รู้มา

ค่าเงินหลัก ค่าเงินรอง
ค่าเงินหลัก ที่มีการเทรดมากที่สุด (USD, EUR, JPY, GBP, CHF, CAD, NZD, AUD) เรียกว่า major currencies
ค่า เงินอื่น ๆ เรียกว่า minor currencies ไม่ต้องสนใจ minor currencies มาก ส่วนใหญ่จะเฉพาะคนที่เล่นมานาน แล้วเท่านั้น ในที่นี้ส่วนใหญ่ จะพูดถึง Fab Five (USD, EUR, JPY, GBP, CHF) ค่าเงินเหล่านี้ มีสภาพคล่องสูง และน่าดึงดูดให้เทรดมากที่สุด


Base Currency
base currency คือ ค่าเงินตัวแรก หรือตัวหน้าของคู่เงินแต่ละคู่ แสดงมูลค่าเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ second currency ตัวอย่างเช่น ถ้า USD/CHF เรท เท่ากับ 1.6350 หมายความว่า 1 ดอลล่าร์ มีมูลค่าเท่ากับ 1.6350 สวิสฟรังค์ ในตลาดฟอร์เร็กซ์ดอลล่าร์ส่วนใหญ่จะถูกใช้เป็น ค่าเงินพื้นฐาน (base currency) ในการคำนวณ คือ เราใช้เงิน 1 USD เทียบกับค่าเงินอื่นในคู่อื่น ๆ นั้น แต่ยกเว้นค่าเงินเหล่านี้ เงินปอนด์ เงินยูโร เงินดอลล่าร์ออส เตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะใช้ค่าเงินตัวเองเป็น ค่าเงินพื้นฐานในการคำนวณ


Quote Currency
quote currency หรือค่าเงินอ้างอิง เป็นค่าเงินตัวที่สองของคู่เงิน ที่มีในตลาดฟอร์เร็กซ์ ซึ่งบางครั้งอาจจะ เรียกว่า pip currency และกำไรที่เรายังไม่รับรู้ (คือยังไม่ได้ปิด position) ก็จะถูกอธิบายมาเป็นค่าเงินนี้


Pip
pip คือหน่วย ที่เล็กที่สุดของราคาในแต่ละค่าเงิน แทบทุกค่าเงินจะมีทศนิยมอยู่ข้างหลังตัวเลขอยู่เสมอ ตัวอย่าง EUR/USD อัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 1.2538. ในที่นี้ 1 pip เป็นการเปลี่ยนแปลงในสี่จุดทศนิยม นั่นก็คือ 0.0001 ดังนั้น ถ้าค่าเงินอ้างอิงในคู่เงินใด ๆ คือ USD 1 จะเท่ากับ 1/100 ของ 1 cent. USD/JPY มีข้อยกเว้น เพราะว่า 1 pip = $0.01.


Bid Price
Bid เป็นราคาตลาด ที่ใช้ในการซื้อค่าเงินในตลาดฟอร์เร็กซ์ ณ ราคานี้ เทรดเดอร์ใช้ในการ sell base currency. จะแสดงอยู่ทางด้านซ้ายของราคาค่าเงิน ตัวอย่าง ในคู่ GBP/USD 1.8812/15, bid Price คือ 1.8812. หมายถึง เรา sell 1 ปอนด์ แล้วเราจะได้เงิน 1.8812 ดอลล่าร์


Ask Price
Ask เป็นราคาที่ใช้ในการขายค่าเงินใด ๆ ในตลาดฟอร์เร็กซ์ ที่ราคานี้ เทรดเดอร์ จะ buy base currency และ อยู่ด้านขวา ของราคาค่าเงิน ตัวอย่าง EUR/USD 1.2812/15 ask price คือ 1.2815 หมายถึง เราสามารถ buy 1 ยูโร โดยใช้เงิน 1.2815 ดอลล่าร์ และราคานี้เรียกว่า offer price.


Bid/Ask Spread
Spread เป็นความแตกต่างระหว่างราคา bid กับ ask "big figure quote" เป็นคำพูดที่โบรคเกอร์ใช้ในการอธิบาย ค่าเงิน ที่มีทศนิยมน้อย โบรคเกอร์จะไม่พูดตัวเลขค่าเงินหลักข้างหน้า ตัวอย่างเช่น USD/JPY มีอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 118.30/118.34 แต่ว่าพวกเขาจะเรียกสั้น ๆ ว่า 30/34


ที่มาของอัตราแลกเปลี่ยน
อัตราเปลี่ยนในตลาดฟอร์เร็กซ์ อธิบายได้ง่าย ๆ ดังนี้ Base currency / Quote currency , Bid / Ask


Transaction Cost
ค่า bid/ask หรือ spread นั้นก็คือ transaction cost เป็นค่าใช้จ่ายในการเทรดต่อครั้งนั่นเอง หนึ่งรอบ จึง หมายถึง การซื้อ (หรือขาย) และการปิดบัญชีที่เราซื้อ(หรือขาย) ในขนาดของออร์เดอร์ที่เท่ากัน และค่าเงิน เดียวกัน ตัวอย่างเช่น ในกรณีของ EUR/USD อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1.2812/15, transaction cost เท่ากับ 3 จุดนั่นเอง สูตรในการคำนวณ Transaction Cost คือ Transaction cost = Ask Price – Bid Price


Cross Currency
cross currency คือคู่เงินใด ๆ ที่ไม่มีค่าเงินดอลล่าร์อยู่ในคู่เงินนั้น ๆ ซึ่งคู่เหล่านี้จะเอาแน่เอานอนไม่ได้ (ผันผวน) เพราะต้องใช้คู่เงินที่มีดอลล่าร์สองคู่มาเทียบข้ามคู่กัน ตัวอย่าง ในการ buy EUR/GBP หมายความว่า เรากำลัง buy คู่ EUR/USD และกำลัง sell คู่ GBP/USD อยู่ การเล่นคู่ที่เป็น Cross currency จะทำให้มีค่า transaction cost สูงขึ้นด้วย


Margin
เมื่อเปิดบัญชีแบบ มาร์จิ้นใหม่กับฟอร์เร็กซ์โบรคเกอร์ เราต้องฝากเงินไว้กับโบรคเกอร์ด้วย ซึ่งก็จะมีขั้นต่ำ แล้วแต่ว่า โบรคเกอร์จะให้ฝากเท่าไหร่ บางโบรคเกอร์อาจจะให้ฝากแค่ 100 เหรียญ และบางโบรคเกอร์อาจจะให้ฝากถึง 100,000 เหรียญ (บางโบรคเกอร์ มีเงินจริงเล็กน้อย ให้เล่นในบัญชี ซึ่งจะถูกหักกลับเมื่อจะมีการโอนออกครั้งแรก) ในแต่ละครั้ง ที่คุณเทรด จะคิดเเป็นเปอร์เซ็นต์ของของเงินทั้งหมดของบัญชีมาร์จิ้น จะเรียกว่า initial margin requirement ซึ่งขึ้นอยู่กับค่าเงินและราคา รวมทั้งขนาดของลอทของคู่เงินนั้น ๆ ที่เราเทรด ซึ่งขนาดของลอทคือ ขนาดของ base currency. ตัวอย่าง หากเราเปิดบัญชี mini ซึ่งสามารถใช้ Leverage ได้ที่ 200:1 หรือ 0.5 % ของมาร์จิ้น บัญชีแบบ Mini สามารถเทรด mini lot ได้ ถ้าให้ 1 mini lot เท่ากับ 10,000 เหรียญ เราจะต้องใช้ มาจิ้นเท่ากับ 50 เหรียญ ($10,000 x 0.5% = $50).


Leverage
Leverage คือ อัตราส่วนของทุนที่ใช้เป็นต้นทุนในการส่งออร์เดอร์ ซึ่งจะต้องใช้มาร์จิ้น Leverage เป็นสิ่งที่สามารถ ใช้เงินจำนวนหนึ่งในการถือครอง Position ที่ใหญ่กว่าจำนวนเงินทุนของเรา Leverage จะแตกต่างกันไป ตามแต่ละ โบรคเกอร์ ซึ่งอาจจะเริ่มตั้งแต่ 2:1 ไปจนถึง 400:1


Margin + Leverage = ความสามารถในการพิฆาตบัญชีของคุณในพริบตา
การ เทรดค่าเงินที่ใช้มาร์จิ้นนี้ เราสามารถเพิ่มพลังในการซื้อได้ คือถ้าเรามีเงินอยู่ 5,000 เหรียญ ในบัญชีมาร์จิ้น และใช้อัตรา leverage ที่ 1:100 ก็จะสามารถซื้อค่าเงินได้มูลค่าถึง 500,000 เหรียญ เพราะเราแค่ใช้มาร์จิ้นแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าที่จะซื้อได้ หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า เรามีกำลังซื้อถึง 500,000 เหรียญ ด้วยกำลังซื้อที่สูงนี้ สามารถให้ผลตอบแทนต่อส่วนทุนมีสูงขึ้น แต่ก็ต้องระวังไว้เช่นกัน เพราะการใช้มาร์จิ้น ทำให้มี โอกาส ได้กำไรสูง และขาดทุนสูงเท่า ๆ กัน


Margin Call
เทรด เดอร์ส่วนใหญ่จะกลัวกับคำว่า margin call เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อโบรคเกอร์ บอกว่า ตอนนี้ มาร์จิ้นของคุณ น้อยกว่าเกณฑ์ที่ต้องใช้ในการถือครอง position เพราะ ค่าเงินนั้น เคลื่อนไหวในทางตรงข้ามกับ Position ที่ถืออยู่ ขณะที่กำลังเทรดโดยใช้มาร์จิ้นนั้น เราอาจจะมีกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้ แต่ว่ามันสำคัญที่ต้องเข้าใจความเสี่ยงด้วย ต้องเข้าใจ เกี่ยวกับบัญชีมาร์จิ้นอย่างละเอียด และต้องอ่านข้อตกลง ตอนเปิดบัญชีระหว่างเรากับโบรคเกอร์ อย่างถี่ ถ้วน ให้ถามโบรคเกอร์ ถ้าไม่เข้าใจข้อตกลงข้อไหน Position จะต้องถูกปิด แต่ราคามันอาจจะวิ่งไปต่ำกว่า มาร์จิ้น ที่มีในบัญชี เมื่อราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ดังนั้น คุณอาจจะไม่ได้รับการเตือน margin call เพราะ ออร์เดอร์ของคุณจะโดนปิดไปซะก่อน(เรื่องที่ไม่คาดฝัน) Margin calls สามารถเลี่ยงได้โดยการดูหน้าจอเทรด ให้บ่อยขึ้น หรือ โดยการใช้ stop-loss order เพื่อจำกัดความเสี่ยง


หมายเหตุผู้แปล :
margin call ตามความรู้ของผู้แปลคือ การที่บัญชีถึงจุดต่ำกว่ามาร์จิ้นที่ต้องใช้ในการถือครอง position ปกติ จะใช้ใน ตลาด future ซึ่งถ้ายอดขาดทุนต่ำกว่า ทางโบรคเกอร์จะเรียกให้ฝากมาร์จิ้นเพิ่ม ไม่เช่นนั้น โบรคเกอร์ ก็จะปิด position ของเราเพื่อมิให้เกิดการขาดทุนกับโบรคเกอร์ เพราะตลาดฟิวเจอร์มีการใช้ Leverage เหมือนกับ ตลาดค่าเงิน แต่อาจจะ ต่ำกว่ามาก

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-634/?/

เล่น Forex ในไทยผิดกฏหมายหรือไม่???

หลายท่านอาจสงสัยว่าการเล่น Forex นั้นผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ผิดทำไมบ้านเราถึงยังไม่มี Broker ที่ไหนให้บริการ ในความเป็นจริงแล้วการลงทุนใน Forex นั้นรัฐบาลไทยอนุญาติให้กับสถาบันการเงินใหญ่ๆ เท่านั้น ด้วยเหตุผลที่ว่า Forex เป็นแหล่งการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง และใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ประชาชนที่ไม่มีความรู้ที่เพียงพออาจเสียเงินทองจำนวนมากได้ และในอดีตมีข่าวทางด้านลบเกี่ยวกับบริษัทบางแห่ง เปิดให้บริการลูกค้าลงทุนใน Forex ในวงเงินที่สูง แต่กลับนำเงินไปรับความเสี่ยงเอง หรือทำตัวเป็นเจ้ามือเสียเอง ไม่ได้กินค่านายหน้าอย่างเดียว จนเมื่อลูกค้าทำกำไรได้มากๆ ก็ไม่สามารถจ่ายได้จนปิดบริษัทหนีไป ทำให้ Forex กลายเป็นสิ่งที่ไม่น่าลงทุน ไม่น่าเชื่อถือ ทำให้รัฐบาลออกกฎหมายเพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้ให้ห่างไกลจากประชาชน ซึ่งทำให้ประชาชนตาดำๆ อย่างเราถูกตัดโอกาสในการลงทุน ที่มหาเศรษฐีระดับโลกใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุนชั้นเยี่ยมของเขา

ปัจจุบันการลงทุน Forex ของประชาชนทั่วไปยังถือว่าผิดกฎหมาย ทั้ง Broker ที่เปิดให้ลงทุนในประเทศไทย และผู้ลงทุนที่โอนเงินไปลงทุนกับ Broker ในต่างประเทศ โดยรัฐบาลกลัวว่าจะเป็นช่องทางที่จะนำเงินนอกระบบไปฟอกเงินนั่นเอง สำหรับท่านที่ลงทุนเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเพิ่มทักษะทางการลงทุนคงไม่จำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องนี้มาก หากแต่ท่านที่ลงทุนเงินเป็นจำนวนมาก คงต้องคิดถึงความเสี่ยงด้านนี้ด้วย เนื่องจากการนำเงินกลับเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมากทางธนาคาร อาจทำให้ ปปง. เพ่งเล็งท่านได้ ตอนนี้ทำอะไรก็ตามแต่ ต้องโปร่งใส และพิสูจน์ไม่ได้ครับ แล้วท่านจะห่างไกลจากการตรวจสอบของรัฐบาลไทย ที่ยังเกรงว่าประชาชนของพวกเขาจะโดนหลอก จึงปิดกั้น แทนที่จะให้ความรู้ (เพราะมันง่ายดี)

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/forex-553/?/