RSS
Showing posts with label Average. Show all posts
Showing posts with label Average. Show all posts

Moving Average Convergence Divergence (MACD)

Moving Average Convergence Divergence (MACD)


MACD เป็นเครื่องมือที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกับราคา (TREND FOLLOWING) สามารถใช้วัดระดับ (DEGREE) ตลาดว่าเป็นตลาดขาขึ้น หรือตลาดขาลง

ค่ามตรฐานสำหรับ MACD อยู่ที่ 12,26,9 ผู้เทรดสามารถใช้ MACD เพื่อช่วยในการระบุพฤติกรรมของเทรนหรือราคาได้เช่น ราคากำลังเป็นเทรน

ราคากำลังชะลอตัวหรือสะสมแรง หรือ ราคากำลังจะกลับตัว MACD มีส่วนประกอบอยู่ 3 อย่างคือ


1. เส้น Moving Average
2.แท่ง Histogram
3.เส้น Zero Line


MACD แบบ Histogram สามารถบอกผู้เทรดได้ถึงภาวะของเทรนซึ่งมีอยู่ 3 สถานะคือ

1. สภาวะที่กราฟเป็นเทรน

2. สภาวะที่กราฟชะลอตัว

3. สภาวะที่กราฟกลับตัว


สัญญาณ จาก MACD แบบ Histogram ที่บ่งบอกว่าราคาเป็นเทรนขึ้น (UPTREND) เมื่อกลุ่มของแท่ง Histogram สามารถยืนเหนือเส้น Moving Average

ใน MACD ได้และเส้น Moving Average ใน MACD และกลุ่มของ Histogram สามารถยืนเหนือเส้น Zero Line ได้ จากนั้นแท่ง Histogram ลู่ขึ้นเรื่อย ๆ


สัญญาณจาก MACD แบบ Histogram ที่บ่งบอกว่าราคากำลังชะลอตัว (UPTREND SIDEWAY) กลุ่มของ Histogram อยู่ต่ำกว่าเส้น Moving Average

ใน MACD และเส้น Moving Average ใน MACD และกลุ่มของ Histogram สามารถยืนเหนือเส้น Zero Line ได้

[/img]

สัญญาณจาก MACD แบบ Histogram ที่บ่งบอกว่าราคากำลังกลับตัวจากเทรนขึ้นเป็นลง (Reversal) เมื่อกลุ่มของ Histogram อยู่ต่ำกว่าเส้น
Moving Average ใน MACD จากนั้นแท่ง Histogram ลู่ลงเรื่อย ๆ และเส้น Moving Average ใน MACD และกลุ่มของ Histogram

สามารถยืนอยู่ใต้เส้น Zero Line


วิธีการเทรดจาก MACD

ผู้เทรดไม่จำเป็นต้องรอให้ Histogram หรือเส้น Moving Average ใน MACD ตัด Zero Line เมื่อเห็นแท่ง Histogram

เริ่มตัดกับเส้น Moving Average ผู้เทรดสามารถเทรดตามทางนั้นได้เลยครับ เพราะมันจะเป็นการเข้าที่ภาวะราคาชะลอตัวพอดี

 
 
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/moving-average-convergence-divergence-(macd)/?/

Ichimoku Kinko Hyo

 Ichimoku Kinko Hyo


Ichimoku ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการดูแนวโน้มของราคาหรือ Trend ตามแบบฉบับของคนญี่ปุ่นเช่น เมื่อเส้น Tenkan Sen ตัดกับเส้น Kijun Sen

แปลว่าราคาจะเปลี่ยนแนวโน้มซึ่งเหมือนกับการตัดกันของเส้น Moving Average เป็นต้น Ichimoku ประกอบไปด้วยเส้น 5 เส้นคือ
1.Senkou Span A
2.Senkou Span B
3.Tenkan Sen
4.Kijun Sen
5.Chinkou Span
***ระหว่างเส้น Senkou Span A และ Senkou Span B จะมีจุดไข่ปลาที่มีชื่อเรียกว่า Kumo***


กลุ่มที่ 1: Senkou Span

Senkou Span จะถูก Shift ไปไว้ด้านหน้าของราคาเพื่อคำนวนหาแนวรับแนวต้านให้ราคาโดยคำนวนจาก High Open Low Close ของแท่งเทียน
ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อพยากรณ์อนาคตSenkou Span ประกอบไปด้วย

1.Senkou Span A

2.Senkou Span B

3.Kumo

หาก Senkou Span A อยู่สูงกว่า Senkou Span B หมายความว่าราคากำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นหรือกำลังเป็นเทรนขึ้น
หาก Senkou Span B อยู่สูงกว่า Senkou Span Aหมายความว่าราคากำลังอยู่ในแนวโน้มขาลงหรือกำลังเป็นเทรนลง

Kumo ทำหน้าที่เป็นเหมือนจุดสมดุลของเทรน ถ้าราคาวิ่งอยู่ใน Kumoแปลว่าราคากำลังสะสมแรง ผู้เทรดจะต้องรอให้ราคาทะลุ Kumo ออกมาก่อนจึงจะสามารถเทรดได้


กลุ่มที่ 2: Tenkan Sen และ Kijun Sen

การดู Tenkan Sen และ Kijun Sen ใช้หลักการเดียวกันกับ Moving Average Crossover หรือการตัดกันของเส้น Moving Average

ถ้าเส้น Tenkan Sen อยู่เหนือ Kijun Sen แสดงว่าแนวโน้มของราคากำลังเป็นเทรนขึ้น

ถ้าเส้น Kijun Sen อยู่เหนือ Tenkan Sen แสดงว่าแนวโน้มของราคากำลังเป็นเทรนลง

เส้น TenkanSenจะวิ่งเร็วกว่าเส้น KijunSenเสมอ


กลุ่มที่ 3: Chinkou Span


Chinkou Span เป็นเส้นที่ถูก Shift ไปไว้ด้านหลังของราคาแต่การวิ่งของเส้น Chinkou Span จะเหมือนราคาทุกประการ วิธีการดูเส้น Chinkou Span คือ

ถ้าเส้น Chinkou Span ตัดแท่งเทียนในอดีตขึ้นและยืนอยู่เหนือแท่งเทียนได้ หมายความว่า แนวโน้มของราคาเป็นเทรนขึ้น

ถ้าเส้น Chinkou Span ตัดแท่งเทียนในอดีตลงและยืนอยู่ใต้แท่งเทียนได้ หมายความว่า แนวโน้มของราคาเป็นเทรนลง


 
 
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่   http://www.thaibestforex.com/forex/ichimoku-kinko-hyo/?/
 

Moving Average

Moving Average


Moving Average หรือ เส้นค่าเฉลี่ย เป็นเส้นที่คำนวณค่าเฉลี่ยของการวิ่งของราคาออกมาจากแท่งเทียน แท่งเทียนจะประกอบไปด้วย COLH
หรือ Close Open Low High เส้นค่าเฉลี่ยจะคำนวณออกมาจากแนวเหล่านี้โดยผู้เทรดสามารถเลือกได้ว่าอยากให้เส้นค่าเฉลี่ยคำนวนจากอะไร
อาจจะเป็น Close ของแท่งเทียนอย่างเดียวหรือเอาจาก High ของแท่งเทียนอย่างเดียว ซึ่งผู้เทรดสามารถเลือกปรับได้ตามรูปด้านล่างนี้ครับ


Close = จุดปิดของแท่งเทียน
Open = จุดเปิดของแท่งเทียน
High = จุดสูงสุดของแท่งเทียน
Low = จุดต่ำสุดของแท่งเทียน
Medium Price (HL/2) = เอาค่าระหว่าง High และ Low มาบวกกันแล้วหารด้วย 2
Typical Price (HLC/3) = เอาค่าระหว่าง High,Low และ Close มาบวกกันแล้วหารด้วย 3
Weighted Close (HLCC/4) = เอาค่าระหว่าง High, Low, Close, Close มาบวกกันแล้วหารด้วย 4


กลยุทธ์ การลงทุนนั้น จะกำหนดเส้นค่าเฉลี่ย ในจำนวนวันที่แตกต่าง กัน ขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาการลงทุนของแต่ละบุคคล หรือรอบการเคลื่อนที่ของราคาตัวนั้น
ว่า การกำหนดด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเท่าใด ที่น่าจะได้ผลตอบแทนสูงที่สุด ผู้เทรดสามารถตั้งค่าของเส้นค่าเฉลี่ยได้ในช่อง "Period" โดยเส้นค่าเฉลี่ยที่ใช้กันทั่วไปมีตั้งแต่
     5   วัน   (1 สัปดาห์)  ใช้สำหรับการลงทุนระยะสั้น
   10   วัน  (2 สัปดาห์)   ใช้สำหรับการลงทุนระยะสั้น
   25   วัน  (ประมาณ1 เดือน) ใช้สำหรับการลงทุนระยะค่อนข้างปานกลาง
   75   วัน  (ประมาณ1 ไตรมาส) ใช้สำหรับการลงทุนระยะกลาง
   200 วัน  (ประเมาณ 1 ปี)  ใช้สำหรับการลงทุนระยะยาว 

 
ชนิดของเส้น Moving Average

เส้นค่าเฉลี่ยที่เทรดเดอร์นิยมใช้กันมีอยู่ 2 ประเภทคือ

    Simple Moving Average (SMA)
    Exponential Moving Average (EMA)

Simple Moving Average หน้าที่ของมันคือหาค่าเฉลี่ยของราคา ในช่วงเวลาที่เรากำหนด ส่วน EMA ย่อมาจาก Exponential Moving Average
ซึ่ง การทำงานของมันคือ เป็นการหาค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก โดยการให้ความสำคัญกับค่าตัวหนึ่งที่ชื่อ SMOOTHING FACTOR สูตรมันก็มีว่า 2/(n+1)
ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาและถ่วงน้ำหนักให้ค่าสุดท้ายมีความสำคัญเพิ่มขึ้น   

แล้ว SMA กับ EMA ต่างกันอย่างไร?       
การ เคลื่อนที่ SMA จะช้ากว่า EMA โดยถ้าเราจะเล่นแบบตัดกันแล้วเข้า เราก็ใช้ EMA จะให้ความแม่นยำกว่า ส่วน SMA นั้นนะครับ มันจะเป็นแนวรับแนวต้านให้เราได้ดีกว่า
เพราะเป็นการคำนวนฐานต้นทุนของ นักลงทุนจริงๆแต่สำหรับราคาของคู่เงินบางตัวก็ใช้ EMA ดีกว่า SMA หรือ SMA ดีกว่า EMA มันก็ขึ้นอยู๋กับเราเลือกใช้เพื่อจุดประสงค์อะไร
( โดยส่วนตัวใช้ SMA เป็นแค่แนวรับแนวต้านธรรมดา )

ตัวอย่างการใช้ Moving Average
เส้น ค่าเฉลี่ยที่ผมใช้โดยส่วนใหญ่จะมี  EMA 5 10 สองเส้นนี้จะเอาไว้ดูการตัดกัน เพื่อเข้าออเดอร์ และ EMA 55 110 220 สามเส้นนี้จะเอาไว้เป็นแนวรับแนวต้าน
1. ถ้าราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แล้วมีการปรับตัวลงมา เส้นค่าเฉลี่ย 55 110 220 จะกลายเป็นแนวรับทันที ถ้าราคาไม่สามารถผ่านเส้นเหล่านี้ได้ ราคาก็จะกลับตัวขึ้นไปสู่แนวโน้มขา
ขึ้นเดิมอีกครั้งและถ้าราคาสามารถทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 55 110 220 ลงมาได้ แนวโน้มก็จะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลงทันที
2.ถ้า แนวโน้มอยู่ในช่วงแนวโน้มขาลงแล้ว ราคามีการปรับตัวขึ้นไป (ปรับฐาน) เส้นค่าเฉลี่ย 55 110 220 จะกลายเป็นแนวต้านของราคาทันที หรือเราอาจจะเรียกมันว่า
เส้นแนวโน้มขาลง

ตัวอย่างจากแนสโน้มขาขึ้น


ตัวอย่างจากแนวโน้มขาลง

 
 
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่   http://www.thaibestforex.com/forex/moving-average-641/?/

5 ขั้นในการเป็นนักเทรด

ขั้นเเรก - ไร้สติเเละไร้คุณสมบัติ
นี้เป็นขั้นเเรกของ นักเทรดทุกคนเมื่อคิดที่จะเริ่มเทรด ท่านรู้ว่าการเทรดเป็นการหาเงินที่ดีเพราะท่านได้ยินใครๆก็พูดถึงเรื่องของ นักเทรดที่เป็น millionaire เหมือนกับคุณเริ่มคิดที่จะขับรถทุก อย่างดูเหมือนง่ายมันไม่น่าจะยากอะไรขนาดนั้น เหมือนกับการเทรดราคามีเเค่ขึ้นกับลง มันจะมีความลับอะไรกันมากมาย ท่านเลยคิดว่าเทรดเลยดีกว่าไม่น่าจะยาก เเต่เช่นเดียวกับการขับรถเมื่อท่านจับพวงมาลัยครั้งเเรก ท่านถึงได้รู้ว่าท่านไม่รู้อะไรเลย ท่านเปิดออเดอร์มากมาย เเละรับความเสี่ยงสูง พอท่านเปิดซื้อกราฟก็ตกพอท่านสั่งขายกราฟก็ขึ้นเป็นอยู่อย่างนี้ บางทีท่านอาจจะประสบความสำเร็จ นั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เพราะในสมองของท่านจะคิดว่าการเทรดเป็นเรื่องง่าย เเล้วท่านก็จะเพิ่มความเสี่ยงขึ้น เเละลงเงินมากขึ้นไปอีก ท่านพยายามที่จะเปลี่ยนการจากออเดร์ที่เสียด้วยการดับเบิ้ลเงินลงไปทุกครั้ง ในการเทรด บางครั้งท่านก็รอดมาได้เเต่ไม่บ่อยครั้งที่จะผ่านมาเเบบไม่เสีย ท่านยังไม่คิดว่าท่านไม่มีความสามารถในการเทรด ขั้นตอนนี้กินเวลาอาทิตย์ถึงสองอาทิตย์ ก่อนที่ท่านจะย้ายไปอีกขั้นนึง

ขั้นสอง - มีสติเเต่ขาดคุณสมบัติ
ขั้น ตอนสองคือท่านทราบการเทรดนั้นต้องมีการวางเเผน เเละลงมือลงเเรง จิตใต้สำนึกท่านทราบว่าท่านเป็นนักเทรดที่ขาดคุณสมบัติท่านไม่มีทักษะหรือ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการทำกำไรในตลาดเงิน ท่านเริ่มที่จะหาซื้อระบบการเทรดและ e-book ท่านหาหนังสืออ่านตามเว็บไซต์ทุกที่จากสหรัฐอเมริกาถึงยูเครน ช่วงนี้ท่านเริ่มต้นค้นหาอินดี้หรือระบบศักดิ์สิทธิ์ ขณะนี้ท่านจะย้ายจากระบบไประบบนึง อินดี้นึงไปอินดี้นึง ท่านจะเปลี่ยนจากวิธีนี้วันวิธีนู้นอีกวัน และสัปดาห์โดยสัปดาห์ไม่ใช่มันนานพอที่จะดูว่ามันใช่ได้หรือไม่ เวลาที่ท่านเจออินดี้ตัวใหม่ คุณจะมีความตื้นเต้น เเละคิดว่าอินดี้นี้ ละสุดยอดเเล้ว ท่านจะทดสอบระบบ อัตโนมัติใน Metatrader ท่านจะเล่นกับmoving average, Fibonacci, support และ resistant, Pivots, Fractals, DMI, ADX และอื่นๆ อีกร้อยเเปดในความหวังว่ามันจะเป็นระบบมหัศจรรย์ของท่าน ท่านจะเป็นคนเลือกบนเเละล่างพยายามหาจุดกลับตัวของกราฟและท่านจะพบตัวว่าเอง ไล่กวดเทรดที่เสีย และยังเพิ่มเงินลงไปเพราะคุณมั่นใจว่าท่านถูก ท่านจะไปอยู่ในเเชทลูมและเห็นว่าคนอื่นๆทำกำไรเเต่ทำไมไม่ใช่ท่านท่านมี ปัญหาที่ต้องการคำตอบล้านเเปด บางคำถามเมื่อตัวท่านเองย้อนกลับไปดูตัวท่านเองยังรู้สึกว่าเป็นคำถามที่งี่ เง่า แล้วท่านจะถึงจุดที่ท่านคิดว่าคนที่ออกมาบอกว่าได้กำไรทั้งหมดโกหก พวกเขาไม่น่าจะทำไรได้เพราะท่านก็ได้ศึกษาการเทรดมาเเต่ได้เเต่ขาดทุน ท่านก็รู้เท่าเท่ากับที่พวกเขารู้พวกเขาต้องโกหกเเน่เเน่. เเต่ พวกเขาอยู่ในตลาดเทรดทุกวัน และบัญชีของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นในขณะที่ของท่านลดลงเรื่อยๆ ท่านจะกลับไปเป็นเเบบวัยรุ่นอีกครั้งนึง – นักเทรดที่มีประสบการเเละสำเร็จให้คำอธิบายบอกเหตูผลบอกวิธีเเบบฟรีๆเเต่ท ่านก็ยังดื้อรั้นคิดว่าตัวเองถูกเเละท่านรู้ดีที่สุด ท่านก็ยังดั้นด้นเทรนทั้งที่ทุกคนรอบรอบข้างบอกว่าคุณบ้าไปเเล้วเเต่ท่านคิด ว่าท่านรู้ดีกว่า เมื่อท่านจะคิดได้เเล้วจะพยายามเทรดตามคนอื่นเเต่ก็ไม่สำเร็จ.ท่านพยายาม จ่ายค่าสัญญาณจากคนอื่น.ท่านก็จะจ่ายเงินให้กูรูคอยบอกเเละสอนไม่ว่ากูรูจะ ดีหรือไม่ดียังไงท่านก็ยังไม่สำเร็จเพราะท่านยังคิดว่าท่านรู้ดีที่สุด

ขั้น นี้อาจจะนานตราบเท่านาน - ในความเป็นจริงเเห่งโลกของความเป็นจริง เเละหลังจากที่พูดคุยกับนักเทรดคนอื่นๆ เเละจากประสบการขั้นนี้อาจจะนานเป็นปีถึงสามปี นี้เป็นขั้นที่นักเทรดถอนตัวถอดใจในการเทรด ประมาณ 60% ของนักเทรดใหม่ถอดใจใน 3 เดือนเเรก – พวกเขาถอดใจเป็นสิ่งที่ดี - ลองคิดดู - ถ้าการเทรดเป้นเรื่องง่ายทุกคนก็รวยกันหมดเเล้วอีก 20% ให้เวลาอีกหนึ่งปีแล้วความหมดหวังในการเสี่ยงจะทำให้บัญชีพวกเขาหมดไปอย่าง เเน่นอน

สิ่งที่ท่านอาจจะแปลกใจก็คือที่เหลืออีก 20% พวกเขาผ่านได้ประมาณ 3 ปี และเขาก็จะคิดว่าพวกเขาจะปลอดภัยแต่แม้จะผ่าน 3 ปีเเต่เเค่อีกเพียง 5-10% จะทำกำไรได้สมำเสมอ ตัวเลขอันนี้ไม่ได้เกิดมาได้จากอากาศไม่ได้โมเมขึ้นมา หลังจากที่คุณผ่านสามปีได้อย่าพึ่งวางใจ.มีคนเคยเถียงเรื่องเวลาหลายคนทุก ทุกคนไม่เคยรอดเกินสามปี.ถ้าท่านคิดว่าท่านรู้ดีลองถามตามบอดร์ดูว่าใครเทรด มาห้าปีเเล้วสามารถที่จะเทรดเต็มความสามารถ 100% บางทีอาจจะมีบางคนเป็นข้อยกเว้น เเต่ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเองสักคน ท่านจะค่อยๆ ออกมาจากขั้นนี้ ท่านลงทุนลงเเรงกับมันไปมากกว่าที่ท่านคาดคิด ท่านหมดเงินไปจากบัญชีเป็นสิบครั้งเ เละคิดจะเลิกตั้งหลายครั้งเเต่ท่านไม่เลิกเ พราะมันอยู่ในสายเลือดไปเเล้ว วันนึงในเสี้ยววินาทีท่านก็จะเข้าขั้นที่สาม

ขั้นที่สาม – Eureka
ช่วง สุดท้านของขั้นที่สองท่านเริ่มคิดได้ว่ามันไม่ใช่ที่ระบบที่ทำให้เกิดความ เเตกต่าง ท่านเริ่มที่จะคิดได้ว่าท่านสามารถทำเงินได้กับเเค่ simple moving average เเละไม่มีอย่างอื่น หากเเต่ว่าความคิดของท่านเ เละการจัดการเงินของท่านเป็นไปอย่างถูกต้อง ท่านเริ่มอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาในการเทรด เเละเข้าใจในตัวคาเเรกเตร์ในหนังสือทำให้เกิดความกระจ่าง การกระจ่างนี้เกิดจากสมองของท่านประติดประต่อได้ว่าไม่ว่าใคร ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรได้อย่างเเม่นยำในเวลาข้างหน้า ไม่ว่าจะสิบวินาทีหรืออีกยี่สิบนาที ท่านจะเลิกสนใจความคิดของคนอื่น ท่านเริ่มที่จะสร้างระบบของท่านเองเพียงระบบเดียว เเละมีความสุขกับระบบของท่าน เเละท่านเป็นคนกำหนดกะเกณฑ์ความเสี่ยงของตัวเอง ท่านจะเริ่มเทรดเมื่อท่านเห็นว่าท่านมีโอกาสที่จะทำกำไร เเละเมื่อเสียท่านก็ไม่โกรธตัวท่านเอง เพราะท่านรู้ว่าอยู่ในหัวของท่านว่าท่านไม่อาจคาดเดาตลาดได้เเละมันไม่ใช่ ความผิดของท่าน เมื่อท่านเทรดเเล้วเเล้วรู้ว่าเสียท่านปิดออเดอร์ เทรดอันต่อไปเเละต่อไปท่านรุ้ว่ามีเปอรเซ็นสำเร็จ เพราะท่านรู้ว่าระบบของท่านสามารถทำกำไรได้ ท่านเลิกที่จะมองเเค่การเทรดเเค่มุมมองของเทรดออเดอร์เดียว ท่านเปลี่ยนมุมมองของท่านเป็นอาทิตย์เเละคิดว่าเทรดผิดครั้งเดียวไม่ได้หมาย ความว่าระบบของท่านใช่ไม่ได้ ท่านจับไดว่าการเทรดขึ้นอยู่กับสิ่งเดียวคือความสมำเสมอเเละการมีวินัย ท่านเรียนรู้เรื่องการจัดการเงิน เเละความเสี่ยงทุกอย่างเริ่มซึมซับ ท่านมองย้อนกลับไปถึงนักเทรดที่ใหห้ความรู้กับท่าน เเต่ก่อนด้วยความยิ้มเเย้มว่าตอนนั้นท่านยังไม่พร้อมเเต่ตอนนี้พร้อมเเล้ว

ขั้นสี่ - มีสติเเละความสามารถ
ท่าน ทำการเทรดเมื่อระบบของท่านบอก ท่านทำใจยอมรับการเสียได้เหมือนกับท่านได้กำไรจากการเทรด ตอนนี้ท่านปล่อยให้ออเดรที่ทำกำไรทำกำไรถึงที่สุด โดยยอมรับความเสี่ยง เเละรู้ว่าระบบของท่านทำกำไรได้มากกว่าที่เสียไป.เเละเมื่อท่านอยู่ฝั่งที่ เสียท่านปิดออเดอร์โดยเจ็็บปวดเล็กน้อยใน account ของท่าน ตอนนี้ท่านถึงจุดที่ท่านเสมอตัวซะส่วนมาก ทุกทุกวันจะมีบางอาทิตย์ที่ท่านได้100 pips เเละสัปดาห์ที่เสีย100 pips เเต่ท่านก็เสมอตัวไม่ขาดทุน ตอนนี้ท่านรู้ว่าท่านเป็นคนตัดสินใจในการเทรดเเละเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ตามระบบของท่านไม่ว่าได้หรือเสีย.ท่านได้รับการยอมรับจากนักเทรดคนอื่นๆ ท่านยังต้องขัดเกลาเเละเช็คการเทรดของท่านอย่างสมำเสมอ ท่านเริ่มที่จะทำเงินได้มากกว่าเสีย ท่านจะเริ่มวันด้วยการได้กำไร 20 pips เเละก็ เสีย 35 pips เเต่ท่านไม่รู้สึกอะไร เพราะท่านรู้ว่าเสียไปเเล้วมันก็จะกลับมาหาท่านอีก ท่านเริ่มที่จะทำกำไรสัปดาร์ต่อสัปดาร์ 20 pipsสัปดาร์นี้ 50 pips สัปดาร์หน้า ขั้นนี้จะประมาณ หกเดือน

ขั้นห้า – ไร้สติเเต่มีความสามารถ

ขั้น นี้เหมือนเราขับรถ ทุกวันเราขึ้นรถขับออกไปปโดยสัณชาตญาณ เหมือนกับเราเทรด ท่านเทรดโดยสัญชาตญาณ เทรดเเบบ autopilot ท่านไม่ตื่นเต้นไม่ว่าจะทำได้ 200 pips หรือ 1 pip ท่านเห็นเด็กใหม่ในฟอรั่มเเล้วย้อนคิดไปถึงท่านในอดีตหลายปีมาเเล้ว นี้คือสวรรคของการเทรด – ท่านได้บรรลุโดยการเทรดเเบบไม่ใช่อารมณ์ เเละความรู้สึกมาร่วม Account ของท่านเติบโตขึ้น ท่านเป็นที่รู้จักของนักเทรดทุกคนคอยฟังความเห็นของท่าน เเต่ท่านรู้ว่าบางคนก็ไม่ทำตามเหมือนท่านสมัยก่อน การเทรดเริ่มน่าเบื่อเพราะพอท่านทำอะไรได้ดีหรือเก่งท่านก็จะเริ่มเบื่อไม่ มีอะไรมาทำให้ท่านได้รู้สึกเเข่งขัน ท่านเริ่มหายจากห้องสนทนา เเละหาเพื่อนคุยกันรู้เรื่องโดยที่ไม่ผันตามความคิดของท่าน ท่านไม่ได้เปลี่ยนเเปลงระบบ เเต่พัฒนาระบบให้ดีขึ้น ตอนนี้ท่านมีสัญชาตญาณในการเทรด ท่านสามารถเรียกตัวเองได้เต็มปากว่า “forex trader” เเต่ท่านไม่รู้สึกอะไรคิดเเค่มันก็เเค่เป็นอาชีพอาชีพหนึ่ง

โปรด จำไว้ว่าเเค่ ห้าเปอรเซ็นของนักเทรดที่สามารถถึงจุดนี้ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความฉลาดหรือความสามารถ เเต่ขึ้นอยู่กับความสามารถที่จะเปลี่ยนความคิดของตัวเอง เเละความหัวเเข็งของท่านได้ไหม เมื่อเวลาที่ท่าได้รับความคิด เเละความรู้ใหม่ๆ ก่อนที่ท่านจะถอดใจ ลองคิดดูว่าท่านจะยอมใช่เวลาไปโรงเรียนกี่ปี ถ้าท่านรู้ว่าตอนจบมามีงานที่ทำเงินได้ล้านนึงต่อปีรออยู่

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/5-587/?/

การใช้ MACD ทำกำไรในตลาด FOREX

การใช้ MACD ทำกำไรในตลาด FOREX พื้นฐานถึงขึ้นสูง[Style TradeMillion13Thai]

การใช้ MACD(Moving Average Convergence Divergence)
เหมาะในสภาวะตลาดที่เคลื่อนที่เป็นเทรน

ค่าเดิม 12, 26, 9
ค่าใหม่ 15,35,9

สัญญาณเข้า
1. ถ้าตัว Histogram (ภูเขา) อยู่เหนือเส้น Zero line ให้ Buy เราเรียกว่าภูเขาขึ้นบนบก
2. ตัว Histogram (ภูเขา) ถ้าอยู่ใต้เส้น Zero line ให้ Sell เราเรียกว่าภูเขาลงใต้น้ำ
3. ถ้าเส้น Signal 2เส้นห่างกันมาสัก 2-3 แท่งHistogram ให้เตรียม Buy/Sell
4. ถ้าเกิด Divergance ให้เตรียม Buy/Sell ไม่ต้องรอให้อยู่เหนือ-ใต้เส้น Zero line

สิ่งที่ควรระวัง

1. ถ้า Histogram มีความสูงติดๆกับเส้น Zero line ก็ไม่ควรเทรด
2. ถ้าเส้น Signal 2 เส้นติดกันมากก็ไม่ควรเทรด
3. การแก้ Divergance
4. ถ้าเส้น Signal 2 เส้นห่างกันมากก่อนถึงเส้น Zero line ให้เตรียมปิดออร์เดอร์

 ศึกษาข้อมูลได้ที่  http://www.thaibestforex.com/forex/macd-forex/?/